หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งภูตผีปีศาจ

    ท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งภูตผีปีศาจ

             ขอแนะนำในรูปแบบของพราหมณ์ให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักความเป็นมาของท่านก็คือ ท้าวเวสสุวัณหรือท้าวกุเวร ในวรรณคดีรามเกียรติ์  มีชื่อเรียกว่าท้าวกุเรปันและจากคัมภีร์ไตรเพทกล่าวว่า  ท้าวเวสสุวัณ  (สันสกฤตไวศรวณ,  มคธ-เวสวัณโณ)  คือ  อธิบดีแห่งอสูรหรือเจ้าแห่งผีนั่นเอง  และด้วยความเชื่อดังกล่าว  ท้าวเวสสุวัณจึงถูกกำหนดให้ ทำหน้าที่ป้องกันและปราบผีโดยทั่วไปในทรรศนะของคนไทย
     
             คนไทยสมัยโบราณมักจะวาดรูปท้าวเวสสุวรรณลักษณะรูปยักษ์ถือไม้ตะบองสองมือประสานและถ่างขา สองด้าน (ดูภาพประกอบ)  และนำไปแขวนไว้ที่เปลของเด็กหรือแขวนไว้ตามประตูหน้าต่างทางเข้าบ้าน  เพื่อป้องกันผีไม่ให้มารบกวนเด็ก ๆ  เมื่อผีเห็นเข้าจะมีความกลัวเผ่นหนีไม่กล้ามาตอแยเลย ผู้เขียนได้ค้นคว้าจากตำนานหนังสือเทวกำเนิดซึ่งรวบรวมไว้โดยท่านพระยาสัจจาภิรมย์  ท.ม.,  ต.จ.ว.  น.บ.ท. (สรวง  ศรีเพ็ญ)  ท่านกล่าวว่าไว้ดังนี้ ท่านท้าวเวสสุวรรณนี้  พูดกันว่าเป็นยักษ์ที่ดำรงอยู่ในสัจจธรรม  และเป็นโอรสของพระวิศรวัสมุนีกับนางอิทาวิฑา  แต่ในมหาภารตะว่าเป็นโอรสของพระปุลัสตย์ 

             ซึ่งเป็นบิดาของพระวิศรวัสมุนีอีกชั้นหนึ่ง มีเรื่องเล่ากันว่าท้าวเวสสุวรรณไปใฝ่ใจกับท่านท้าวพรหมาหรือพระพรหมนั่นเอง  จึงทำให้บิดาโกรธและได้แบ่งภาคมาเป็นพระวิศรวัสและได้เกิดเป็นพระปุลัสตย์จึงได้นามอีกว่า  พระเปาสัศตยัม  ซึ่งในรามเกียรติ์ของเราเรียกว่าท้าวลัสเตียนแล้วท้าวลัสเตียนก็มาได้กับนางนิกษาบุตรีของท้าวสุมาลีรากษสเป็นชายาและเกิดโอรสธิดาด้วยกันคือ 1. ราพนาสูรหรือทศกัณฐ์   2. กุมภวรรณ  3. วิภิษณ์หรือพิเภก  4. นางศูรปนขา 

             ดังนั้นท้าวเวสสุวรรณจึงนับได้ว่าเป็นพี่ชายร่วมบิดาเดียวกันกับทศกัณฐ์ เดิมทีท้าวเวสสุวรรณได้เป็นเจ้านครลงกาและมีบุษบกราชรถเป็นพาหนะ  เมื่อขึ้นขี่แล้วจะลอยไปได้ตามแต่ใจปรารถนา  แต่ก็ถูกน้องชายแย่งไปเสียทั้ง 2 อย่าง  เมื่อพระพรหมทราบความจึงได้สร้างเมืองใหม่ให้ชื่อว่าอละกาหรือวสุธราอยู่ ณ เชิงเขาหิมาลัย  บางทีก็ว่าอยู่ ณ เชิงเขาพระสุเมรุในป่าชัฏ  บ้างก็ว่าชื่อเมืองโชตรรฐอยู่  ณ เชิงเขาไกรลาศ  ในเทวภูมิซึ่งเป็นที่อยู่ของเทพจตุโลกบาล  บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไรเพราะท้าวเวสสุ-
    วรรรมีหน้าที่หลายอย่างหลายแห่งและยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ
     
