หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    นิราศวัดเจ้าฟ้า
    นิราศวัดเจ้าฟ้า
    loading picture

                เณรหนูพัดหัดประดิษฐ์คิดอักษร
        เป็นเรื่องความตามติดท่านบิดร กำจัดจรจากนิเวศเชตุพน
        พอออกเรือเมื่อตะวันสายัณห์ย่ำ ละอองน้ำค้างย้อยเป็นฝอยฝน...
         
            ถึงวัดระฆังบังคมบรมธาตุ แทบพระบาทบุษบงองค์อัปสร
        ไม่ทันลับกัปกัลป์พุทธันดร พระด่วนจรสู่สวรรคครรไล...
            ถึงปากง่ามนามบอกบางกอกน้อย ยิ่งเศร้าสร้อยทรวงน้องดังต้องศร
        เหมือนน้อยทรัพย์ลับหน้านิราจร ไปแรมรอนราวไพรใจรัญจวน
        เคยชมเมืองเรืองระยับจะลับแล้ว ไปชมแถวทุ่งนาล้วนป่าสวน...
            ถึงบางพรมพรหมมีอยู่สี่พักตร์ คนรู้จักแจ้งจิตทุกทิศา
        ทุกวันนี้มีมนุษย์อยุธยา เป็นร้อยหน้าพันหน้ายิ่งกว่าพรหม...
            loading picture
            ถึงบางจากน้องไม่มีที่จะจาก โอ้วิบากกรรมสร้างแต่ปางไหน
        เผอิญหญิงชิงชังน่าคลั่งใจ จะรักใคร่เขาไม่มีปรานีเลย
        ถึงบางพลูพลูใบใส่ตะบะ ถวายพระเพราะกำพร้านิจจาเอ๋ย...
            ถึงบางอ้อคิดจะใคร่ได้ไม้อ้อ ทำแพนซอเสียงแจ้วเที่ยวแอ่วสาว
        แต่ยังไม่เคยเชยโฉมประโลมลาว สุดจะกล่าวกล่อมปลอบให้ชอบใจ
        ถึงบางซ่อนซ่อนเงื่อนไม่เยื้อนแย้ม ถึงหนามแหลมเหลือจะบ่งที่ตรงไหน
        โอ้บางเขนเวรสร้างไว้ปางใด จึงเข็ญใจจนไม่มีที่จะรัก...
            loading picture
            ตลาดแก้วแล้วแต่ล้วนสวนสล้าง เป็นชื่ออ้างออกนามตามวิสัย
        แม้นขายแก้วแววฟ้าที่อาลัย จะซื้อใส่บนสำลีประชีรอง...
            ถึงวัดตั้งฝั่งสมุทรพระพุทธร้าง ว่าท่านวางไว้ให้คิดปริศนา
        แม้นแก้ไขไม่ออกเอาที่ตอกตา นึกก็น่าใคร่หัวเราะจำเพาะเป็น...
            ถึงวัดเขียนเหมือนหนึ่งเพียรเขียนอักษร กลกล่อมกล่าวกล่อมถนอมโฉม
        เดชะรักลักลอบปลอบประโลม ขอให้โน้มน้อมจิตสนิทใน
        ถึงคลองขวางบางศรีทองมองเขม้น ไม่แลเห็นศรีทองที่ผ่องใส...
            ถึงบางแวกแยกคลองเป็นสองทาง เหมือนจืดจางใจแยกไปแตกกัน
        ตลาดขวัญขวัญฉันนี้ขวัญหาย ใครเขาขายขวัญหรือจะซื้อขวัญ
        แม้นขวัญฟ้าหน้าอ่อนเหมือนท่อนจันทน์ จะรับขวัญเช้าเย็นไม่เว้นวาง
        ถึงบางขวางขวางอื่นสักหมื่นแสน ถึงต่างแดนดงดอนสิงขรขวาง...
            ถึงบ้านบางธรณีแล้วพี่จ๋า แผ่นสุธาก็ไม่ไร้ใบมะเขือ
         เขากินหมูหนูพัดจะกัดเกลือ ไม่ถ่อเรือแหหาปลาตำแบ
        ถึงปากเกร็ดเตร็ดเตร่มาเร่ร่อน เที่ยวสัญจรตามระลอกเหมือนจอกแหน
        มาถึงเกร็ดเขตมอญสลอนแล ลูกอ่อนแออุ้มจูงพะรุงพะรัง
        ดูเรือนไหนไม่เห็นเว้นลูกอ่อน ไม่หยุดหย่อนอยู่ไฟจนไหม้หลัง
        ไม่ยิ่งยอดปลอดเปล่าเหมือนชาววัง ล้วนเปล่งปลั่งปลื้มใจมาไกลตา
            loading picture
            พอออกคลองล่องลำแม่น้ำวก เห็นนกหกเหินร่อนว่อนเวหา
        กระทุงทองล่องเลื่อนค่อยเคลื่อนคลา ดาษดาดอกบัวขาวคลัวเคลีย
        นกกาน้ำดำปลากระสาสูง เป็นฝูงฝูงเข้าใกล้มันไปเสีย
        นกยางขาวเหล่านกยางมีหางเปีย ล้วนตัวเมียหมดสิ้นทั้งดินแดน
        ถึงเดือนไข่ไปลับแลเมืองแม่ม่าย ขึ้นไข่ชายเขาโขดเป็นโกฏิแสน
        พอบินได้ไปประเทศทุกเขตแคว้น คนทั้งแผ่นดินมิได้ไข่นกยาง...
            ถึงบ้านลาวเห็นแต่ลาวพวกชาวบ้าน ล้วนหูยานอย่างบ่วงเหมือนห่วงหวาย
        ไม่เหมือนลาวชาวกรุงที่นุ่งลาย ล้วนกรีดกรายหยิบหย่งทรงสำอาง
        ถึงบางพูดพูดมากคนปากมด มีแต่ปดเป็นอันมากเขาถากถาง
        ที่พูดน้อยค่อยประคิ่นลิ้นลูกคาง เหมือนหญิงช่างฉอเลาะปะเหลาะชาย
            ถึงบางกระไนได้เห็นหน้าบรรดาพี่ พวกนารีเรืออ้อยเที่ยวลอยขาย
        ดูจริตติดจะงอนเป็นมอญกลาย ล้วนแต่งกายกันไรเหมือนไทยทำ
        แต่ไม่มีกิริยาด้วยผ้าห่ม กระพือลมแล้วไม่ป้องปิดของขำ...
            ถึงไผ่รอบขอบเขื่อนดูเหมือนเขียน ชื่อวัดเทียนถวายอยู่ฝ่ายขวา
        ข้างซ้ายมือชื่อบ้านใหม่ทำไร่นา นางแม่ค้าขายเต่าสาวทึมทึก
        ปิดกระหมับจับกะเหม่าเข้ามินหม้อ ดูมอซอสีสันเป็นมันหมึก
        ไม่เหมือนเหล่าชาวสวนหวนรำลึก เมื่อไม่นึกแล้วก็ใจมิใคร่ฟัง
            พอฟ้าคล้ำค่ำพลบเสียงกบเขียด ร้องกรีดเกรียดเกรียวแซ่ดังแตรสังข์
        เหมือนเสียงฆ้องกลองโหมประโคมวัง ไม่เห็นฝั่งฟั่นเฟือนด้วยเดือนแรม
        ลำพูรายชายตลิ่งล้วนหิ่งห้อย สว่างพรอยแพร่งพรายขึ้นปรายแขม
        อร่ามเรืองเหลืองงามวามวามแวม กระจ่างแจ่มจับน้ำเห็นลำเรือ
            loading picture
            ถึงย่านขวางบางทะแยงเป็นแขวงทุ่ง ดูเวิ้งวุ้งหว่างละแวกล้วนแฝกเฝือ
        เห็นไรไรไม้พุ่มครุมครุมเครือ เหมือนรูปเสือสิงโตรูปโคควาย
        ท่านบิดรสอนหนูให้รู้ว่า มันผินหน้าออกนั้นกันฉิบหาย
        แม้นปากมันผันเข้าข้างเจ้านาย จะล้มตายพรายพลัดเร่งตัดรอน
        จารึกไว้ให้เป็นทานทุกบ้านช่อง ฉันกับน้องนี้ได้จำเอาคำสอน
        ดึกกำดัดสัตว์หลับประทับนอน ที่วัดมอญเชิงรากริมปากคลอง
        ต้นไทรครึ้มงึ้มเงียบเซียบสนัด พระพายพัดแผ้วผ่าวหนาวสยอง
        เป็นป่าช้าอาวาสปีศาจคะนอง ฉันพี่น้องมิได้คลาดบาทบิดา
        ท่านนอนหลับตรับเสียงสำเนียงเงียบ เย็นยะเยียบเยือกสนองพองเกศา
        เสียงผีผิวหวิวโหวยวิญญา ภาวนาหนาวนิ่งไม่ติงกาย
        บรรดาศิษย์บิดรที่นอนนอก ผีมันหลอกลากปล้ำพลิกคว่ำหงาย
        ลุกขึ้นบอกกลอกกลัวทุกตัวนาย มันสาดทรายกรวดโปรยเสียงโกรยกราว
        ขึ้นสั่นไทรไหวยวบเสียงสวบสาบ เป็นเงาวาบหัวหกเห็นอกขาว
        หนูกลั่นกล้าคว้าได้รากไทรยาว หมายว่าสาวผมผีร้องนี่แน
        พอพระตื่นฟื้นกายค่อยคลายจิต บรรดาศิษย์ล้อมข้างไม่ห่างแห
        ท่านห่มดองครองเคร่งไม่เล็งแล ขึ้นบกแต่องค์เดียวดูเปลี่ยวใจ
        สำรวมเรียบเลียบรอบขอบป่าช้า ภาวนาตามสงฆ์ไม่หลงใหล
        เห็นศพฝังบังสุกุลส่งบุญไป เห็นแสงไฟรางรางสว่างเวียน
        ระงับเงียบเซียบเสียงสำเนียงสงัด ประดิพัทธ์พุทธคุณค่อยอุ่นเศียร
        บรรดาศิษย์คิดกล้าต่างหาเทียน จำเริญเรียนรุกขมูลพูนศรัทธา
        อสุภธรรมกรรมฐานประหานเหตุ หวนสังเวชว่าชีวังจะสังขาร์
        อันอินทรีย์วิบัติอนัตตา ที่ป่าช้านี่แลเหมือนกับเรือนตาย
        กลับหายกลัวมัวเมาไม่เข้าบ้าน พระนิพพานเพิ่มพูนเพียงสูญหาย
        อันรูปเหมือนเรือนโรคให้โศกสบาย แล้วต่างตายตามกันไปมั่นคง
        ค่อยคิดเห็นเย็นเยียบไม่เกรียบกริบ ประสานสิบนิ้วนั่งดังประสงค์
        พยายามตามจริตท่านบิตุรงค์ สำรวมทรงศีลธรรมที่จำเจน
        ประจงจดบทบาทค่อยยาตรย่าง ประพฤติอย่างโยคามหาเถร
        ประทับทุกรุกขรอบขอบพระเมรุ จนพระเณรในอารามตื่นจามไอ
        ออกจงกลมสมณาษมาโทษ ร่มนิโรจน้องไม่เสื่อมที่เลื่อมใส
        แผ่กุศลสามจบทั้งภพไตร จากพระไทรแสงส่องผ่องโพยม
            loading picture
            เลยบางหลวงล่วงทางมากลางแจ้ง ถึงบ้านกระแชงหุงหันฉันผักโหม
        ยังถือมั่นขันตีนี้ประโลม ถึงรูปโฉมพาหลงไม่งงงวย
        พอเสียงฆ้องกลองแซ่เขาแห่นาค ผู้หญิงมากมอญเก่าสาวสาวสวย
        ร้องลำนำรำฟ้อนอ่อนระทวย พากันช่วยเขาแห่ได้แลดู...
        ...ทั้งหนูกลั่นนั้นคะนองจะลองทิ้ง บอกให้หญิงรำรับขยับหัน
        ถ้าทิ้งถูกลูกละบาทประกาศกัน เขารับทันเราก็ให้ใบละเฟื้อง
        นางน้อยน้อยพลอยสนุกลุกขึ้นพร้อม งามละม่อยมีแต่สาวล้วนขาวเหลือง
        ใส่จริตกรีดกรายชายชำเลือง ขยับเยื้องยิ้มแย้มแฉล้มลอย
        ต่างหมายมุ่งตุ้งติ้งทิ้งหมากดิบ เขาฉวยฉิบเฉยหน้าไม่ราถอย
        ไม่มีถูกลูกดิ่งทั้งทิ้งทอย พวกเพื่อนพลอยทิ้งบ้างห่างเป็นวา
        ฉันลอบลองสองลูกถูกจำนับ ถูกปุ่มปับปากกรีดหวีดผวา
        ร้องอยู่แล้วแก้วพี่มานี่นา พวกมอญฮาโห่แห่ออกแซ่ไป

    • Update : 15/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch