|
|
พระราชนิพนธ์ ใน ร.๖-4
ศกุนตลา
- เหลือบเห็นกวางขำดำขลับ
|
งามสรรพสะพรั่งดั่งเลขา |
งามเขาเป็นกิ่งกาญจนา |
งามตานิลรัตน์รูจี |
คอก่งเป็นวงราววาด |
รูปสะอาดราวนางสำอางค์ศรี |
เหลียวหน้ามาดูภูมี |
งามดังนารีชำเลืองอาย |
ยามวิ่งวิ่งเร็วดังลมส่ง |
ตัดตรงทุ่งพลันผันผาย |
ปิ่นกษัตริย์เร่งรัดพรรณราย |
กระทั่งถึงชายไพรวัน |
พระภะรตเบิกโรง
- เทพประนมปฐมพรหมสี่หน้า
|
สอดสร้อยมาลาเรียงหมอน |
เพียงไหล่ผาลาช้านางนอน |
ภมรเคล้าแขกเต้าเข้ารัง |
กระต่ายชมจันทร์จันทร์ทรงกลด |
พระภะรตทิ้งสารมารกลับหลัง |
ชูชายนาฏกรายเข้าสู่วัง |
มังกรหาแก้วมุจลินท์ |
กินนรร่อนรำเลียบท่า |
องค์พระรามาก่งศิลป์ |
มัจฉาลอยล่องฟ่องวาริน |
หลงไหลได้สิ้นงามโสภา |
สิงห์โตเล่นหางกวางโยนตัว |
รำยั่วเอาแป้งผัดหน้า |
หงส์ทองล่องลอยในคงคา |
เหราเล่นน้ำสำราญนัก |
กรีดกรายย้ายอย่างกวางเดินดง |
พระนารายณ์ฤทธิรงค์ทรงขว้างจักร์ |
ช้างสารหว่านหญ้าน่ารัก |
พระลักษมณ์แผลงศรจรลี |
กินนรฟ้อนฝูงยูงฟ้อนหาง |
ขัดจางนางนางรำสองสี |
ลมพัดยอดตองตวัดวี |
สีซอสามสายย้ายเพลงรำ |
รำกระบี่สี่ท่าจีนสาวไส้ |
รำชะนีร่ายไม้เฉื่อยฉ่ำ |
เมขลาล่อแก้วลำนำ |
แบบรำตามเยี่ยงโบราณมา |
พระคเณศร์เสียงา
- ฉุยฉายเอย
|
ช่างงามขำช่างรำโยกย้าย |
สะเอวแสนอ่อนอรชรช่วงกาย |
วิจิตร์ยิ่งลายที่คนประดิษฐ์ |
สองเนตร์คมขำแสงดำมันขลับ |
ชม้อยเนตรจับช่างสรวยสุดพิศ |
- สุดสรวยเอย
|
ยิ่งพิศยิ่งเพลินเชิญให้งงงวย |
งามหัตถ์งามกรช่างฟ้อนระทวย |
ช่างนาฏช่างนวยสรวยยั่วนัยนา |
ทั้งหัตถ์ทั้งกรก็ฟ้อนถูกแบบ |
ดูยลดูแยบสรวยยิ่งเทวา |
- น่าชมเอย
|
น่าชมเจ้าพราหมณ์ |
ดูทั่วตัวงาม |
ไม่ทรามจนนิด |
ดูผุดดูผ่อง |
เหมือนทองทาติด |
ยิ่งเพ่งยิ่งพิศ |
ยิ่งคิดชมเอย |
- น่ารักเอย
|
น่ารักดรุณ |
เหมือนแรกจะรุ่น |
จะรู้เดียงสา |
เจ้ายิ้มเจ้าแย้ม |
แก้มเหมือนมาลา |
จ่อจิตติดตา |
เสียจริงเจ้าเอย |
โคลงภาษิต
- มะโนมอบพระผู้
|
เสวยสวรรค์ |
แขนมอบถวายทรงธรรม์ |
เทอดหล้า |
ดวงใจมอบเมียขวัญ |
และแม่ |
เกียรติศักดิ์รักของข้า |
มอบไว้แก่ตัว |
ปกหลังดุสิตสมิต
- หนังสือดุสิตสมิต
|
บ่ มิคิดคะดีทราม |
ตั้งจิตจะนำความ |
สุขะให้ฤดีสบาย |
- ถึงล้อก็ล้อเพียง
|
กละเยี่ยงวิธีสหาย |
บ่ มีจะมุ่งร้าย |
บ่ มิมุ่งประจานใคร |
- ใครออกจะพลาดท่า
|
ก็จะล้อจะเลียนให้ |
ใครดีวิเศษไซร้ |
ก็จะชมประสมดี |
- ชมเราก็แทงคิว
|
ผิวะฉิวก็ซอรี่ |
แม้แม๊ดมิคืนดี |
ก็จะเชิญ ณ คลองสาน |
วิศวะกรรมา
- อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศิลป์
|
เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า |
ใครใครเห็นไม่เป็นที่จำเริญตา |
เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย |
ศิลปกรรมนำใจให้สร่างโศก |
ช่วยบรรเทาทุกข์ในโลกให้เหือดหาย |
เจริญตาพาใจให้สบาย |
อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ |
แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม |
เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร |
เพราะขาดเครื่องระงับดับรำคาญ |
โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ |
กาพย์เห่เรือ
เห่ชมขบวนเรือ
- ปางเสด็จประเวศห้วง
|
ชลธี |
ทรงมหาจักรี |
เกียรติก้อง |
พรั่งพร้อมยุทธนาวี |
แหนแห่ |
เสียงอธึกทั่วท้อง |
ถิ่นด้าว อ่าวสยาม |
- พระเสด็จโดยแดนชล
|
ทรงเรือต้นงามสดสี |
มหาจักรีมี |
เกียรติก้องท้องสาคร |
- นาวาวรายุทธ
|
อุตลุต แลสลอน |
แห่ห้อมจอมนคร |
ราวจะรอนริปูเปลือง |
- ธงธิวปลิวระยับ
|
สีสลับขาวแดงเหลือง |
อันธงพระทรงเมือง |
เหลืองอร่ามดูงามตา |
- ธงตรามหาราช
|
ผ่องผุดผาดในเวหา |
รูปครุฑะราชา |
อ้าปีกกว้างท่าทางบิน |
- ธงแดงดังแสงชาด
|
ลายช้างกาจก่องกายิน |
บอกตรงธงแผ่นดิน |
ถิ่นสยามอันงามงอน |
- จักรีนาวีราช
|
ทิพอาสน์องค์ภูธร |
สง่าราวอาภรณ์ |
เพื่อประดับทัพเรือไทย |
- ใหญ่กว่านาวาสรรพ
|
ในกองทัพพหลไกร |
บรรดานาวาไทย |
ในบัดนี้ไม่มีทัน |
- ปืนไฟใหญ่ประเภท
|
สี่นิ้วเศษสุดแข็งขัน |
สามารถอาจเหียนหัน |
ผันหน้าสู้ศัตรูแรง |
- อีกศรหกปอนด์หนัก
|
ก็พร้อมพรักศักดิ์กำแหง |
เตรียมอยู่สู้ศึกแขง |
แย้งยื้อยุทธ์สุดกำลัง |
- พาลีรั้งทวีป
|
รีบแล่นตามงามเงื่อนขลัง |
เรือปืนยืนยุทธ์ยัง |
ดังกระบี่พาลีหาญ |
- เรือแรงคำแหงยุทธ
|
มกุฎราชะกุมาร |
คอยสู้ศัตรูพาล |
ผู้ยื้อยุดมกุฎไทย |
- สุครีพครองเมืองศรี
|
สุรนาวีมุ่งชิงไชย |
เรือปืนยืนยุทธไกร |
เหมือนพญาพานะเรนทร์ |
- สุริยมณฑลกล้า
|
นาวากลาดลาดตระเวณ |
หาญต่อ บ่ รอเกณฑ์ |
สอึกสู้ริปูรอน |
- เรือเสือทะยานชล
|
พิฆาฏพลริปูสยอน |
กั่นกล้าในสาคร |
บ่ ย่อหย่อนยุทธนา |
- เรือเสือคำรนสินธุ์
|
พิฆาฏภินอริผลา |
จู่โจมและโถมถา |
กล้าประยุทธ์จนสุดแรง |
- อีกเรือตอร์ปิโด
|
วิ่งโร่รีฝีเท้าแขง |
ว่องไวไล่ย้อนแย้ง |
ยักย้ายลอดดอดเอาไชย |
- กระบวนล้วนแล่นล่อง
|
ไปแทบท้องชลาลัย |
อธึกดูคึกใจ |
จิตต์จักสู้ศัตรูพาล |
|
Update : 16/5/2554
|
|