หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    รามเกียรติ์ 23
    ศึกวายุภักษ์
      ฝ่ายยักษ์ชื่อวายุภักษ์ เจ้าเมืองวิเชียรที่เนินเขาจักรวาล พาไพร่พลผ่านมาที่ป่าซึ่งพระรามประทับแรมอยู่ เห็นพระราม พระลักษมณ์ อยู่ท่ามกลางขุนกระบี่ก็อยากกิน จึงโฉบลงมาจับตัวทั้งสองพระองค์ขึ้นไป สุครีพและหนุมานตามไปชิงตัวคืน แล้ววายุภักษ์ถูกนิลพัทกับองคตตัดหัวขาด

      ศึกท้าวอุณาราช
      จากนั้นพระรามได้เดินป่าต่อไป จนถึงบริเวณอาณาเขต เมืองสิงขร ซึ่งที่นั่นเป็นสวนของยักษ์ชื่อท้าวอุณาราช และมีนนทกาลเฝ้ารักษา เมื่อนนทกาลเห็นพระรามพระลักษมณ์และเหล่าลิง ก็ให้ทหารจับตัวไปถวายท้าวอุณาราช รวมทั้งจับกินพลลิงเสีย แต่กลับสู้พลลิงไม่ได้    จึงไปทูลท้าวอุณาราช ท้าวอุณาราชก็จัดทัพออกมารบ นิลพัท อสุรผัด และมัจฉานุ อาสาออกรบ แต่ไม่สามารถเอาชนะได้    พระรามแผลงศรต้องอกท้าวอุณาราช แต่ไม่ตายหนีไปซ่อนที่สระน้ำกลางสวน
      ฝ่ายฤาษีโคศภ รู้ด้วยญาณว่า ท้าวอุณาราชถูกพระรามแผลงศรแต่ไม่ตาย รีบมาทูลพระรามว่า เดิมท้าวอุณาราชเป็นข้ารับใช้พระอิศวร ต่อมาเกียจคร้านไม่เข้าเฝ้า จึงถูกสาปมาเป็นยักษ์และไม่มีอาวุธใดฆ่าได้ ต้องให้พระรามถอนต้นกกแผลงไปปักอกตรึงไว้กับหิน ให้ได้รับความทรมานแสนโกฎปี พระรามจึงถอนต้นกกแผลงไปปักอกติดอยู่กับหิน แล้วสาปให้เกิดไก่แก้วกับนนทรี โดยให้นนทรีถือฆ้อนเหล็กคอยเฝ้าไว้ หากต้นกกเลื่อนหลุด ให้ไก่แก้วขัน และให้นนทรีเอาฆ้อนเหล็กตอกลงไป จนกว่าจะครบแสนโกฎปี
      หลังจากที่ปราบอุณาราชแล้ว ก็ครบหนึ่งพันปีพอดี พระรามได้เสด็จกลับศรีอยุธยา แล้วปูนบำเหน็จแก่ไพร่พล

      พระอิศวรไกล่เกลี่ย
      ฝ่ายพระอินทร์ได้เฝ้าพระอิศวร ทูลขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยระหว่างพระรามและนางสีดา พระอิศวรได้ให้จิตตุราชนำรถแก้วแทรกแผ่นดินลงไปรับนางสีดามาเฝ้า เมื่อพระอิศวรฟังเรื่องราวจากนางสีดาแล้ว ก็ให้จิตตุบทนำพิชัยรถลงไปรับพระรามมาเฝ้า แล้วตำหนิพระรามว่าก่อนที่จะอวตารลงไปนั้นได้ให้พรไว้ว่า
      หากใครรักนางสีดา ก็จะเข้าใกล้ไม่ได้เพราะจะรุ่มร้อนเหมือนอยู่กลางไฟและไม่ให้เกิดอันตรายใด ๆ แก่นางสีดา ซึ่งก็รู้อยู่แล้วทำไมจึงระแวงกันอีก พระรามยอมรับผิดต่อหน้าพระอิศวรและเหล่าเทวดา    นางสีดาก็ยอมคืนดีด้วย พระอิศวรจึงจัดให้มีพิธีอภิเษกระหว่างพระรามและนางสีดาขึ้นอีกครั้งที่วิมานเขาไกรลาส

      ศึกท้าวคนธรรพ์
      ยักษ์ตนหนึ่งชื่อท้าวคนธรรพ์ มีนิสัยหยาบช้า ครองกรุงดิสศรีสิน มีเหสีชื่อนันทา มีโอรสชื่อวิรุณพัท ซึ่งมีนิสัยหยาบช้าเช่นกัน วันหนึ่งท้าวคนธรรพ์พาวิรุณพัทไปเที่ยวป่าฆ่าสัตว์ต่าง ๆ และยังทำลายอาศรมฤาษี จนเดือดร้อนไปทั่ว จนมาถึงเขตเมืองไกยเกษ ก็เข้าโจมตีด่านแรกแล้วจับพลเมืองมา ถามว่าเมืองของใคร แล้วจึงให้เสนาชื่อนนทการ นำสาสน์ไปให้ท้าวไกยเกษว่าให้มามอบเมืองแก่ตน แต่ขณะนั้นพระพรตกับพระสัตรุตไม่อยู่ ท้าวไกยเกษจึงให้จัดทัพป้องกันเมืองให้เข้มแข็ง แล้วให้เสนาถือสาสน์ไปทูลพระราม
      ฝ่ายท้าวคนธรรพ์เห็นว่าท้าวไกยเกษไม่ยอมแน่ จึงยกทัพเข้าตีได้ ท้าวไกยเกษหนีออกจากเมืองไป บรรดาเสนาของกรุงไกยเกษได้คิดอุบายหานางกำนัลสวย ๆ ไปบำเรอท้าวคนธรรพ์ เพื่อถ่วงเวลารอพระพรตและพระสัตรุต
      เมื่อพระรามรู้ข่าวก็โกรธ    ให้พระมงกุฎและพระลบยกทัพไปรบ แล้วให้หนุมานไปเกณฑ์ไพร่พลของเมืองขีดขินและเมืองชมพูมาด้วย เมื่อทัพมาถึงเมืองไกยเกษ พระพรตให้ชามพูวราชถือสาสน์ไปให้ท้าวคนธรรพ์ให้ออกมาเฝ้า ท้าวคนธรรพ์ไม่ยอม ยกทัพออกมารบพร้อมกับวิรุณพัทโอรส วิรุณพัทต้องศรของพระลบตาย ส่วนท้าวคนธรรพ์ต้องศรของพระมงกุฎตาย
      ฝ่ายพระพรตนั้น เมื่อเสร็จศึกก็คิดถึงเหล่านางสนมกำนัลที่ต้องตกเป็นของยักษ์ และคิดถึงตาที่หนีไป ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด จึงยกทัพออกติดตาม
      ฝ่ายท้าวไกยเกษ ได้หนีไปอาศัยอยู่กับฤาษีโควินท์ ได้ยินเสียงกองทัพยกมา คิดว่ายักษ์ตามมาฆ่าก็ตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นพระพรตกับพระสัตรุต และได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ก็ดีใจ แล้วพระพรตกับพระสัตรุตได้เชิญท้าวไกยเกษเข้าเมือง ส่วนพระมงกุฎและพระลบก็ลากลับศรีอยุธยา
      เมื่อไม่มีศึกสงครามกับยักษ์อีก ทุกคนก็อยู่กันด้วยความสุข..........อวสาน

    • Update : 17/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch