|
|
ขุนช้าง ขุนแผน ในพงศาวดาร 3
พ่อของขุนช้าง ขุนแผน และนางพิม
|
อยู่มาวันหนึ่งพระองค์ก็ได้ข่าวว่า ป่าทางเมืองสุพรรณบุรี มีควายป่าอยู่มาก คิดอยากไปประพาสป่า ล่าควายป่าที่นั่น ก็ทรงให้พระยาเดโช จัดการเรื่องเตรียมกระบวนไพร่พล ให้ขุนศรีวิไชยบอกให้ขุนไกร รวบรวมพวกไพร่ ช้างม้าต่าง ๆ คืนนั้นขุนไกรก็เกิดมีลางร้ายเห็นแมงมุมตีอก ส่วนนางทองประศรีก็ฝันร้ายว่าฟันหัก ขุนไกรฟังแล้วเห็นว่าเป็นลางร้าย รู้ว่าคราวนี้คงไม่รอด เมื่อตื่นเช้าจึงสั่งเสียให้นางทองประศรีดูแลลูกให้ดี |
เมื่อขบวนเสด็จถึงป่าสุพรรณบุรี ก็ได้สั่งให้ตั้งตำหนักห้างที่กลางป่า ให้หลวงฤทธานนท์ทำคอก และให้ขุนไกรไปไล่ควายป่ามาเข้าคอก
รุ่งเช้าขุนไกรก็พาไพร่พลไปไล่ควายป่า โดยให้จุดไฟเผาเป็นวงล้อมเข้ามาเรื่อย ๆ ควายป่าเห็นไฟ และได้ยินเสียงคนอึกทึก ก็แตกตื่นวิ่งมาไล่ขวิดผู้คน ขุนไกรเข้าขวางแล้วใช้หอกแทงควายตายล้มลง เป็นจำนวนมาก พระพันวษาทรงพระพิโรธ สั่งให้ประหารขุนไกร แล้วริบสมบัติ ข้าทาสบริวารและลูกเมีย ขุนไกรได้ยินก็ตกใจมาก เพราะเกรงบารมีพระพันวษา ทำให้ความอยู่ยงคงกระพันหมดไป
" ครานั้นฝ่ายตาขุนไกร |
|
ตกใจดังจะยับเป็นผุยผง |
ตัวสั่นขวัญหนีเหมือนผีลง |
|
จะดำรงกายนั้นก็เต็มที |
หน้าซีดผาดเผือดจนเลือดหาย |
|
ภูตพรายในตัวก็หลีกหนี |
สิ้นสติตัวสั่นขวัญไม่มี |
|
ดั่งจะดับชีวีในทันใด..." |
|
หลังจากที่ขุนไกรตาย หลวงฤทธานนท์ก็สั่งให้ คนถือจดหมายไปบอกกับนางทองประศรีถึงเรื่องราวทั้งหมด และให้รีบหนีไป นางทองประศรีก็พาพลายแก้วหนีไปอยู่กับญาติของขุนไกรที่ดอนเขาชนไก่ เมืองกาญจนบุรี ทำมาหากินจนมีทรัพย์สินมากมาย |
มีนายโจรคนหนึ่งชื่อนายจันศร เป็นผู้อยู่ยงคงกระพัน อยู่ที่บ้านโป่งแดง คอยปล้นสดมภ์ชาวบ้านจนเป็นที่หวาดกลัวกันทั่ว วันหนึ่งคิดจะไปปล้นบ้านขุนศรีวิไชย ที่บ้านรั้วใหญ่ในสุพรรณ เพราะขุนศรีวิไชยกับนางเทพทองเป็นคนรวยมาก เมื่อพาพวกไปปล้นบ้านขุนศรีวิไชย ขุนศรีวิไชยพาชาวบ้านต่อสู้ ขุนศรีวิไชยแพ้ ถูกโจรจันศรจับได้และใช้หลาวสวนรูทวารตาย ฝ่ายพันศรโยธานั้น ได้ไปค้าขายอยู่ที่ละว้า เมื่อกลับมาเกิดเป็นไข้ป่วยหนักและตายลง นางศรีประจันและนางเทพทอง จึงร่วมกันเผาศพทั้งขุนศรีวิไชย และพันศรโยธา เสียในคราวเดียวกัน |
|
|
Update : 18/5/2554
|
|