|
|
รามเกียรติ์ 18
ศึกอัศกรรณ
|
- ฝ่ายไวยกาสูรกับนิลกายสูร เสนายักษ์ของทศคิริวันกับทศคิริธรได้กลับไปทูลท้าวอัศกรรณ ที่กรุงจักรวาล ว่าบุตรบุญธรรมทั้งสองตายแล้ว ท้าวอัศกรรณเสียใจมากจึงยกทัพไปรบ พระรามยกทัพไปรบ แต่ไม่สามารถฆ่าอัศกรรณได้ เพราะเมื่อต้องศรพระรามขาดคราวใด ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า พิเภกทูลว่า อัศกรรณได้พรจากพระอิศวรว่าเมื่อใดอัศกรรณตาย ต้องนำซากไปทิ้งมหาสมุทร จึงจะไม่ฟื้นขึ้น พระรามจึงแผลงศรพรหมมาสตร์ ตัดอัศกรรณออกเป็นท่อนเล็กท่อนน้อย แล้วบันดาลเป็นลมกรดพาไปทิ้งมหาสมุทร
|
|
- เมื่อเสร็จศึกแล้ว พระมาตุลีก็ลากลับไป พระรามบอกพิเภกว่าจะกลับคืนยังกรุงศรีอยุธยา เพราะรับปากกับท้าวทศรถพระราชบิดาไว้ว่า ครบสิบสี่ปีเมื่อใดจะกลับไปครองเมืองและหากเกินเวลาพระพรตกับพระสัตรุต จะฆ่าตัวตายด้วยการลุยไฟ พิเภกขอตามไปด้วย พร้อมกับทูลว่า เมื่อพระรามข้ามฝั่งไปแล้ว ควรจะทำลายถนน เพื่อเหล่ายักษ์จะได้ใช้มหาสมุทรเพื่อสัญจรต่อไป เมื่อข้ามไปแล้ว พระรามจึงแผลงศรพลายวาต ทำลายถนนที่ข้ามไปลงกาเสีย แล้วเดินทางไปพักทัพที่ป่าบริเวณเขาเหมติรัน
|
ศึกบรรลัยกัลป์
|
- ฝ่ายยักษ์ชื่อบรรลัยกัลป์ ลูกทศกรรฐ์และนางอัคคี ซึ่งพญานาคผู้เป็นตานำไปเลี้ยงไว้ เกิดลางร้ายคิดถึงทศกรรฐ์ผู้เป็นพ่อขึ้นมา ได้ขึ้นมาเยี่ยมรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากนางอัคคีผู้เป็นมารดาก็โกรธ รีบเหาะตามทัพพระรามไป เมื่อพระรามได้ยินเสียงกึกก้องก็ถามพิเภก รู้ว่าบรรลัยกัลป์ตามมาล้างแค้นแทนทศกรรฐ์ ก็ให้หนุมานไปฆ่าแล้วตัดหัวมาให้ หนุมานออกอุบายแปลงเป็นควายใหญ่ติดหล่มอยู่ บรรลัยกัลป์ผ่านมาพบ หลงกลหนุมานได้เข้าต่อสู้กันหนุมาน บรรลัยกัลป์ตัวลื่น จึงไปถามฤาษีพระทิศไพมุนี พระฤาษีบอกใบ้ให้เอาทรายซัดจึงจะจับได้ หนุมานจึงฆ่าบรรลัยกัลป์ตาย
|
- ต่อมาพระรามได้เดินทางไปพักที่เมืองขีดขิน ตามคำทูลเชิญของสุครีพและนิลพัท แล้วเดินทางต่อไปยังอาศรมของฤาษีวสิษฐ์และสวามิตร โดยมีสุครีพตามไปด้วย และพระรามได้พบกับนายพรานกุขันที่นี่ด้วย และได้รู้ว่าสามพระมารดากับสองพระอนุชาเศร้าโศกมาก จึงให้หนุมานกับนายพรานกุขัน ล่วงหน้าไปทูลเรื่องราวในเมืองก่อน
พระรามคืนเมืองขึ้นครองราชย์ ปูนบำเหน็จ - ฝ่ายพระพรตและพระสัตรุตเห็นว่าครบกำหนดสิบสี่ปีแล้ว พระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ยังไม่เสด็จกลับ ก็ไปทูลมารดาลาไปปลงพระชนม์ โดยการลุยไฟตามที่ได้ปฏิญาณไว้ หนุมานกับกุขันก็มาถึงก่อนได้เข้าไปห้ามไว้ หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็พาพระมารดาไปพบกับพระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ที่อาศรมฤาษี แล้วทูลเชิญเข้าไปครองเมือง
|
ต่อมาได้จัดพิธีอภิเษกขึ้นครองราชสมบัติ โดยมีพระอินทร์เหล่าเทวดาและบรรดาเหล่าฤาษีมาเป็นเกียรติ แล้วพระรามได้ออกขุนนางปูนบำเหน็จความดีความชอบของเหล่าทหาร พระลักษมณ์ให้ครองเมืองโรมคัล พระพรตและพระสัตรุต ให้เป็นอุปราชอยู่ในกรุงศรีอยุธยา |
หนุมานแบ่งกรุงศรีอยุธยาให้ครองกึ่งหนึ่ง แล้วตั้งชื่อให้ใหม่ว่าพระยาอนุชิต สุครีพนั้นให้มีชื่อว่า พระยาไวยวงศา ครองเมืองขีดขิน พิเภกให้ชื่อว่า ท้าวทศคิริวงศ์ ไปครองเมืองลงกา องคตให้ชื่อว่า พระยาอินทรนุภาพศักดา เป็นฝ่ายหน้าเมืองขีดขิน ชมพูพานให้ไปครองเมืองปางตาล สุรเสนไปครองเมืองสัทธาสูร ชมพูวราช นิลราช นิลนนท์ เป็นอุปราชทั้งหมด โดยให้ชมพูวราชเป็นฝ่ายหน้าเมืองปางตาล นิลราชเป็นฝ่ายหน้าเมืองอัสดงค์ นิลนนท์เป็นอุปราชเมืองชมพู ไชยามและโคมุท เป็นมหาเสนาซ้ายขวาที่เมืองขีดขิน สัตพลีให้เป็นอาลักษณ์ ส่วนพลลิงอื่น ๆ ก็ให้ยศฐาบรรดาศักดิ์ตามสมควร - ฝ่านหนุมานทูลคัดค้านว่า เมืองโรมคัลเป็นเมืองยักษ์ ไม่ควรให้พระลักษมณ์ไปครอง แต่ควรจะอยู่ใกล้ชิดพระรามจะดีกว่า ส่วนพระพรตกับพระสัตรุต นั้นควรจะให้ไปอยู่ที่เมืองไกยเกษ พระรามเห็นด้วย ได้ให้สุรกานต์ไปครองเมืองโรมคัล แล้วให้ศรรามเป็นมหาอุปราช กุขันพรานป่าให้เป็นพระยากุขันธิบดินทร์ ครองบุรีรัม สำหรับพิเภกนั้นเป็นผู้ไม่มีความชำนาญการรบและไม่มีฤทธิ์ หากมีศัตรูมารุกราน ให้เขียนสาสน์แขวนศรมา เมื่อพระรามแผลงศรมาถามข่าว
หนุมาณครองเมือง
|
- ฝ่ายหนุมานเมื่อได้ครองอยุธยาครึ่งหนึ่ง ก็มีความสุขดี แต่เมื่อใดต้องขึ้นนั่งบัลลังก์ออกขุนนาง จะรู้สึกเร่าร้อน เวียนหัว ปวดหัว ก็คิดว่าเป็น เพราะตีตนเสมอพระรามทำให้เกิดวิปริต ได้เข้าเฝ้าพระรามถวายอยุธยาคืน พระรามจึงแผลงศรให้หนุมานตามไปดูว่าตกลงที่ใด จะยกทัพไปสร้างเมืองใหม่ให้ ศรนั้นไปตกบนเขาใหญ่เก้ายอด หนุมานแผลงฤทธิ์เอาหางกวาดจนเกิดเป็นกำแพงหินล้อมรอบบริเวณนั้น แล้วจึงกลับมาทูลพระรามทุกอย่าง พระรามจึงว่าให้ตามไปดูเท่านั้น ทำไมทำเกินคำสั่ง แต่เนื่องจากมีความชอบมาก ก็จะให้เทวดาไปสร้างเมืองให้
|
- ต่อมาพระอินทร์ให้พระวิษณุกรรม ลงมาสร้างเมืองให้หนุมาน แล้วพระรามประทานชื่อเมืองว่า นพบุรี รวมทั้งแบ่งสมบัติจากกรุงศรีอยุธยา ม้า พล เสนา ให้ครึ่งหนึ่งตามที่ได้เคยปฏิญาณไว้
ศึกมหาบาล
|
- ฝ่ายยักษ์ชื่อท้าวมหาบาล เจ้าเมืองจักรวาล เพื่อนสนิทของทศกรรฐ์ เกิดความคิดถึงทศกรรฐ์ขึ้นมาได้ยกทัพมาตั้งที่หน้าด่านลงกา รู้ข่าวทศกรรฐ์ก็โกรธแค้น ให้เสนาไปเรียกพิเภกมาพบที่หน้าด่าน แต่พิเภกรู้ว่าเป็นพวกพาลไม่ยอมออกไป เมื่อดูดวงตนรู้ว่ามีเคราะห์หนัก แต่จะมีคนช่วยเหลือไม่ถึงตาย และใกล้เวลาที่พระรามจะแผลงศรมาถามข่าวคราวแล้ว จึงให้เปาวนาสูรนำไพร่พลรักษาเมืองไว้ให้เข้มแข็ง
|
- พระรามได้เกิดฝันประหลาด จึงคิดถึงพิเภก ได้แผลงศรพาลจันทร์ไปถามข่าว เมื่อพิเภกกราบศรแล้วผูกสาสน์กลับมา จึงรู้ว่าลงกาเกิดศึกใหญ่
- พระรามให้หนุมานไปช่วยรบที่ลงกา พิเภกจึงว่าหากตนไม่ออกไปรบ ท้าวมหาบาลก็จะหมิ่นเอาได้ และยังเป็นพระเกียรติแก่พระรามด้วย หากพลาดพลั้งให้หนุมานช่วย ระหว่างรบกันพิเภกเพลี่ยงพล้ำ หนุมานจึงลงจากกลีบเมฆมาช่วย แต่ไม่สามารถฆ่าท้าวมหาบาลได้ พิเภกบอกว่า ท้าวมหาบาลได้พรจากพระอิศวร หากจะฆ่าต้องแหวะเอาดวงใจมาขยี้ให้แผลก หนุมานจึงควักเอาดวงใจท้าวมหาบาลออกมาขยี้ ท้าวมหาบาลจึงตาย และพลยักษ์ได้ตกเป็นเชลยของลงกา
- เมื่อเสร็จศึก พิเภกเชิญหนุมานไปหานางเบญจกาย ส่วนเมืองจักรวาลที่ขาดคนปกครอง พิเภกให้เปาวนาสูรไปครอง จากนั้นหนุมานและพิเภกจึงไปเฝ้าพระราม ทูลเรื่องราวทั้งหมด
|
Update : 17/5/2554
|
|