            นอกจากนั้นยังได้รับพรจากพระพรหมให้ท้าวเวสสุวรรณเป็นอมฤต  คือไม่ตาย  (มีบางท่านเปรียบสุราว่าเป็นน้ำอมฤต  แต่เห็นดื่มเข้าไปทีไรแล้วเกือบตายทุกที) ท่านท้าวเวสสุวรรณถูกกล่าวไว้ใน  อาฎานาฎิยปริตหรือมหาสมัยสูตร  และภาณยักษ์ว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นจอมเทพเจ้ายักษ์และโลกบาลทิศอุดร  ส่วนในเทวภูมิเรียกนามโลกบาลทิศอุดรนี้ว่า  ท้าวไพศรพมหาราชในลัทธิจีนฝ่ายมหายานว่าโลกบาลทิศอุดรชื่อ  โตบุ๋นแปลว่าได้ยินทั่วไปมียักษ์ทั้งกังฉินและตงฉินเป็นบริวาร  และบอกว่ามีกายสีดำมือถือดวงแก้วและงู  ส่วนทางธิเบตก็ว่าชื่อเดียวกัน  แต่มือถึงธงและพังพอนแต่กายสีทองคำ  ส่วนทางญี่ปุ่นถือว่าโลกบาลทิศอุดรนี้เป็นเทพเจ้าประจำโชคลาภมีนามว่าพิสะมอนตรงกับนามว่าธนบดีหรือธเนศวร  อันหมายถึงนามอีก
    นามหนึ่งของท้าวเวสสุวรรณ  ซึ่งแปลว่าเป็นเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ  ในมือถือลูกแก้วมณีและทวนประจำชาติ
     
             ท้าวเวสสุวรรณ  ยังมีชื่อเรียกในโอกาสต่าง ๆ อีกหลายชื่อเช่น  ท้าวยักษ์ราช  แปลว่า  ขุนแห่งยักษ์, ท้าวมยุราช  แปลว่า  แห่งกินนร, ท้าวรากาสเสนทร์  แปลว่าผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส,  ท้าวอิจฉาวสุ  แปลว่า  ผู้มั่งมีได้ตามใจ  เป็นต้น
     
             รูปร่างลักษณะของท่านท้าวเวสสุวรรณ  เมื่อเวลาอยู่ในเทวภูมิ  มีกายสีขาวร่างสง่างาม  มีอาภรณ์ทรงมงกุฎมี 4   กร  (แขน)  ทรงม้าขาวเป็นพาหนะ  มีมเหสีชื่อนางจารวีหรือฤทธีเป็นบุตรีของท้าวมยุราสูร  มีโอรส 2 องค์  ชื่อ  1. ท้าวมณีครีพ  หรือวรรณกวี  2. ท้าวนลกุพรหรือมยุราช   มีธิดา  1  องค์ชื่อ  นางมีนาษี
     
             เมื่อเวลาประจำโลกบาลทิศอุดร  ท่านจะนิมิตกายเป็นพญายักษ์  ทรงมงกุฎ  มีกระบองเป็นอาวุธและมีราชรถบุษบกเป็นพาหนะแต่ตอนหลังถูกทศกัณฑ์แย่งไป  แล้วทศกัณฑ์เองก็ใช้ไม่ได้เพราะราชรถบุษบกไม่ลอกไปไหนดังใจปรารถนาอีก  ดังมีเรื่องราวอยู่ในรามเกียรติ์  (แต่ผู้เขียนจะไม่ขอกล่าวในที่นี้เพราะเรื่องมันยาวหน้ากระดาษคงไม่พอแน่  ต้องให้ท่านผู้อ่านไปหาซื้อหนังสือรามเกียรติ์อ่านกันเอาเอง  อ้อ!  ต้องเป็นฉบับสมบูรณ์นะเดี๋ยวหาว่าไม่บอกก่อน)

             ความสำคัญของท้าวเวสสุวรรณ  ตามที่กล่าวมาแล้วนั้นว่าท่านเป็นยักษ์ที่แสนดี  คนโบราณจึงให้ความเคารพนับถือ  และสร้างรูปของท่านไว้เป็นที่พึ่งทางใจเช่น  ให้เฝ้าประตูวัด  แม้แต่ที่ซุ้มเรือนแก้วของพรุพุทธชินราชก็เป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ  ถือไม้ตะบองเฝ้าอยู่ด้านหลังและเมื่ออัญเชิญท้าวเวสสุวรรณมาประดิษฐานไว้ในบ้านเรือนแล้วรับรองว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องภูตผีปีศาจทั้งหลายจะมารบกวนได้  แม้แต่พระเกจิอาจารย์บางท่านยังได้สร้างเป็นรูปขนาดเล็ก

             ซึ่งทำด้วยเนื้อดิน  ชินผง  รูปหล่อโลหะสร้างจำนวนไม่มากไว้แจกลูกศิษย์ลูกหา  เท่าที่ทราบมีดังนี้เจ้าคุณศรี  (สนธิ์  ยติธโร)  แห่งวัสดุทัศน์เทพวราราม  กทม.  ได้สร้างไว้ราว  พ.ศ.  2492  เป็นรูปท้าวเวสสุวรรณลอยองค์  มี 3 พิมพ์  ทำด้วยเนื้อโลหะผสมออกกระแสเหลือง ๆ
     
             หลวงพ่อคอน  วัดชัยพฤกามาลา  ตลิ่งชัน  กทม.  (ธนบุรี)  ก็สร้างไว้แต่เป็นเนื้อผงออกสีเทา ๆ แต่หายากพระครูในฎีกา (เกลี้ยง)  แห่งวัดสุทัศน์เทพวรารามก็สร้างรูปท้าวเวสสุวรรณ  แต่เป็นเนื้อผงลักษณะเป็นรูปไข่รี ๆ สีออกขาวไม่ใหญ่มาก  ตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2496 และนอกจากนี้ยังมีอีกหลายวัดและหลายพระเกจิอาจารย์ที่จัดสร้างขึ้นขอให้มีรูปท่านท้าวเวสสุวรรณเป็นใช้ได้
     
    ส่วนคาถาเมื่อท่านผู้อ่านได้รูปเหมือนของท้าวเวสสุวรรณมาแล้ว  ต้องการที่จะอาราธนาติดต่อไปหรือจะลองไล่ผีดุ  ให้ว่าคาถาของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต  พรหมรังสี  ว่าดังนี้
     
             (อิติปิโสภะคะวา  ยะมะราชาโน  ท้าวเวสสุวรรณโณมะระนังสุขัง  อะระหังสุขะโต  นะโมพุทธายะ)  และท่านพระครูภัทรวิริยะคุณแห่งคณะ 2 วัดสุทัสน์เทพวรารามได้เมตตาให้คาถา  “อาวุธพุทธเจ้า” 

    ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช  (แพ  ติสสัสเทวมหาเถร)  ใช้ในการปัดเป่าขับไล่ภูตผีปีศาจและอวิชาต่าง ๆ ดังนี้
     
             สักกัสสะ  วชิราวุธัง  เวสสวัณณัสสะ  คฑาวุธัง  อาฬวะกัสสะ  ทุสาวุธัง  ยะมะกัสสะ  ทุสาวุธัง  มารัสสะกะ กาวุธันติ  อเมปัญจะ  อาวุเธ  ทิสะวา  สัพเพ  ยักขาปะลายันติ


    • Update : 16/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch