หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณของไทย 1
    พันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณของไทย
             ดอกไม้ที่ในโลกนี้            เรารู้ได้อย่างดี            ว่างามสดสีทั้งนั้น
    ปวงมาลีมากมีต่างพรรณ   สวยงามทั่วกัน   เพื่อความสัมพันธ์ชื่นชม
    บุปผามาลีประดับความงาม   หาใช่เพื่อเลวทราม   แต่มีเพื่อความนิยม
    บุปผามาลีมีไว้เพื่อดูและดม   ไว้ชะโลมอารมณ์   ไว้เพียงเพื่อชมนาน ๆ
             ดอกไม้ที่ในโลกนี้   แจ่มใสอยู่ด้วยดี   สอางค์สดสีสะอ้าน
    ปวงมาลีเกิดมาเพื่อความเบิกบาน   เล้าโลมวิญญาณ   เพื่อความสำราญทุกโมงยาม
    ดอกไม้สอางค์ต่าง ๆ นานา   ล้วนแต่เกิดมา   เพื่อความสดชื่นสวยงาม
    โลกหมุนเวียนวนไปสักกี่หนก็ตาม   ทุกนาทีโมงยาม   ทวีแต่ความงามครัน
    บุปผามาลีนานาพรรณของไทยนับวันจะหายาก และไม่ไคร่เป็นที่รู้จักของอนุชนรุ่นหลัง เนื่องจากสาเหตุหลายประการด้วยกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนและป่าตามธรรมชาติของไทยค่อย ๆ หมดสภาพไปตามความเป็นไปของบ้านเมืองในปัจจุบัน ซึ่งเจริญขึ้นในด้านหนึ่ง และเสื่อมไปในอีกด้านหนึ่ง ความนิยมพันธุ์ไม้ต่างชาติซึ่งก็สวยงามน่าชมทั้งสิ้น ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรณไม้ของไทยหายไปจากชีวิตประจำวัน พรรณไม้บางอย่างคงรู้จักแต่ชื่อ แต่ตัวจริงหาดูได้ยาก
    ปัจจุบันหลายหน่วยงานได้มีการรวบรวมพรรณไม้ไทยมาปลูกไว้ในสวนขนาดต่าง ๆ ตามกำลังของตนซึ่งนับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ควรได้ส่งเสริมให้เป็นไปอย่างกว้างขวางทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งกลุ่มคนและปัจเจกบุคคล เพื่อให้พรรณไม้ไทยได้ยืนยงคงอยู่ได้ชมความงามตามธรรมชาติ ซึ่งบรรพบุรุษของไทยเราได้สร้างสมมาเป็นเวลายาวนาน บรรดาวรรณคดีไทยและวรรณกรรมไทย จะมีตอนชมนกชมไม้แทรกอยู่โดยตลอด ทำให้เห็นว่าวิถีชีวิตไทยที่มีความเป็นอยู่อย่างสุขสงบมาเป็นเวลาช้านานนั้น การอิงธรรมชาติเป็นสิ่งที่สำคัญประการหนึ่ง และพรรณไม้ดอกของไทยก็มีส่วนอย่างสำคัญในวิถีชีวิตดังกล่าว
          ไม้งามปกคลุมชะอุ่มดูเขียว                     ได้แต่แลเหลียวตะลึงลานใจ
    พันธุ์บุปผาชาติดาษดา ผกาวิไล   ส่งกลิ่นชื่นใจเมื่อได้ลมพา
    ไม้ดอกต่าง ๆ ของไทย มีตั้งแแต่ขนาดเล็กเป็นไม้ล้มลุก ไม้เถา ไม้เลื้อย ไม้พุ่ม ตลอดจนไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังมีไม้น้ำหลายประเภทที่ให้ดอกสวยงาม นับว่ามีความหลากหลายเหมาะสมแก่สภาพความเป็นอยู่ และความต้องการที่จะมีไว้ชื่นชม
    ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม

    กรรณิการ์
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ลำต้นและกิ่งเป็นเหลี่ยม ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวออกเป็นคู่ เรียงตรงข้าม  ใบทรงรูปไข่ ขอบใบเรียบหรือมีจักเล็กน้อย
    ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เป็นดอกเดี่ยวมีโคนกลีบติดกัน มีลักษณะเป็นหลอดสีส้ม กลีบดอกแคบ  ปลายกลีบสีขาวและไม่เสมอกัน จะมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน และดอกจะร่วงหมดในตอนเช้า ผลมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ภายในมีเมล็ดอยู่ 2 เมล็ด
    ขยายพันธุ์โดยการตอนหรือปักชำ

    กระดังงาสงขลา
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวยาว กลีบรองดอกมีสามกลีบ สีเขียว มีขนาดสั้น กลีบใบเรียวสองชั้น ชั้นนอกมี 5 กลีบ ชั้นในมี 15 กลีบ ปลายกลีบเรียวแหลมโคนกลีบด้านในมีแต้มสีน้ำตาล ที่ฐานกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียติดอยู่
    กระดังงา  ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมอบอวล
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน

    กระดุมทอง
    เป็นไม้ล้มลุกพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ลำต้นมีขนทึบใบเดี่ยว เรียงตรงกันข้าม สัณฐานใบเป็นรูปไข่ หรือรูปรีกว้าง ใบกว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ปลายแหลมโคนสอบ ขอบเรียบหรือหยักซี่ฟัน ผิวใบมีขนสากทั้ง 2 ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ 1 เส้น ก้านใบสั้นมีครีบ มีขนตามก้านใบและขอบครีบ ช่อดอกแบบช่อกระจุก
    เข็ม

    ออกดอกเดี่ยว ๆ หรือออกเป็นคู่ ตามง่ามใบใกล้ยอดดอกโตประมาณ 3 เซนติเมตร ก้านดอกยาว 1-8 เซนติเมตร โคนช่อมีใบประดับมีขนเรียงกันถี่ โคนใบประกอบชั้นนอกใหญ่ขึ้นเมื่อดอกร่วงไป ดอกวงนอกเป็นดอกตัวเมีย มีประมาณ  10 ดอก กลีบดอกสีเหลืองรูปรี  กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร รังไข่เล็ก  ดอกวงในเหมือนดอกตัวเมีย แต่รังไข่ไม่สมบูรณ์ ดอกตัวผู้มีขนาดเล็กมากและเป็นหมัน อยู่กลางกระจุกดอก  ผลมีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยม  ยอดแบน เมล็ดเล็กสีดำเป็นมัน ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
    กาหลง
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 3 เมตร ใบเป็นแบบใบเดี่ยว รูปไข่ ปลายเว้าลึกคล้ายใบแฝด
    ดอกขาวออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและกิ่งข้าง  ดอกกาหลงมีกลีบ 5 กลีบ เกสร 10 อัน ขนาดต่าง ๆ กัน มีกลิ่นหอมรวยริน ฝักแบนมีเมล็ดประมาณ 5-10 เมล็ด
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการตอน กาหลงออกดอกได้ตลอดปี

    กุหลาบ
    เป็นไม้พุ่มตั้งหรือเลื้อย ใบเป็นใบประกอบ ประกอบด้วย 3 ใบ หรือ 5 ใบ ขอบใบจัก หูใบติดกับก้านใบหรือเป็นอิสระ
    ดอกออกที่ปลายกิ่ง มีทั้งดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ กลีบรองดอกเป็นรูปถ้วยสีเขียว ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกปกติมี 5 กลีบ เกสรตัวเมียอยู่กลางดอกเป็นผลกลม ภายในมีเมล็ดแข็งจำนวนมาก เกสรตัวผู้มีอยู่เป็นจำนวนมาก กุหลาบมีหลายชนิด หลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ดอกมีกลิ่นหอมเย็น
    การขยายพันธุ์มีหลายแบบ เช่น เพาะเมล็ด ตอน ติดตา และปักชำ
          ...กุหลาบหอมหวล                     ส่งกลิ่นยียวนแสนยวนยั่วหัวใจ
    ทั้งหอมทั้งหวาน ดอกเพิ่งบานใหม่ ๆ ...
          ...ฉันมั่นใจกุหลาบเป็นไม้งามละม่อม                     ควรจะออมถนอมชม
    ทุก ๆ คนพอใจมักเด็ดเอาไปดอมดม หรือจะชมเสียบผมชื่นอุรา
    สวยสีสรรค์ทุก ๆ พรรณสุดจะเด่น กลิ่นเยือกเย็นสีที่เห็นไม่บาดตา
    กลีบเกสรกลีบอ่อนซ้อนกันดูงามสง่า                     ทุกเวลารวยรื่นนาสาน่าดม...
          ...ริมธารละลานไปด้วยบุปผา                     ดอกแดงกุหลาบพนาสลับลัดดากล้วยไม้ไพร...
    เป็นไม้พุ่ม  ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอดหรือกิ่งข้าง
    ดอกมีหลากสีด้วยกันคือ สีแดง ส้ม ชมพู เหลือง และขาว เป็นต้น ดอกเข็มมีลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ ที่ปลายหลอดมีกลีบแยกจากกันเป็น 4 กลีบ ถ้าดอกซ้อนอาจจะมีถึง 8 กลีบ หรือมากกว่านั้น เกสรตัวผู้ติดอยู่ที่หลอดดอกด้านบน และอยู่สลับกับกลีบ เกสรตัวเมียยื่นเลยหลอดดอกออกมา มี 2 แฉก เข็มจะออกดอกตลอดทั้งปี น้ำหวานจากดอกเข็มมีปริมาณมาก เราสามารถดูดน้ำหวานด้วยปากโดยตรงจากดอกเข็มแต่ละดอกได้โดยง่าย
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และด้วยการตอน

    คัดเค้า
    เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย มีหนามคู่ตามกิ่งก้าน ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ใบสีเขียวสด ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม
    ดอกเป็นช่อคล้ายดอกเข็ม โคนดอกเป็นหลอดสั้น ๆ ปลายดอกแยกเป็น 5 กลีบ เกสรตัวผู้ติดที่ปลายหลอด  ดอกเป็นสีเหลือง ออกดอกประมาณในฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน

    ชบา
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-3 เมตร  ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่กว้าง  ปลายใบแหลมเรียว  ขอบใบเรียบหรือมีจักเล็กน้อย
    ดอกชบาออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ก้านดอกยาว กลีบรองดอกมี 2 ชั้น สีเขียว ดอกมีทั้งดอกลาและดอกซ้อนมีหลากสี เช่น สีแดง สีชมพู และสีเหลือง เป็นต้น มีทั้งดอกใหญ่และดอกเล็ก เกสรตัวผู้เป็นหลอดยาวยื่นออกมาจากกลางดอก ปลายสุดเป็นเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็น 5 แฉก สีแดง เกสรตัวผู้ติดอยู่รอบ ๆ หลอดเป็นสีเหลือง ชบาออกดอกตลอดทั้งปี
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน

    ช้องนาง
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบรี ปลายแหลม ออกเป็นคู่ตามกิ่ง
    ดอกเป็นรูปแตร ปลายผายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกสีม่วง กลางหลอดดอกเป็นสีเหลือง ดอกยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ช้องนางออกดอกตลอดทั้งปี
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอน

    ช้องแมว
    เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย ใบเป็นชนิดใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันกับคู่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายมน ดอกช้องแมวออกเป็นช่อตามกิ่งข้าง และห้อยลงมา
    ดอกจะออกจากซอกของใบประดับ ซึ่งเรียงซ้อนกัน ตัวใบประดับ เป็นสีเขียวอมเหลืองมีสีแดงประอยู่เป็นจุด ตัวดอกสีเหลือง ที่โคนกลีบติดกันเป็นรูปหลอดกลีบดอกแยกกันที่ปลายของหลอดดอก ช้องแมวจะออกดอกในช่วง เดือนมีนาคม-พฤษภาคม
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอนหรือการปักชำ

    ทองอุไร
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2-4 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยที่ปลายชุด ใบย่อยมีลักษณะหยิกเป็นฟันเลื่อย
    ทองอุไรออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง สีเหลืองสด กลีบดอกติดกันเป็นรูปกรวย ปลายกลีบแยกออกเป็น 5 แฉก ปลายกลมมน  ผลเป็นฝัก เมื่อฝักแก่ ภายในจะมีเมล็ดแบบมีปีก ทองอุไรออกดอกตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

    ทิวาราตรี
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2-3 เมตร  คล้ายต้นราตรีแต่ใบสั้นกว่าใบมีลักษณะเกลี้ยง ดอกมีขนาดเล็กกว่าดอกราตรี
    ออกดอกเป็นช่อกระจาย กลีบดอกตัดกันเป็นหลอด ส่วนปลายกลีบแยกจากกันและม้วนกลับ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมเวลากลางวัน ออกดอกประมาณเดือนละครั้ง ตลอดทั้งปี ผลเมื่อสุกจะสีดำ
    ขยายพันธุ์ด้วยการตอนหรือการปักชำ

    นมสวรรค์
    เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1.5 เมตร ใบมีสัณฐานค่อนข้างกลม มีแฉกตื้น ๆ 5 แฉก ปลายแฉกแหลม ผิวใบเป็นมันสีเขียวเข้ม ใบออกตรงข้าม ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร
    ดอกออกเป็นช่อออกที่ปลายยอด ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร พุ่มดอกเป็น รูปทรงเจดีย์ ดอกเป็นสีแดงสด ออกดอกใบฤดูฝน เป็นไม้ที่ชอบขึ้นตามชายป่า
    ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือการตอน
          "...นมสวรรค์นั้นสอางค์                     ดั่งกับถันหลั่นสล้างโสภิณ..."

    นางแย้ม
    เป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อน สูงประมาณ 1 เมตร ใบใหญ่ออกตรงข้ามเป็นคู่ ใบยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ขอบใบจัก
    ดอกออกเป็นช่อแน่นที่ปลายกิ่ง ดอกบานไม่พร้อมกัน ขนาดดอกประมาณ 3 เซนติเมตร กลีบซ้อนแน่นสีขาวคล้ายมะลิซ้อน แต่กลีบดอก ชั้นนอกเป็นสีม่วงอ่อน กลิ่นหอมแรง
    ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ทับกิ่งหรือสะกัดราก
          "....หอมเอยหอมดอกไม้                     ดอกใดที่ไหนเอ๋ย
    กลิ่นนางแย้มหอมชวนเชย   กลิ่นระเหยเหมือนประทินกลิ่นนวลปราง..."

    • Update : 15/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch