หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ประวัติหนุมานและตำนานเรื่องหนุมาน

    รูปภาพ

    ประวัติหนุมานและตำนานเรื่องหนุมาน

    หนุมาน (ลิง) ดีทางเมตตา คงกระพันชาตรี

    ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงวรรณคดีไทยเรื่อง “รามเกียรติ์” หรือ “รามายนะ” นั้นทำให้
    เกิดความเชื่อถือในหมู่ คนไทยมากมายหลายอย่างและมีอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ หนุมาน
    ซึ่งเป็นทหารเอกของพระราม มีฤทธิ์เดชสูงจึงกลายมาเป็นเครื่องรางของขลังสำหรับ
    ชายชาตรีที่เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้

    หนุมาน เป็นลูกของพระพายกับนางสวาหะ จึงเป็นผู้ที่ไม่มีใครฆ่าตายเมื่อถูกฆ่า
    แต่พอถูกลมเมื่อใดก็จะฟื้น ขึ้นมาอีกและแถมยังมีเขี้ยวเป็นเพชร ขนเป็นเพชร
    อีกด้วยแต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หนุมานไปหยุดรถของสุริยเทพเลยถูกพลังความร้อนเผา
    เอาจนตัวดำไปเลยทีเดียว

    หนุมานนั้นมีหน้าที่ในการปราบปรามยักษ์จึงถูกหนุมานฆ่าตายไปหลายคน
    ส่วนนางเบญจกายหลานทศกัณ-กัณฑ์ก็ยังตกเป็นเมียของหนุมาน และแถมยังได้
    นางมัจฉามาเป็นเมียอีกด้วย ดังนั้นหนุมานจึงเก่งทั้งทางด้านการรบและความรักด้วย

    ด้วยเหตุฉะนี้ โบราณจารย์ทางพุทธาคมท่านเป็นผู้ชาญฉลาด ซึ่งแม้จะมิใช่
    สิ่งที่สืบเนื่องมาจากพระพุทธศาสนา แต่ท่านเหล่านั้นได้พิจารณาเห็นว่าสิ่งนั้นๆ
    เป็นของดี ของศักดิ์สิทธิ์ ท่านจึงประยุกต์เอามาใช้เป็นเครื่องรางของขลังทั้งนี้ก็
    เพื่ออานิสงฆ์ทางความเก่งกล้าสามารถและอยู่ยงคงกระพันชาตรีนั่นเอง

    ถ้าพูดถึงเครื่องรางในรูปหนุมาน จะปรากฏขึ้นในรูปของธงที่เรียกว่า “ธงกระบี่”
    หรือ “ธงหนุมาน” แบบผ้ายันต์เรียกว่า ผ้ายันต์หนุมานแผลงฤทธิ์และหนุมานอัญเชิญธง
    ซึ่ง 2 อย่างนี้เป็นของหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ท่านได้สร้างเอาไว้

    ต่อมาก็ปรากฏในรูปอบบของการสักยันต์ไว้ติดตัวเรียกว่า “สักหนุมานคลุกฝุ่น”
    คลุกยังไงหรือครับ ก็คือเมื่อสักเป็นรูปกำแพงหนุมานแล้วก็หนุนด้วยหัวใจหนุมานว่า
    หะนุมานะ คลุกคลีตีมะอะแต่ส่วนมากจะสักแค่คำว่า “หุนะมานะ” เท่านั้น

    รูปภาพ

    เมื่อจะตีรันฟันแทงกับใครกับปลุกตัวด้วยคาถาว่า หะนุมานะ คลุกคลีตะมะอะ
    แล้วเอาฝุ่นที่พื้นดินมาทาตัวคราวนี้ก็เข้าไปตีไปต่อยกันได้ เมื่อพลาดท่าถูกคูต่อสู้ตี
    หรือฟันเอาจัง ๆ แม้ไม่เข้าก็จุกหรือล้มลงไปชักแหงก ๆ อันวิสัยของคนเรานั้นในเรื่อง
    ตีทีเดียวแล้วไม่ช้ำหายาก ส่วนใหญ่เมื่อได้ทีตีเข้าไปตุ๊บหนึ่งแล้วมันมือจะหวดซ้ำเข้าไป
    อีกทีนี้ก็เข้าล็อคหนุมานคลุกฝุ่น

    เมื่อถูกเข้าเป็นครั้งสองแล้วก็จะกลับมีกำลังวังชาเรียกว่า “ติดไม้”คือพอตีปั๊บก็เด้ง
    ตัวติดไม้ขึ้นมา คราวนี้แหละตัวใครตัวมันเผ่นกันให้ดีจะตีอีกกี่ทีก็ไม่แตกไม่หนี ดังนั้น
    ถ้าไม่แน่ใจว่าคู่ต่อสู้จะมีหนุมานคลุกฝุ่นหรือเปล่าก็อุย่าไปตีซ้ำเข้าล่ะ บอกให้เอาบุญ
    เดี๋ยวจะหาว่าผู้เขียนไม่บอกกล่าว

    ขุนกระบี่หรือหนุมาน มีการสร้างกันอยู่หลายพระเกจิอาจารย์ อาทิเช่น
    หลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ท่านไม่ให้ใครทำ
    ท่านทำเอง ดังนั้นการสร้างของท่านจะนิยมใช้รากรักซ้อน ไม้พุฒ และงาช้าวแกะด้วย
    ฝีมืองดงามมาก โดยแกะอย่างทรงเครื่องเต็มที่ ในวงการเครื่องรางเรียกว่า “หน้าโขน”
    ท่านปลุกเสกเอง เฉพาะเจ็ดเสาร์เก้าอังคาร เมื่อเสร็จแล้วจึงแจกแก่ศิษย์ยานุศิษย์ไปติดตัว

    ส่วนหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ท่านจะแกะด้วย
    ไม้รัก และรากปลาไหลเผือก ฝีมือไม่จัดเท่าใดนัก ของท่านเรียกว่า “ลิง” และลิงของ
    หลวงพ่อดิ่งส่วนมากแกะเป็นรูปลิงจับหลักหรือไม่ก็ลิงถืออาวุธรูปแบบมีแตกต่างกันไป
    ท่านจะปลุกเสกเอง แล้วลงอักขระด้วย

    อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
    ท่านจะแกะเป็นรูปองคตนั่งอยู่บนขนดหางด้วยตาลปัตรที่ได้ผ่านพิธีกรรมทางพุทธศาสนา
    มาก่อนแล้วในรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท่าน และยังมีท่านอาจารย์เฮง ไพรยวัล
    แห่งวัดสะแก จังหวัดอยุธยา ท่านจะแกะด้วยงาช้าง งาเป็นที่เรียกว่า งากำจัด
    และงากำจาย ซึ่งเป็นวัตถุอาถรรพณ์อย่างหนึ่งด้วย ฝีมือเป็นยอดเช่นกัน

    รูปภาพ

    นอกจากนี้รูปหนุมานแกะเป็นเครื่องรางของขลังแล้วท่านก็ยังเอามาลงสักที่ร่างกาย
    และเขียนจารึกลงในแผ่นผ้า เสื้อยันต์ ซึ่งปรากฏอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพันด้วยกันทั้งสิ้น
    ดังนั้นการดูวัตถุให้ดูความแห้งของเนื้อไม้รัก เพราะอายุการสร้างนับถึงปัจจุบันกว่า 50 ปี
    บางตัวหดมากแห้งมากถึงกับแตกร้าวก็มี ส่วนงานั้นก็เหลืองฉ่ำและบางตัวก็แตกลายงา
    ให้เห็นชัดใครได้ไว้ก็นับว่าดีเพราะเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งของชายชาตรีจึงได้รับควา
    มนิยม
    มากจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

    การอาราธนาให้ใช้พระคาถาหนุมานคลุกฝุ่น ดังนี้

    ตั้งนโม 3 จบ ระลึงถึงคุณพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ (ผู้เป็นเจ้าของวัตถุนี้)
    เป็นที่สุดก่อนจะแขวนคอและท่องคาถาตามนี้โอมผงเผ่าเถ้าธุลี คงกระพันชาตรี
    สวาหะ หะ นุ มา นะ คลุกคลีตี มะ อะ ฯ

    พระคาถานี้ให้ใช้เสกฝุ่นทาตัวจจะเกิดกำลังเรี่ยวแรงขึ้น ทั้งทำให้เป็นคนทนทรหด
    ด้วยอยู่คงแก่อาวุธสิ้นทุกประการแล


    • Update : 16/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch