|
|
รามเกียรติ์ 19
กำเนิดไพนาสุริยวงศ์ และอสุรผัด
|
- ต่อมานางมณโฑประสูติโอรสชื่อ ไพนาสุริยวงศ์ ซึ่งเกิดจากทศกรรฐ์ พิเภกนึกว่าเป็นลูกตนก็หลงรัก ส่วนนางเบญจกายได้ประสูติโอรสหน้าเป็น ลิง มือและเท้าเป็นยักษ์ ชื่ออสุรผัด
- วันหนึ่งหนุมานได้ยกทัพน้อยไปเที่ยวสวน ได้กระโจนปีนป่ายตามวิสัยทำให้นางกำนัลขบขัน ทำให้หนุมานรู้สึกอับอายที่ตนทำตัวไม่เหมาะสม คิดจะออกบวช จึงไปเฝ้าพระรามเพื่อทูลลาไปบวช กับฤาษีพระทิศไพ
|
- วันหนึ่งไพนาสุริยวงศ์ ไปเที่ยวเล่นในสวนกับพี่เลี้ยงชื่อ วรณีสูร เมื่อไปถึงพลับพลาที่ทศกรรฐ์เคยประทับ วรณีสูรคิดถึงทศกรรฐ์ก็ร้องไห้ ไพนาสุริยวงศ์สงสัย วรณีสูรเล่าให้ฟังทั้งยังบอกว่าไม่ใช่ลูกพิเภก ไพนาสุริยวงศ์ได้กลับมาถามนางมณโฑอีก เมื่อรู้ความจริงก็โกรธคิดจะไปหาท้าวจักรวรรดิ์ที่เมืองมลิวัน จึงหลอกพิเภกว่าจะไปเรียนวิชาที่สำนักพระกาลฤาษี แต่ที่จริงจะเรียนวิชาผ่านด่านเพลิงน้ำกรด ไปเมืองมลิวัน เมื่อเรียนจบ ก็เดินทางไปเมืองมลิวัน และผ่านด่านทั้งสองไปได้ หลังจากที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ท้าวจักรวรรดิ์ฟัง ท้าวจักรวรรดิ์โกรธยกทัพมาลงกา เมื่อถึงลงกา ไพนาสุริยวงศ์ ได้บอกว่าพวกตนจะเข้าเมืองก่อน เพื่อไม่ให้พิเภกสงสัย
ศึกท้าวจักรวรรดิ์
|
- ฝ่ายท้าวจักรวรรดิ์เมื่อถึงด่านลงกา ก็ให้วิษณุราชกับนนทการ ไปทูลพิเภกให้ออกมา พิเภกจัดทัพออกไปรบ แต่เพลี่ยงพล้ำถูกท้าวจักรวรรดิ์ แผลงศรเป็นพญานาคตัวใหญ่ รัดพิเภกไว้
- เมื่อไพนาสุริยวงศ์รู้ว่าพิเภกถูกจับ ก็มาขอชีวิตว่า พิเภกได้เลี้ยงดูตนมา ท้าวจักรวรรดิ์ยกโทษให้แต่ขอทรมานพิเภกก่อน โดยจับใส่ตรุขังไว้ จากนั้นได้ตั้งให้ไพนาสุริยวงศ์ครองลงกาแทน แล้วตั้งนามใหม่ให้ว่า ท้าวทศพิน พร้อมทั้งมอบศรบรรลัยจักรวาลให้ด้วย
|
- ฝ่ายอสุรผัดรู้ว่าตาของตนถูกจำตรุ ก็เสียใจไปขอโทษแทนตากับทศพิน ท้าวจักรวรรดิ์ไม่ยอมไล่ออกมา นางเบญจกายให้อสุรผัดไปตามหาหนุมานผู้เป็นพ่อที่ออกบวช แล้วค่อยไปทูลพระราม อสุรผัดเหาะไปตามกับฤาษีที่เขามณฑป เมื่อพบหนุมานก็ไม่รู้จัก หนุมานจึงกลับร่างเดิม แล้วแผลงฤทธิ์พร้อมกับหาวเป็นดาวเป็นเดือน อสุรผัดจึงเล่าเรื่องให้ฟัง หนุมานโกรธมากพาอสุรผัดไปพบสุครีพที่นครขีดขิน สุครีพให้หนุมานพาอสุรผัดไปพบพระรามก่อน แล้วตนกับท้าวชมพูจะยกพลตามไป
|
- เมื่อพระรามรู้เรื่องจากหนุมานก็ให้ไปเกณฑ์ทัพเมืองขีดขินกับเมืองชมพูมา หนุมานจึงบอกว่ากำลังยกมา แล้วให้เสนาไปเมืองไกยเกษ บอกพระพรตและพระสัตรุตไปช่วยรบ โดยให้มาพร้อมกันที่ศรีอยุธยา
- ฝ่ายท้าวชมพูได้ให้นิลพัทคุมทัพเมืองชมพู แก้ตัวกับพระรามในความผิดครั้งก่อน
|
- พระรามสั่งให้พระพรตและพระสัตรุต นำทัพทั้งหมดพร้อมกับสุครีพ หนุมาน องคต และสิบแปดมงกุฎ ไปตีเมืองลงกาและเมืองมลิวัน พระรามประทานศรพรหมมาสตร์และเกราะเพชรแก่พระพรต พระลักษมณ์ประทานศรจันทรวาทิตย์กับเกราะแก้วของพระอินทร์ให้พระสัตรุต แล้วพระพรตกับพระสัตรุตก็คุมทัพไปถึงเขาคันธกาล นิลพัทขอเอาตัวทอดข้ามมหาสมุทร เพื่อให้ทัพผ่านเข้าลงกา แล้วไปตั้งทัพที่เขามรกต
ศึกทศพิน
- เมื่อตั้งทัพแล้ว พระพรตให้ชมพูพานถือสาสน์ไปบอกให้ท้าวทศพินออกมา ทศพินไม่ยอมกลับด่าว่าชมพูพาน ชมพูพานได้ทำร้ายทศพินจนบาดเจ็บ แล้วกลับมาทูลพระพรต
- ฝ่ายยามลิวันกับกันยุเวก โอรสอินทรชิตกับนางสุวรรณกันยุมา รู้ว่าทศพินจะไปรบแล้วจะให้พวกตนไปด้วยก็กลัวนางสุวรรณกันยุมาจึงบอกให้หนีไปถวายตัวกับพระพรต
- รุ่งขึ้นท้าวทศพินยกทัพไปรบ พระพรตให้อสุรผัดออกรบ ทศพินกับวรณีสูรแพ้ถูกจับได้ พระพรตให้นำทั้งสองตระเวนน้ำตระเวนบก แล้วตัดหัวเสียบไว้ที่ประตูเมือง เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเอาเยี่ยงอย่าง แล้วให้อสุรผัดไปปล่อยพิเภก
ตีเมืองมลิวัน - เมื่อฆ่าทศพินแล้ว พระพรตให้ยกทัพไปตีเมืองมลิวัน พิเภกทูลว่าทางไปเมืองมลิวันเป็นทางทุรกันดาร และยังมีด่านถึงสองด่านคือ ด่านไฟกรดและน้ำกรด หนุมานได้อาสาหักด่าน เมื่อไปถึงด่านแรกคือ ด่านเพลิงกาฬ หนุมานเห็นยักษ์ชื่อมัฆวาน กำลังคุมพลเก้าโกฎิทำพิธีไฟลุกโหมช่วงโชติร้อนแรง หนุมานแปลงกายใหญ่โตเข้าต่อสู้และฆ่ามัฆวานตายไฟจึงดับ ถึงด่านที่สองคือด่านน้ำกรด เห็นยักษ์ชื่อกาลสูรนั่งบริกรรมคาถาเรียกพญานาคมาพ่นพิษ เป็นควันมีน้ำกรดไหลไม่ขาดสาย จึงแปลงกายเป็นครุฑเข้าต่อสู้ และจับกาลสูรขว้างไปยังเขาจักรวาลตาย
- เมื่อหักด่านได้แล้ว พระพรตได้ให้ยกทัพไปตั้งที่เชิงเขามยุราตามคำแนะนำของพิเภก
- ฝ่ายท้าวจักรวรรดิ์รู้ว่าข้าศึกหักด่านมาถึงเมือง ได้ให้จัดทัพเตรียมไว้ พระพรตให้นิลนนท์ถือสาสน์ไปบอกว่าหากกลัวตายให้ออกมาตั้งสัตย์ต่อศรพรหมมาสตร์ก็จะยกโทษให้ ท้าวจักรวรรดิ์ไม่ยอมกลับให้โอรสชื่อ สุริยาภพยกทัพออกมารบ พระพรตให้พระสัตรุตไปรบ พระสัตรุตต้องหอกเมฆพัทของสุริยาภพสลบลง พิเภกทูลพระพรตว่ายาแก้ฤทธิ์หอกคือจันทน์แดงกับมูลวัวอุศภราชที่ถ้ำเขาอินทกาล แท่นหินที่ชั้นพรหม และลูกหินที่เมืองพญานาค พระพรตให้นิลพัทไปเอา เมื่อบดยาทาแผลหอก พระสัตรุตก็ฟื้น
|
Update : 17/5/2554
|
|