หน้าแรก
สมาชิก
รายการวัตถุมงคล
ตะกร้าวัตถุมงคล
วิธีชำระวัตถุมงคล
วิธีบูชาวัตถุมงคล
ประวัติวัด
ติดต่อวัด
เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
ค้นหาวัตถุมงคล
วัตถุมงคลทุกหมวด
เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
หมวดวัตถุมงคล
เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล
ราคา
จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
ชำระค่าวัตถุมงคล
แก้ไขรายการวัตถุมงคล
วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
รหัสวัตถุมงคล :
PK0014
ชื่อ :
หนุมานหล่อเสาร์๕ ไหว้ครูปี53
รายละเอียด :
หนุมานหล่อเสาร์๕ ไหว้ครูปี53 เนื้อกะไหล่เงิน วัดหนองม่วง
ประวัติ พระอาจารย์ป้อม วัดหนองม่วง ทายาทแห่งวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ รุ่นที่ 2
วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ เป็นวิชาที่ไม่ลี้ลับจนหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ หากผู้ได้รับการฝังเข็มทองแล้ว รู้จักรักษาศีล ไม่ประพฤติผิดข้อห้ามที่ครูบาอาจารย์ท่านกำหนดไว้ หมั่นเพียรภาวนาหัวใจของพระคาถา พุทโธ อยู่เสมอเป็นนิจ ท่านผู้นั้นจะสามารถเรียกเข็มทอง ให้ไปปรากฏตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดังใจนึก วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ นับตั้งแต่สมัยหลวงปู่พิมพ์มาลัย ต้นตำหรับแห่งวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ ตลอดจนหลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหุบมะกล่ำ ท่านพระอาจารย์ทั้งสอง จะเน้นย้ำกับบรรดาศิษย์ของท่านอยู่เสมอว่า อย่าอวดอ้างตนอย่ารังแกผู้อื่น ให้ประพฤติตนเป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรม แล้วอานุภาพแห่งเข็มทองคะนองฤทธิ์ จะช่วยปกปักรักษาคุ้มครองชีวิตท่านผู้มี เข็มทองคะนองฤทธิ์อยู่ในกาย ในยามที่ท่านมีภัย ให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ จึงกล่าวได้ว่า วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ นี้ไม่ใช่เป็นวิชาที่เลื่อนลอย สามารถจับต้องได้ และพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ฉะนั้นวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ จึงเป็นสุดยอดวิชาแห่งวิชาอย่างแท้จริง วันนี้ที่ผมจะขอกล่าวถึงคือ พระอาจารย์ป้อม วัดหนองม่วง ทายาทรุ่นที่ 2 แห่งวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์
พระอาจารย์ป้อม หรือพระครูประภาสธรรมทัต เจ้าอาวาส วัดหนองม่วง องค์ปัจจุบัน นามเดิมชื่อ นายสนธยา แจ้งประจักษ์ ท่านเกิดเมื่อวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 1 ปีเถาะ ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 ณ บ้านหุบมะกล่ำ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
คุณโยมบิดาชื่อ นายทำ แจ้งประจักษ์
คุณโยมมารดาชื่อ นางกวน แจ้งประจักษ์
พระอาจารย์ป้อมมีพี่น้องร่วมสายโลหิต 6 คน คือ
1. นางสาวจรรยา แจ้งประจักษ์
2. นายสนธนา แจ้งประจักษ์
3. นางน้ำอ้อย แจ้งประจักษ์
4. พระครูประภาสธรรมทัต (พระอาจารย์ป้อม เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง)
5. นายจำเรียง แจ้งประจักษ์
6. นายอาภัย แจ้งประจักษ์
ชีวิตในวัยเด็กของท่าน พระอาจารย์ป้อมได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ได้ช่วยเหลือบิดามารดาทำนา เหมือนเด็กๆบ้านนอกในสมัยนั้นทั่วๆไป เมื่ออายุครบเกณฑ์เรียนหนังสือ ท่านได้เข้าเรียนหนังสือที่ โรงเรียนวัดหุบมะกล่ำ จนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 แล้วไม่ได้เรียนต่อ ออกมาช่วยครอบครัวทำนา จนเมื่อปี พ.ศ. 2521 พอเข้าวัยหนุ่ม ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งใหม่ๆที่ท้าทายกว่า จึงได้เดินทางเข้าไปทำงานอยู่กับพี่ชายที่กรุงเทพ จนกระทั่งถึงวัยเกณฑ์ทหารจึงกลับมาที่จังหวัดราชบุรีอีกครั้ง เพื่อรับการคัดเลือก การเกณฑ์ทหารแต่เพราะท่านเป็นคนร่างเล็ก จึงไม่ได้รับการคัดเลือก เมื่อไม่ได้รับการคัดเลือกทหารแล้ว โยมบิดาและโยมมารดาได้ขอร้องให้พระอาจารย์ป้อมให้บวช พระอาจารย์ป้อมจึงตัดสินใจบรรพชาอุปสมบทโดยมีหลวงพ่อสวัสดิ์ เจ้าอาวาสวัดหุบมะกล่ำในสมัยนั้น ซึ่งเป็นพระหลวงอาได้รับเป็นเจ้าภาพในการอุปสมบท พระอาจารย์ป้อมได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ตรงกับวันที่ 20 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2527 ณ วัดหุบมะกล่ำ ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยมี พระราชวรเวที วัดช่องลม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสังฆรักษ์ประกอบ วัดช่องลม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวิมลประภากร (หลวงพ่อสวัสดิ์ ) วัดหุบมะกล่ำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ด้านวิทยะฐานะของพระอาจารย์ป้อม
- ปีพ.ศ. 2532 เป็นรองเจ้าอาวาส วัดหุบมะกล่ำ
- ปีพ.ศ. 2536 รักษาการเจ้าอาวาสวัดหุบมะกล่ำ
- ปีพ.ศ. 2540 รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองม่วง
- ปีพ.ศ. 2541 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองม่วง
- ปีพ.ศ. 2543 สอบไล่ได้นักธรรมเอก สำนักเรียนวัดหนองม่วง ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี (คณะจังหวัดราชบุรี)
- ปีพ.ศ. 2550 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูประภาสธรรมทัต
วัตถุมงคลที่พระอาจารย์ป้อมสร้างให้หลวงพ่อสวัสดิ์ คือ
- ปีพ.ศ. 2538 สร้างเหรียญหลวงพ่อสวัสดิ์รูปไข่ เนื้อเงิน 47 เหรีญ เนื้อทองแดง 15,000 เหรียญ แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหุบมะกล่ำ
ส่วนในด้านวิชาไสยเวทย์นั้น พระอาจารย์ป้อมได้เริ่มศึกษาวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ ตลอดจนเคล็ดลับในสรรพวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อสวัสดิ์ เจ้าอาวาสวัดหุบมะกล่ำ ซึ่งเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และเป็นพระหลวงอาของท่านเอง โดยเริ่มจากการท่องบ่นจดจำและหัดจารแผ่นตะกรุดยันต์ครู ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 หลวงพ่อสวัสดิ์ ท่านเริ่มเห็นในความหมั่นเพียรของพระอาจารย์ป้อม ในการศึกษาวิชาไสยเวทย์อย่างมุมานะ ท่านจึงได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อสวัสดิ์ โดยหลวงพ่อสวัสดิ์ได้มอบตำราวิชาการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ฉบับสมบูรณ์ ที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากปากของหลวงปู่พิมพ์มาลัยให้แก่พระอาจารย์ป้อม ไว้เพื่อศึกษาจะได้สืบทอดวิชาฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ ต่อไปมิให้สูญหาย พระอาจารย์ป้อมได้ใช้เวลาศึกษาท่องบ่นจดจำอย่างพากเพียรไม่ย่อท้อ อยู่หลายปีจนชำนาญ เมื่อหลวงพ่อสวัสดื์ท่านเห็นว่า พระอาจารย์ป้อมสามารถศึกษาจดจำตำราทั้งหมดได้แล้ว จึงเริ่มให้พระอาจารย์ป้อมช่วยฝนเข็มทองที่ใช้ใน พีธีฝังเข็มทองให้กับศิษยานุศิษย์ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2534 เรื่อยมาจน หลวงพ่อสวัสดิ์ ท่านได้ล้มป่วยและละสังขารมรณภาพลงเมื่อวันแรม 4 ค่ำ เดือน 4 ปีระกา ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2536 รวมสิริอายุ 56 ปี พรรษา 34
เมื่อหลวงพ่อสวัสดิ์ได้มรณภาพลงแล้ว พระอาจารย์ป้อมยังไม่สามรถฝังเข็มทองเองได้ เพราะยังมีข้อสงสัยในเคล็ดลับวิชาบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจ จึงได้ไปขอความกรุณาจาก ท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ศิษย์ฆารวาส วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ ที่มีอาวุโสสูงสุด(จึงนับว่าท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ เป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่งของพระอาจารย์ป้อม) เพื่อขอต่อวิชาจากท่าน ซึ่งท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญก็ได้เมตตาช่วยต่อวิชาให้อย่างสมบูรณ์
ส่วนในการเริ่มฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ของพระอาจารย์ป้อมนั้น เมื่อท่านได้ทบทวนวิชาจากตำราของหลวงพ่อสวัสดิ์ที่ได้มอบไว้ให้ บวกกับการต่อวิชาจากท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ จนมั่นใจแล้วพระอาจารย์ป้อม จึงได้เริ่มจัดพิธีไหว้ครูและฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ เมื่อปีพ.ศ. 2538 โดยได้เรียนเชิญ ท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ เป็นเจ้าพิธีให้ทุกปีเรื่อยมา ต่อมาในปีพ.ศ. 2541 เมื่อท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ เห็นว่าพระอาจารย์ป้อม สามารถทำการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ได้เองอย่างสมบูรณ์แล้ว ท่านอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ จึงได้กล่าวกับพระอาจารย์ป้อมว่า ท่านป้อมทำเองได้แล้วนะ และยังกรุณาให้พระอาจารย์ป้อมคัดลอกสำเนาพิธี กล่าวโองการเชิญครูไว้ให้อีก หลังจากนั้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 เป็นต้นมา พระอาจารย์ป้อมจึงได้จัดพิธีไหว้ครูและฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ด้วยตนเองเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
วัตถุประสงค์การฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์
พระอาจารย์ป้อม กรุณาเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อสวัสดิ์ ได้บอกกล่าวไว้ว่าหลวงปู่พิมพ์มาลัยจะเน้นย้ำตลอดเวลาไม่ให้พูดถึงอิทธิฤทธิ์ด้านคงกระพันชาตรี เพราะอาจจะทำให้ผู้ที่ได้รับการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์มีจิตใจหึกเหิมได้ หลวงปู่พิมพ์มาลัยท่านจะเน้นอิทธิฤทธิ์ สรรพคุณในการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ไว้ 3 อย่าง คือ
1.เตือนภัย 2. แคล้วคลาด 3. เมตตา
การฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์เป็นอุบายให้คนถือศีลทำแต่ความดี ศิษย์ที่ได้รับการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ไปแล้ว จะต้องยึดถือหลักศีล 5 ประพฤติตนเป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรม วิชาการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์นี้ ถ้าผู้ได้ไปรู้จักรักษาให้ดี จะเกิดแต่สิ่งที่ดีๆเป็นสิริมงคลกับชีวิต หากหมั่นเพียรภาวนาหัวใจของพระคาถา พุทโธ อยู่อย่างสม่ำเสมอเป็นนิจ ท่านผู้นั้นจะสามารถเรียกเข็มทอง ให้ไปปรากฏตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดังใจนึก
ข้อห้ามสำหรับผู้ได้รับการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ คือ
1. ห้ามเตะสุนัข (เพราะหลวงปู่พิมพ์มาลัยท่านเกิดปีจอ)
2. ห้ามด่าบุพการี
3.ห้ามผิดภรรยาผู้อื่น
4. ห้ามพูดในขณะถ่ายหนัก-ถ่ายเบา (ทวารทั้งเก้าจะเปิดหมด)
5. ห้ามถ่มน้ำลายลงในโถส้วม (เพราะโถส้วมเป็นที่ต่ำ)
ท่านผู้อ่านท่านใด สนใจในวิชาการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ คิดว่าตนเองสามารถรักษาและทำตาม คำสั่งสอนที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนไว้ได้ อยากจะมากราบนมัสการ พระอาจารย์ป้อม หรือพระครูประภาสธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง ท่านสามรถมากราบนมัสการท่านได้อย่างเป็นกันเอง ได้ที่ วัดหนองม่วง ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
เบอร์โทรศัพท์ วัดหน่องม่วง = 032-351583 มือถือ = 086-0609249
(ป.ล.พิธีฝังเข็มทองจะทำการฝังได้เฉพาะ วันอังคาร,พฤหัสบดี,เสาร์,เท่านั้น ยกเว้นวันที่ตรงกับวันพระงด)
ความเป็นมาของยันต์หน้าพระลักษณ์สุดยอดยันต์แห่งยันต์
(จากบทสัมภาษณ์ของพระครูประภาสธรรมทัต วัดหนองม่วง)
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2537 พระครูประภาสธรรมทัต (พระอาจารย์ป้อม) ท่านได้บังเอิญพบกับลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อสวัสดิ์ วัดหุบมะกล่ำ ซึ่งหลวงพ่อสวัสดิ์ท่านเป็นพระอาจารย์ที่ได้ถ่ายทอดวิชาเข็มทองคนองฤทธิ์และยังเป็นพระหลวงอาของพระอาจารย์ป้อมอีกด้วย คุณโยมผู้นั้นได้แนะนำให้พระอาจารย์ป้อมไปเรียนศึกษาต่อวิชาบางอย่างเพิ่มเติมจากอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ที่จังหวัดนครปฐม เพราะท่านอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ท่านเป็นผู้รู้จริงในสรรพวิชาต่างๆและยังเป็นผู้ที่เก็บรักษาพระยันต์โบราณไว้มากมาย ซึ่งพระอาจารย์ป้อมก็ได้สนใจและปฎิบัติตามคำที่คุณโยมท่านนั้นแนะนำ โดยพระอาจารย์ป้อมได้เดินทางไปหา อาจารย์เฉลียว ช่างชัย ทุกวันเสาร์เพื่อร่ำเรียนศึกษาต่อวิชาตามคำบอกกล่าวของคุณโยมผู้นั้นอยู่เป็นเวลาถึงสองปี ท่านได้ศึกษาเรียนรู้วิชาการต่างๆมากมายหลายแขนง แต่มีวิชาอยู่สามแขนงที่พระอาจารย์ป้อมรู้สึกสนใจเป็นพิเศษ วิชาดังกล่าวคือ 1. วิชาตำรามหามนต์เงาะถอดรูป 2. วิชาตำรามหามณีจินดามนต์ และ3. วิชาตำราสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์
โดยเฉพาะวิชาตำราสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์ วิชานี้ได้สูญหายไม่สามารถหาผู้สืบทอดมาเป็นเวลากว่าสองร้อยปีแล้ว(วิชานี้ได้ถูกค้นพบอีกครั้งโดย ท่านอาจารย์แหน๋ ฆาราวาสจอมขมังเวทย์) ท่านอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ได้รับสืบทอดวิชานี้มาจาก ท่านอาจารย์แหน๋ ซึ่งเป็นฆาราวาสจอมขมังเวทย์อยู่ที่จังหวัดอ่างทอง แต่ท่านเป็นคนที่มีพื้นเพมาจากจังหวัดสุรินทร์ อาจารย์เฉลียว ช่างชัย ได้รับสืบทอดวิชาตำราสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์ เมื่อสมัยท่านยังบวชเป็นสามเณรซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุประมาณ 12 ปี ส่วนท่านอาจารย์แหน๋นั้นก็แก่ชรามากแล้วอยู่ระหว่างระยะบั้นปลายของชีวิต แต่ท่านได้เก็บรักษาวิชาตำราสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์ไว้อย่างหวงแหน ท่านอาจารย์แหน๋ไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้ให้กับผู้ใด จนกระทั่งมาถึงระยะสุดท้ายของชีวิตท่าน ท่านอาจารย์แหน๋กลัวว่าวิชานี้จะสูญหาย สาบสูญไปโดยไร้ผู้สืบทอด เหมือนอย่างสมัยที่ท่านต้องสืบเสาะค้นหาวิชานี้กลับมาอย่างยากลำบาก และเผอิญท่านได้มาพบกับอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ซึ่งขณะนั้นได้บวชเป็นสามเณรน้อย ประกอบกับความมีปัญญาเฉลียวฉลาดเป็นที่ถูกอัธยาศัย ถูกใจของท่านอาจารย์แหน๋ยิ่งนัก ท่านอาจารย์แหน๋จึงได้เมตตายอมถ่ายทอดวิชาสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์นี้สืบต่อให้กับ อาจารย์เฉลียว ช่างชัย จนหมดสิ้น โดยได้กำชับนักหนาว่าอย่าได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับใคร จนกว่าจะเจอผู้ที่มีอุปนิสัยจิตใจที่ดี เหมาะสมที่จะเรียนวิชานี้ได้ ถึงจะให้ถ่ายทอดวิชานี้แก่ผู้นั้น หากไม่พบผู้ที่เหมาะสม สมควรถ่ายทอดให้แล้ว ก็ขอให้ปล่อยให้วิชานี้สาปสูญต่อไปอีกครั้งหนึ่ง ท่านอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ได้รับการถ่ายทอดวิชาสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์ มาตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณรอายุ 12 ปีนั้น ท่านก็เก็บรักษาวิชาสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์นี้ไว้ อย่างหวงแหนเช่นเดียวกับอาจารย์ของท่าน จนอายุท่านมากแก่ชราแล้ว ก็ยังหวงแหนไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้สืบต่อให้กับใคร อนึ่งอาจเป็นเพราะวิชาสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์นี้มีอิทธิฤทธิ์อิทธิคุณแรงกล้า ประกอบกับรับปากอาจารย์ของท่านไว้ ท่านเลยกลัวว่าผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชานี้ไป หากไม่ใช่คนดีไม่อยู่ในศีลในธรรมแล้ว จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นภัยต่อผู้อื่นหรืออาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนได้ จนแม้เมื่อพระอาจารย์ป้อมได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านแล้ว และได้ศึกษาสรรพวิชาต่างๆอยู่กับท่านเป็นเวลาถึงสองปีแล้วก็ตาม ท่านอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ก็ยังไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้ให้กับพระอาจารย์ป้อม จนกระทั่งเมื่อพระอาจารย์ป้อมได้กล่าวอ้อนวอนขอเรียนวิชานี้ เพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์สร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนา ทำนุบำรุงวัดวาอาราม ท่านอาจารย์เฉลียว ช่างชัย จึงได้ใจอ่อนยินยอมถ่ายทอดวิชาตำราสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์นี้ให้กับพระอาจารย์ป้อมอย่างหมดสิ้น รวมทั้งวิชาตำรามหามนต์เงาะถอดรูป และวิชาตำรามหามณีจินดามนต์ดังกล่าวข้างต้นด้วย
อิทธิคุณของยันต์หน้าพระลักษณ์
ยันต์หน้าพระลักษณ์นั้น ถือว่าเป็นสุดยอดยันต์แห่งยันต์อย่างแท้จริง โดยในรายละเอียดของตัวยันต์นั้น ประกอบขึ้นด้วยอักขระที่มีอิทธิคุณครอบคลุมทางเมตตามหานิยมเป็นมหาเสน่ห์อย่างแรงทั้งสิ้น การจะเขียนยันต์หน้าพระลักษณ์ได้นั้น ผู้ที่จะเขียนจะต้องเป็นคนมีอุปนิสัยและพื้นฐานทางด้านจิตใจที่ดีอยู่ในศีลในธรรม และมีความเมตตาโอบอ้อมอารี จะต้องมีความขยันหมั่นเพียร ฝึกฝนจิตใจเป็นเวลานานนับปี จนจิตผู้นั้นก่อเกิดเป็นสมาธิและมีตบะกล้าแข็ง ซึ่งเมื่อขณะทำการเขียนยันต์หน้าพระลักษณ์นั้น จะเกิดมีอาการขนลุกตั้งชัน ใบหน้าชา ใบหูชา คล้ายลักษณะอาการของคนของขึ้น จึงจะเรียกได้ว่าเขียนยันต์หน้าพระลักษณ์ได้สำเร็จ ถึงจะสามารถทำให้ยันต์หน้าพระลักษณ์นี้ เกิดอิทธิคุณสมดังปรารถนาได้ ซึ่งแม้แต่ตัวท่านพระอาจารย์ป้อมเอง ซึ่งท่านได้ร่ำเรียนวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์และฝึกฝนอบรมจิตมาเป็นเวลานานหลายปีจนสามารถทำให้เข็มทองที่ท่านฝังให้กับลูกศิษย์มีอิทธิฤทธิ์เคลื่อนที่ไปมาในร่างกายของลูกศิษย์ได้ รวมทั้งยังได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาแขนงอื่นๆกับท่านอาจารย์เฉลียว ช่างชัย ต่ออีกสองปี ก็ยังต้องใช้เวลาฝึกฝนร่ำเรียน วิชาตำราสร้างยันต์หน้าพระลักษณ์นี้อีกเป็นเวลานานถึงแปดปี ถึงจะสามารถเขียนยันต์หน้าพระลักษณ์นี้ ให้เกิดอิทธิคุณสมดังปรารถนาได้สำเร็จอย่างที่บูรพาจารย์ได้บันทึกไว้ในตำรา
พระอาจารย์ป้อมได้นำยันต์หน้าพระลักษณ์ ที่ได้สูญหายไปกว่าสองร้อยปีกลับมาใช้ โดยท่านพระอาจารย์ป้อม ได้นำยันต์หน้าพระลักษณ์มาเขียนลงเพิ่มในแผ่นทองคำ ที่จะนำมารีดเป็นเส้นลวดเพื่อมาทำเป็นเข็มทองคะนองฤทธิ์ เพื่อเพิ่มอิทธิคุณให้กับเข็มทองคะนองฤทธิ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้นำยันต์หน้าพระลักษณ์ มาทำเป็นผ้ายันต์,ตะกรุดและวัตถุมงคลอื่นๆ แจกจ่ายให้แก่ศิษยานุศิษย์นำไปใช้ เพื่อเป็นการสงเคราะห์ช่วยเหลือศิษยานุศิษย์ในด้านต่างๆ และได้นำปัจจัยที่ได้รับการถวายจากศิษยานุศิษย์ มาทำนุบำรุงวัด รวมทั้งใช้สร้างเสนาสนะต่างๆภายในวัดให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งถือเป็นการยังประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงถือได้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ พระอาจารย์ป้อม เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง เป็นพระเกจิอาจารย์องค์แรก ที่ได้นำยันต์หน้าพระลักษณ์ซึ่งได้สูญหายไร้ผู้สืบทอดมากว่าสองร้อยปีนั้น กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์และเผยแพร่ให้คนทั้งหลายได้รู้จักกับยันต์หน้าพระลักษณ์นี้อีกครั้งหนึ่ง
เรียบเรียงโดย แว่น วัดอรุณ
ข้อมูลจาก กะฉ่อนพระเครื่อง
ราคา :
200.00 บาท
จำนวน :
บูชา :
วัตถุมงคล พระอาจารย์ป้อม ทุกรายการไม่มีฝากให้เช่าบูชาที่อื่น มีให้เช่าบูชาเฉพาะที่วัดหนองม่วงเท่านั้น
© Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved
999arch