|
|
รามเกียรติ์ 10
พิเภกถวายตัว
|
- พิเภกรู้ว่าดวงชะตาของตนจะต้องออกจากเมือง และพระนารายณ์จะเป็นผู้อุปถัมภ์ จึงเหาะไปหาพระราม พบกับสุครีพและได้พากันไปพบพระราม พระรามจึงรับพิเภกไว้ แล้วให้ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยเอาน้ำสรงศรพรหมาสตร์เป็นประธาน ต่อมาสุครีพกับพิเภกจึงตั้งสัตย์สาบานว่าจะเป็นเพื่อนกัน
|
- ฝ่ายพระรามเมื่อคิดว่าต่อไปจะทำสงครามกับยักษ์ จึงให้สุครีพพาเหล่าวานรไปประลองฝีมือที่ริมฝั่งมหาสมุทร เกิดเสียงดังกัมปนาท ทศกรรฐ์จึงให้สุกรสารออกไปสืบขณะบินไปถูกก้อนหินที่ลิงทุ่มกันไปมาตกลงมา จึงแปลงร่างเป็นลิงวิ่งปะปนไป พิเภกรู้ว่ามียักษ์ปลอมเป็นลิงมาจึงทูลพระราม พระรามให้หนุมานจับยักษ์ปลอมมา หนุมานจึงแปลงกายใหญ่เท่าเขาจักรวาล เอามือครอบไพร่พลลิงไว้ แล้วให้เดินเรียงออกมา หนุมานจึงจับสุกรสารได้ สักหน้าผากปล่อยกลับไปลงกา
|
|
ทศกรรฐ์คิดว่าน่าจะเป็นเพราะพิเภกเป็นคนบอกความลับ ควรจะฆ่าให้ตาย เพื่อไม่ให้เป็นไส้ศึกในวันข้างหน้า จึงแปลงเป็นฤาษีไปที่หน้าพลับพลาของพระราม แล้วร่ายมนต์ผูกใจพิเภกไม่ให้พูดความจริง
|
ฤาษีได้ไปอวยชัยให้พรแก่พระราม และยุยงพระรามว่า นางสีดาคงเสียทีแก่ทศกรรฐ์แล้ว รวมทั้งว่าทำไมทัพจึงมีทั้งยักษ์และลิงอยู่ปะปนกัน และพิเภกเป็นพี่น้องกับทศกรรฐ์ อาจเอาใจออกห่างได้ และพิเภกถูกอำนาจสะกดของทศกรรฐ์ พูดไม่ได้ ทศกรรฐ์เห็นว่าหากพระรามรู้ว่าแปลงกายมาจะต้องตายแน่ จึงกลับลงกา |
เบญจกายแปลง- เมื่อทศกรรฐ์กลับถึงลงกาแล้ว คิดวิธีตัดศึกสงครามไม่ให้ลุกลามต่อไป จึงเรียกนางเบญจกายลูกของพิเภกเข้าเฝ้า แล้วสั่งให้แปลงเป็นสีดาตายลอยน้ำมา เพื่อลวงพระราม เมื่อพระรามกับพระลักษณ์ไปสรงน้ำ เห็นนางเบญจกายแปลง นอนตายอยู่ริมแม่น้ำก็เสียใจมาก แต่หนุมานทูลว่า นางนี้คงไม่ใช่นางสีดา เพราะศพยังดูสดชื่นไม่มีกลิ่น และยังลอยทวนน้ำมา สมควรได้นำศพนางวางบนกองไฟ พระรามเห็นด้วย นางเบญจกายแปลง ไม่อาจทนความร้อนได้ จึงเหาะหนี หนุมานตามไปจับมาได้ นำไปให้สุครีพซักถาม
นางเบญจกายว่าที่แปลงมานี้เพราะอยากมาดูว่าพิเภกผู้เป็นพ่อตายหรือยัง สุครีพไม่เชื่อสั่งให้เฆี่ยนตี นางเบญจกายทนเจ็บปวดไม่ไหว จึงบอกความจริงว่า ทศกรรฐ์ได้ให้นางแปลงมาลวงพระราม พิเภกจึงทูลให้พระรามประหารชีวิตนางเสีย เพื่อคงไว้ซึ่งพระเกียรติยศของตน แต่พระรามเห็นแก่พิเภก ซึ่งเป็นผู้มีสัตย์ จึงให้นำนางเบญจกายส่งไปลงกา
- หนุมานได้พานางเบญจกายไปส่ง ระหว่างทางได้นางเบญจกายเป็นเมีย
พระรามจองถนน - ฝ่ายพระรามคิดจะปราบเหล่ายักษ์ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ชามพูวราช ได้ทูลว่า การที่พระรามจะข้ามไปลงกาด้วยฤทธิ์อำนาจที่เหล่าทหารขันอาสานั้นย่อมทำได้ แต่จะทำให้เสียพระเกียรติยศ ควรจะให้ไพร่พลนำเอาหินไปทิ้งเพื่อสร้างถนนในมหาสมุทร พระรามจึงสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนน โดยให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน
|
- นิลพัทนั้นแค้นหนุมานมาแต่เดิมแล้ว ได้โอกาสล้างแค้นจึงแสดงฤทธิ์ เอาเท้าคีบเขาหิมวันต์ สองมือชูเขาคิรินทร เหาะมาแล้วบอกให้หนุมานคอยรับ นิลพัทจึงทิ้งภูเขาลงมาทั้งสองลูกหวังให้ถูกหนุมาน แต่หนุมานรับไว้ได้ จึงคิดแก้ลำบ้าง โดยไปหักยอดเขา และนำหินก้อนมหึมาผูกตามขน แล้วให้นิลพัทรับบ้าง นิลพัทเห็นจึงขอให้หนุมานโยนมาทีละก้อน หนุมานว่า ทีนิลพัทแกล้งทิ้งมาพร้อมกันหวังให้ตาย แล้วทิ้งหินทั้งหมดลง นิลพัทใช้มือและเท้ารับไว้ได้ หนุมานหาว่านิลพัทสบประมาทตน และได้ท้าวความถึงท้าวชมพูที่มีฤทธิ์มาก ตนยังจับมาได้ นับประสาอะไรกับนิลพัท
|
นิลพัทโกรธท้าหนุมานต่อสู้ดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าเหล่าลิงรบกับยักษ์ ให้พระลักษมณ์ไปดู แล้วจึงพาสุครีพ หนุมาน และนิลพัท เฝ้าพระราม พระรามโกรธ สุครีพจึงทูลแก่พระรามว่า ควรจะแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน โดยให้หนุมานอยู่กับพระราม ส่วนนิลพัทให้กลับไปช่วยท้าวชมพูดูแลเมืองขีดขิน ทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง ถ้าขาดราชการจะประหารเสีย - ฝ่ายพระรามได้สั่งให้หนุมานจองถนนไปกรุงลงกาเสร็จภายในเจ็ดวัน หากไม่เสร็จจะประหารชีวิต
|
Update : 17/5/2554
|
|