หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    หลวงพ่อแดง วัดราชสิงขร กรุงเทพฯ
    คอลัมน์ เดินสายไหว้พระ



    'วัดราชสิงขร' ตั้งอยู่เลขที่ 2114 ถนนเจริญกรุง 74 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 98 ตารางวา เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

    สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปลายรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ.2275-2301) อันเป็นช่วงปลายแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา

    ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับผู้สร้างในเบื้องต้น จึงน่าเชื่อว่าเป็นการรวมกลุ่มกันของชาวบ้านที่มีศรัทธาสร้างวัด เพื่อเป็นสถานที่บำเพ็ญบุญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน

    ด้วยนับแต่เสียกรุงให้แก่พม่าข้าศึกในปี พ.ศ.2310 ต่อจากนั้นจนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชธานีใหม่ เป็นระยะเวลาที่บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อยอย่างแท้จริง

    สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท โปรดเกล‰าฯ ให้ช่างหลวงวังหน้าสร้างพระอุโบสถ มีหลักฐานที่ปรากฏ คือ ใบเสมาหินชนวนที่ฝังไว้กับผนังด้านนอกพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับวัดชนะ สงครามและวัดมหาธาตุ อันเป็นพระอารามที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงเป็นผู้ปฏิสังขรณ์

    นอกจากนี้ ปรากฏหลักฐานพระวิหาร สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดเกล‰าฯ ให้สร้างไปพร้อมกันกับการสร้างพระอุโบสถเพื่อประดิษฐานหลวงพ่อแดง

    'หลวงพ่อแดง' เป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดราชสิงขร ถูกชะลอลงมาพร้อมกับหลวงพ่อทองคำและหลวงพ่อสัมฤทธิ์ จากพระนครศรีอยุธยาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ในระยะเวลาก่อนการเสียกรุง ขณะล่องแพมาใกล้วัดราชสิงขร ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เนื่องจากเป็นฤดูน้ำหลาก ทำให้การควบคุมแพเป็นไปลำบาก แพเสียหลักและแตกจนทำให้หลวงพ่อแดงจมลงที่ฝั่งตรงกันข้ามกับวัด และยังไม่สามารถนำหลวงพ่อขึ้นจากน้ำได้ คงปล่อยให้จมอยู่ในน้ำ

    ณ ครั้งนั้นผู้คนชาวฝั่งธนบุรีได้ลือและแตกตื่น แม้จะได้ประกอบพิธีอัญเชิญหลวงพ่อแดงโดยประการใดๆ ก็ตามไม่สามารถนำหลวงพ่อแดงขึ้นจากน้ำได้ ต่อมาจะด้วยสิ่งดลใจหรือปาฏิหาริย์ ผู้คนฝั่งวัดราชสิงขร (กรุงเทพฯ) ทราบข่าวเหตุการณ์จึงได้ไปขอเจรจาขออัญเชิญหลวงพ่อแดงประดิษฐานไว้ ณ วัดราชสิงขร เป็นที่สำเร็จตามคำขออัญเชิญในฤดูน้ำลด

    เมื่อครั้งที่อัญเชิญมาสู่วัดราชสิงขร ได้ประดิษฐานองค์พระอยู่กลางแจ้ง ปรากฏว่าเมื่อชำระคราบโคลนตมและตะไคร่น้ำออกแล้ว ปรากฏว่าเกิดเป็นสีสนิมแดงจับทั่วทั้งองค์พระอย่างเห็นได้ชัด

    ชาวบ้านฝั่งวัดราชสิงขรจึงได้พากันนิยมขนานนามว่า หลวงพ่อแดง สืบต่อกันมาตราบทุกวันนี้

    หลวงพ่อแดง เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่วัดราชสิงขร ที่มีผู้คนนับถือกันทั่วไปหลวงพ่อแดงเป็นพระพุทธรูปเนื้อสำริดแก่ทองคำ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.1 เมตร ความสูงวัดจากฐานขององค์พระถึงยอดพระเกศ 2.9 เมตร ศิลปะแบบอยุธยา ที่มีอิทธิพลของศิลปะสุโขทัยเข้าปน มีความงดงามมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระพักตร์ จนทำให้เกิดการขนานนามท่านว่า หลวงพ่อพระพุทธสุโขทัย ในเวลาต่อมาจนกระทั่งบัดนี้

    จากการสันนิษฐานเชื่อว่า หลวงพ่อแดง เป็นที่นับถือแม้แต่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ด้วยปรากฏว่า พระองค์ทรงใช้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเส้นทางเสด็จไปมาจากพระนครศรีอยุธยา ผ่านท่าน้ำหน้าวัดราช สิงขรสู่ปากน้ำแล้วสามารถเดินทางต่อไปยังหัวเมืองต่างๆ ได้ ทรงเคยและนมัสการหลวงพ่อแดง

    ต่อมา เมื่อครั้งเสด็จหนีพม่าข้าศึกจากพระนครศรีอยุธยาถึงท่าน้ำวัดราชสิงขรได้โดยปลอดภัย จึงเสด็จขึ้นนมัสการหลวงพ่อแดง และข้อนี้เองที่เป็นสาเหตุให้เสด็จมาทรงสร้างอุโบสถขึ้นใหม่ และทรงสร้างวิหารถวายหลวงพ่อแดงเป็นการส่วนพระองค์

    • Update : 13/11/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch