หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณของไทย 6
    แก้วเจ้าจอม
    เป็นต้นไม้สูงประมาณ 10-15 เมตร เรือนยอดกลม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก  มี 3 คู่ ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน ใบคู่ปลายจะยาวที่สุด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ใบย่อยรูปรีปลายมน
    ดอกสีฟ้าดอกเป็นกระจุกมี 5 กลีบ เกสรสีเหลือง  มี 8-10 อัน ผลสีเหลือง ออกดอกเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการตอน

    แก้ว
    เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ 5 เมตร ใบเป็นประเภทในประกอบแบบขนนก ชนิดที่มีใบยอด 1 ใบ มีใบย่อย 7-8 ใบ ใบย่อยยาวประมาณ 3 เซนติเมตร มีสัญฐานรีหรือรูปขอบขนาน ปลายแหลมยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร
    ดอกสีส้มอมแดงไม่มีก้านดอก มักอยู่ติดกัน 3-5 ดอก ดอกเป็นหลอดแคบ ๆ มีเกสร 5 อัน  อยู่ในหลอดดอก  ผลกลมเมื่อสุก จะออกสีดำ ภายในมีเมล็ด ออกดอกเกือบตลอดปี
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน
              ไม้แก้วกลิ่นแก้วกราย                     หอมบ่วายวังเวงใจ
    ทุกข์ลืมปลื้มอาไลย ว่ากลิ่นแก้วแล้วเรียมหา

    เขล็ง
    เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ 15-25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมสีเขียวเข้ม  เปลือกสีเทาหรือสีน้ำตาล แตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ใบเป็นประเภทใบประกอบ มีใบย่อย 5-9 ใบ ออกสลับกัน ปลายใบป้านหรือแหลมเรียว โคนใบกลม
    ออกดอกเป็นช่อใหญ่ยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเล็ก เมื่อดอกตูมอยู่จะเป็นรูปไข่ เมื่อดอกบานจะออกสีขาว เกสรมี 2 อัน ผลเป็นรูปไข่ ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด มีเนื้อหุ้มบาง ๆ เรียกว่า ลูกหยี

    แคฝรั่ง
    เป็นต้นไม้ผลัดใบสูงประมาณ 15 เมตร เรือนยอดโปร่ง เปลือกลำต้นสีกระดำกระด่าง ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก  ชนิดที่มีใบย่อยที่ปลาย ใบย่อยยาวประมาณ 4 เซนติเมตร มี 7-17 ใบ
    ออกดอกเป็นช่อยาวประมาณ 12 เซนติเมตร ดอกมี 2 สี คือ สีขาวและสีชมพู ดอกเล็กขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร ฝักแบนมีเมล็ด 2-6 เมล็ดต่อฝัก ออกดอกเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำกิ่ง
    แคแสด
    เป็นต้นไม้สูงประมาณ 20 เมตร ถ้าอยู่ในที่แห้งแล้งจะผลัดใบ ใบประกอบแบบขนนก  มีใบย่อย 4-7 คู่
    ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งตรงดอกสีแสดเป็นรูประฆังขนาดใหญ่  กลีบดอกร่วงง่ายออกดอกตลอดปี แต่จะออกมากในฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ผลแบบคล้ายฝัก ปลายผลแหลม เมื่อผลแก่จะออกสีน้ำตาลดำ เมล็ดมีขนาดเล็กรูปร่าง แบนมีปีก
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    งิ้ว
    เป็นต้นไม้สูงประมาณ 15 เมตร ลำต้นและกิ่งมีหนาม เรือนยอดแผ่กระจายหรือรูปทรงกลมโปร่ง  ใบเป็นแบบใบประกอบ แบบนิ้วมือ ประกอบด้วยใบย่อย 5-7 ใบ
    ดอกสีแดงหรือสีเหลือง ผลกลมยาวสีเขียวขนาดประมาณ 20 เซนติเมตร เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลและแตกออก ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล ออกดอกระหว่างเดือนธันาวาคมถึงกุมภาพันธ์
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    จิกน้ำ
    เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ 15 เมตร ทรงต้นแผ่กว้าง ใบรูปไข่กลับ ใต้ใบสีอ่อน
    ดอกเล็กกลิ่นหอม ออกเป็นช่อที่ ปลายกิ่งห้อยลงมายาวประมาณ 30 เซนติเมตร กลีบดอกมี 4 กลีบ สีชมพู เกสรขาว มีอยู่เป็นจำนวนมากเรียง 3 ชั้น เกสรร่วงง่าย ผลรูปรีเหลี่ยมยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ปลายตัด พบขึ้นมากตามริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง ป่าชายเลน
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    จามจุรี
    เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่สูงประมาณ 20 เมตร เปลือกลำต้นสีดำแตกล่อนได้ง่าย เรือนยอดเป็นรูปร่มกว้าง ใบเป็นประเภท ใบประกอบขนนกสองชั้น  ใบประกอบมีช่อใบ 4 คู่ ใบย่อย 2-10 คู่ ต่อช่อใบ   ใบมีสัญฐานรูปไข่หรือรูปขนมเปียกปูนเบี้ยว ผิวใบเป็นมัน มีขนใต้ใบเล็กน้อย
    ออกดอกรวมเป็นกระจุก ช่อดอกมีก้านช่อ กลีบดอกเล็กมาก  เกสรสีชมพู มีจำนวนมาก ฝักกลมแบนยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เมื่อฝักแก่จะสีดำ แต่ละฝักมีเมล็ดประมาณ 20 เมล็ด  ออกดอกเดือนสิงหาคมถึงกุมภาพันธ์
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    จันทน์กระพ้อ
    เป็นต้นไม้ขนาดกลางสูงประมาณ 15 เมตร เปลือกลำต้นเกลี้ยงสีน้ำตาลปนเทา ใบรูปขอบขนาน โคนใบเยื้องกันเล็กน้อย เส้นใบชัดทั้ง 2 ด้าน กลีบรองดอกเป็นรูปสามเหลี่ยม
    ดอกสีเหลืองนวล กลิ่นหอม มีขนสีน้ำตาลด้านนอก  ออกดอกเดือน พฤศจิกายนถึงมีนาคม
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
              ทองกวาวคราวดอกแดง                    เชิงจำแจงแดงเหียงหัน ....
    ทองหลางใบมน
    เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๕ เมตร ลำต้นสีเทา เปลือกเป็นลายคล้ายเปลือกแตกตืน ๆ สีเทาอ่อน เรือนยอดกลม ใบเป็นประเภทใบประกอบชนิดที่มี ๓ ใบย่อย ใบย่อยเป็นรูปไข่หรือรูปไข่กึ่งขนมเปียกปูน สีเขียว ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน
    ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตามปลายกิ่ง ดอกสีแดงและแดงแสด ยาวประมาณ ๖ เซนติเมตร ฝักยาวประมาณ ๒๕ เซนติเมตร  เป็นข้อ ๆ สีน้ำตาลเข้ม เมล็ดสีแสด ออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นไม้ปลูก
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    ทองหลางด่าง
    เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๐ เมตร ลำต้นสีเทา เปลือกลำต้นเป็นลายคล้ายเปลือกแตกตื้น สีเทาอ่อน เรือนยอดกลม ใบเป็นใบประกอบชนิดสามใบย่อย ใบย่อยเป็นรูปไข่ หรือรูปไข่กึ่งขนมเปืยกปูนสีเขียวและมีลายเหลือง
    ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตามปลายกิ่ง มักสลัดใบหมดต้น ก่อนออกดอก  เป็นไม้ปลูก
    ขยายพันธุ์ด้วยการปัก ชำกิ่งและการตอนกิ่ง

    เทียนกิ่ง
    เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๔ เมตร ทรงพุ่ม ใบออกตรงข้ามกัน มีสัณฐานรูปไข่แคบ ๆ ขนาดประมาณ ๓ เซนติเมตร
    ดอกมีขนาดเล็กมาก สีขาวหรือสีแดง กลิ่นหอมเย็นเป็นช่อตามปลายกิ่ง กลีบดอกเล็กย่น เกสรตัวผู้มี ๘ อัน ผลกลมขนาดเล็ก ภายในมีเมล็ดสีดำเล็ก ๆ เป็นเหลี่ยม ออกดอกเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน
                "เทียนเอ๋ยเทียนกิ่ง                     ออกกระจุ๋มกระจิ๋มเป็นนักหนา
    ออกติดกันเป็นช่อละออตา   กลิ่นเย็นจับวิญญาน่าชื่นชม"

    นนทรี
    เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๕ เมตร เปลือกลำต้นสีเทาเรียบ ตามกิ่งและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดงทั่วไป เรือนยอด เป็นรูปร่ม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก ๒ ชิ้น มี ๔-๑๓ คู่ แต่ละคู่มีใบย่อย ๑๐-๒๒ คู่ ใบย่อยไม่มีก้านใบ ใบมีสัณฐานรูปไข่
    ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง  ช่อดอกเป็นรูปทรงเจดีย์ ยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร กลีบรองดอกด้านนอกมีขนสีน้ำตาลแดง ดอกสีเหลือง ผลเป็นฝักแบน ปลายฝักรูปรี โดยฝักสอบแหลม สีน้ำตาลแดง เมื่อฝักแก่จะเป็นสีดำ แต่ละฝักมี ๑-๔ เมล็ด ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    บุนนาค
    เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบรูปเจดีย์ทรงต่ำ  ลำต้นเปลาตรง เปลือกเรียบ สีน้ำตาลปนเทา  ใบรูปหอกหรือขอบขนาน ด้านบนสีเขียวด้านล่างสีเขียวอมขาว ใบอ่อนสีชมพู
    ดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน  ออกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก ๒-๓ ดอก กลีบรองดอกสีเขียวเข็งและติดเป็นผล เกสรตัวผู้สีเหลืองมีจำนวนมาก ผลทรงรูปไข่เมื่อผลแก่มักแตกเป็น ๒ ซีก ภายในมีเมล็ด ๒-๓ เมล็ด ผิวสีน้ำตาลมัน
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    ปีบ
    เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๒๐ เมตร เปลือกลำต้นสีเทาขรุขระ ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก ๒-๓ ชิ้น ใบย่อยมีสัณฐานรูปไข่แกมรูปหอก ปลายใบแหลม ออกดอกเป็นช่อใหญ่ตั้งตรงยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ดอกจะทยอยกันบาน กลีบอดกสีขาวที่โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ ๖ เซนติเมตร ส่วนปลายแยกเป็น ๕ กลีบ
    ดอกจะบานและมีกลิ่นหอมตอนเย็นถึงกลางคืน  ผลเป็นฝักแบน  มีเมล็ดมาก  เมื่อฝักแก่จะแตกออกเมล็ดจะมีปีก ร่อนไปได้  ออกดอกเดือนตุลาคมถึงธันวาคม
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด การสลัดรากหรือชำรากลำต้นใต้ดิน

    ปีบทอง
    เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๐ เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ  ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบ ๒-๓ ชิ้น ใบย่อยรูปไข่ปลายใบแหลม
    ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ เป็นกลุ่มตามลำต้น และกิ่งก้านมีประมาณ ๕-๑๐ ดอก ดอกบานไม่พร้อมกัน ดอกสีเหลืองแสดเป็นหลอดสั้น ๆ ปลายกลีบแยกเป็น ๕ แฉก ผลเป็นฝักกลมยาวผิวเกลี้ยงยาวประมาณ ๔๐ เซนติเมตร เมื่อฝักแก่จะแตกออกเมล็ดในฝักมีปีกบาง ๆ ออกดอกเดือนมกราคมถึงเมษายน ขณะออกดอกมักทิ้งใบหมดต้น เป็นไม้ที่พบตามเขาหินปูนที่ชุ่มชื้นทางภาคเหนือ
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    ประดู่แดง
    เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๐ เมตร เรือนยอดแผ่กว้าง กิ่งลู่ลงดิน ใบเป็นประเภทใบประกอบ มีใบย่อย ๖-๑๐ คู่ ใบที่อยู่ปลายยอดจะเป็นคู่ที่ใหญ่ที่สุด ใบย่อย 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากัน ใบมีสัณฐานรูปไข่หรือรูปหอกผิวใบเกลี้ยง
    ออกดอกเป็นช่อเกาะเป็นกระจุกตามกิ่ง ๓-๕ กระจุก แตะละกระจุกมีประมาณ ๓-๕ ดอก กลีบรองดอกมี ๔ กลีบสีแดง กลีบคุ่มเหมือนเรือ เกสรสีแดง มีขนาดความยาวไม่เท่ากัน ผลเป็นฝักแบนรูปขอบขนานโค้งเล็กน้อยยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร แต่ละฝักมี ๑ เมล็ด ออกดอกเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกจะบานประมาณ ๒ สัปดาห์
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    ประดู่บ้าน
    เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดใหญ่สูงประมาณ ๒๐ เมตร  ลำต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกลมหรือรูปเจดีย์ทรงต่ำทึบ เปลือกลำต้นสีน้ำตาลมีรอบแตกตามทางยาว กิ่งก้านทอดลงต่ำ ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยประมาณ ๗-๑๓ ใบ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ผิวใบเกลี้ยง โคนใบกว้างมนกลม และปลายใบเรียว
    ออกดอกเป็นช่อตามใบใกล้ยอด กลีบรองดอกเขียวกลีบดอกสีเหลืองอมส้มขนาดประมาณ ๑ เซนติเมตร ผลเป็นฝักกลมแบนมีปีกโดยรอบ แต่ละฝักมี ๑ เมล็ด เมื่อฝักแก่จะแห้งแต่ไม่แตก ขึ้นตามป่าเบญจพรรณชื้น
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    พฤกษ์
    เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๒๕ เมตร เรือนยอดแบน เปลือกลำต้นขรุขระสีเทาเข้มแตกเป็นร่องรูปเหลี่ยม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก มี ๒-๔ คู่ แต่ละคู่มีใบย่อยประมาณ ๓-๖ คู่ ใบย่อยไม่มีก้านใบ มีสัณฐานรูปรีแกมรูปไข่กลับ โคนใบกลมหรือเบี้ยว ผิวใบเกลี้ยง
    ออกดอกเป็นช่อกลม เกสรสีขาวนวล  มีกลิ่นหอม ช่อดอกออกตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง มี ๑-๔ ช่อ ผลเป็นฝักแบนบาง สีเทาอมเหลืองรูปขอบขนานหัวท้ายบน  แต่ละฝักมี ๔-๑๒ เมล็ด ออกดอกประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน มีขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไป
    ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
    ชงโค
    เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นสูงประมาณ 10 เมตร ใบเคือบกลมแยกเป็น 2 แฉกลึก  ปลายแฉกกลม
    ออกดอกเป็นช่อ  ช่อดอกออกข้าง ๆ หรือที่ปลายกิ่งช่อละ ๒-๑๐ ดอก  กลีบของดอกตะแคงข้าง กลีบดอกสีชมพูถึงม่วงเข้ม กลีบดอกแคบ เกสรตัวผู้มี ๓ อัน รังไม่มีขน ฝักยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร เมล็ดกลมมี ๑๐ เมล็ดออกดอกเดือนกันยายนถึงกุมภาพันธ์
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือการตอนกิ่ง
                   ชงโคเทียบชงฆา นุชนาถ เหมือนฤา....

    จำปี
    เป็นต้นไม้สูงประมาณ 15 เมตร เรือนยอดเป็นรูปทรงเจดีย์ ใบเป็นประเภทใบเดียวรูปรี ปลายเรียวแหลม ผิวใบเกลี้ยง
    ดอกสีขาว ออกตามซอกกิ่งเป็นดอกเดียว มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน

    จำปา
    เป็นต้นไม้สูงประมาณ 15 เมตร เรือนยอดรูปทรงเจดีย์ ใบเป็นประเภทใบเดี่ยว สีสัญฐานรูปไข่หรือรูปหอก  แบบใบมีขนอ่อนด้านล่าง
    ดอกสีเหลืองส้ม เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ ผลเป็นช่อยาว ประกอบด้วยผลย่อย ๆ รูปร่างกลม เปลือกเขียวประจุขาว
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
               จำปาหนาแน่นเนือง                     คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม
    คิดคนึงถึงนงราม   ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง

    ชัยพฤกษ์
    เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูงประมาณ ๑๕ เมตร เรือนยอดเป็นรูปร่ม เปลือกสีน้ำตาล ใบเป็นประเภทใบประกอบมีใบย่อย ผิวใบเกลี้ยง
    ออกดอกเป็นช่อคาบกิ่งเป็นช่อสั้น ๆ กลีบรองดอกทรงรูปไข่ปลายแหลมสีแดง กลีบดอกรูปไข่กลีบ สีชมพู  เกสรตัวผู้มี ๑๐ อัน ขนาดไม่เท่ากัน ฝักกลมยาวสีดำ ผิวเกลี้ยงยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร มีเมล็ดประมาณ ๖๐ เมล็ด ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน
    ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

    ตะลิงปริง
    เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๑๐ เมตร ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนกที่มีใบเดี่ยวอยู่ตอนปลาย มีใบย่อยประมาณ ๒๕ - ๔๕ ใบ ใบย่อยรูปขอบขนานแถบรูปหอก ปลายใบแหลมยาวประมาณ ๖ เซนติเมตร
    ออกดอกตามกิ่งข้างและตามลำต้นบนช่อดอกสั้น ๆ กลีบดอกสีม่วงแดง ผลยาวประมาณ ๕ เซนติเมตร รอบผลเป็นร่องมี ๕ ร่อง  เมื่อสุกจะออกสีเขียวอมเหลือง ฉ่ำน้ำ เมล็ดแบนมีรสเปรี้ยว
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และการทาบกิ่ง

    ตะแบกนา
    เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๕ เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกลำต้นเกลี้ยงผิวนวลเป็นมัน ใบเดี่ยวรูปหอก ยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร
    ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เมื่อดอกบานจะมีขนาดประมาณ ๒ เซนติเมตร กลีบดอกบานย่นสีม่วงอมชมพูแล้วเปลี่ยนเป็นสีชัด ผลรูปไข่ เมื่อผลแก่ออกสีน้ำตาล แตกอ้าออกเป็นหลายกลีบ เมล็ดแบนสีน้ำตาลมีปีก ออกดอกระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแทบทุกภาค และตามทุ่งนาทั่วไป
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    ตันหยง
    เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๔ เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกว้าง กิ่งโน้มลงใบเป็นประเภทใบประกอบ มีขนาดเล็กมาก
    ดอกเล็กขนาดประมาณ ๕ มิลลิเมตร ออกรวมเป็นกระจุกอยู่ตามโคนใบ ดอกสีขาวอมเหลือง กลิ่นหอมแรง ฝักแบนบิดงอออกเป็นกระจุกออกดอกมากในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม เป็นไม้ปลูก
    ขยายพันธ์ด้วยการเพาะเมล็ด

    ตีนเป็ดน้ำ
    เป็นไม้ต้นสูงประมาณ ๑๕ เมตร ทรงร่ม ใบออกเป็นกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง ผิวใบมันรูปไข่กลับ
    ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมีหลายดอก ดอกมีขนาดใหญ่ประมาณ ๔ เซนติเมตร สีขาวตรงกลางเหลือง โคนดอกติดกันเป็นหลอด กลีบดอกแยกกันมี ๕ กลีบ ผลสีเขียวเมื่อสุกดอกสีแดงเป็นมัน ชอบขึ้นตามริมฝั่งแม่น้ำลำคลอง และที่ลุ่มซึ่งน้ำท่วมถึงโดยทั่วไป ออกดอกตลอดปี
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง

    แต้ว
    เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๕ เมตร ทรงต้นโปร่ง เปลือกลำต้นสีน้ำตาลเข้ม ล่อนเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ใบออกตรงข้ามเป็นคู่  รูปขอบขนาน บางดอกมีกลิ่มหอมอ่อน ๆ
    ดอกเป็นกระจุกเล็ก ๆ หรือเป็นช่อสั้น ๆ ช่อละประมาณ ๕ ดอก ออกตามกิ่งตรงโคนใบที่ร่วงไปแล้ว กลีบรองดอกสีเขียวมี ๕ กลีบ กลีบดอกสีชมพูอ่อนมี ๕ กลีบ ปลายกลีบมีครุยเป็นฝอยยาว ๆ ผลรูปไข่ยาวประมาณ ๑ - ๕ เซนติเมตร เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็น ๓ แฉก เมล็ดขนาดเล็กมีปีกออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน พบตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไป ขณะที่แตกใบอ่อนใบจะเป็นสีแดง
    ขยายพันธ์ด้วยการเพาะเมล็ด
              เต็งแต้วแก้วกาหลง                     บานบุษบงส่งกลิ่นอาย
    หอมอยู่ไม่รู้หาย   คล้ายกลิ่นผ้าเจ้าตราตรู

    ทองกวาว
    เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๕ เมตร ทรงพุ่มรุปทรงกลมหรือทรงกระบอก ปลายกิ่งห้อยกิ่งมักคดงอ ใบเป็นประเภทใบประกอบชนิดชนิดที่มีใบย่อย ๓ ใบ ใบใหญ่และหนามีใบย่อยอยู่กลางรูปมนกว้างเกือบกลม
    ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งและด้านข้าง ดอกยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร กลีบเลี้ยงสีเขียวเข้มคล้ายกำมะหยี่มีขนคลุม กลีบดอกสีแดงสด ผลเป็นฝักสีเขียวอ่อน เมื่อผลแก่สีเปลี่ยนเป็นน้ำตาลอมเหลือง
    ฝักแบนรูปขอบขนานยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร รูปร่างคล้ายปีกมีเมล็ดอยู่ตอนปลายฝัก ๑ เมล็ด ดอกบานระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน กระจายพันธุ์ตามป่าเบญจพรรณและป่าแดงทั่วประเทศ

    • Update : 15/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch