|
|
ประวัติของวัดอรุณราชวราราม -3
พระมณฑปทิศ พระปรางค์ใหญ่ พระปรางค์ทิศ และรูปครุฑจับนาค
ครั้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ได้ทรงปฏิสังขรณ์พระปรางค์จนเสร็จสมบูรณ์สวยงามดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
แม้จะมีการปฏิสังขรณ์ใหม่อีกครั้งหนึ่งในสมัย รัชกาลที่ ๙ รัชกาลปัจจุบัน
แต่ก็ยังคงความสวยงามในสภาพเดิมไว้ทุกประการ ตามที่รัชกาลที่ ๕
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์ไว้ดังนี้
พระปรางค์องค์ใหญ่ตั้งอยู่ภายในรั้วล้อมทั้ง ๔ ด้าน
คือด้านตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้
ตอนล่างเป็นกำแพงก่ออิฐถือปูนเตี้ยๆ ทาด้วยน้ำปูนสีขาว
ตอนบนเป็น รั้วลูกกรงเหล็กทาสีแดง มีรูปครุฑจับนาค
อันเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์ในรัชกาลที่ ๒
ทำด้วยเหล็ก ติดอยู่ตอนบนที่รั้วลูกกรงเหล็กทาสีแดงทุกช่อง
แต่ละช่องกั้นด้วยเสาก่ออิฐถือปูนเหมือนกำแพง
ตอนล่างทางด้านตะวันตกหลังพระปรางค์ใหญ่นั้น
มี เก๋งจีน แบบของเก่าเหลืออยู่อีก ๑ เก๋ง
หน้าบันและใต้เชิงชายประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสี
และภาพสีเทาเขียนเป็นรูปดอกไม้ ต้นไม้ และรูปสัตว์ต่างๆ แบบจีน
ผนังของเก๋งจีนด้านในทาด้วยน้ำปูนสีขาว ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นภาพสีเกี่ยวกับนรก
ในรัชกาล ๕ โปรดให้ลบออกเสียเพราะทรงพิจารณาเห็นว่าไม่งาม
ส่วนรั้วด้านใต้ที่ติดกับกำแพงพระราชวังเดิมนั้น
เป็นรั้วก่อด้วยอิฐถือปูนทึบตลอดทั้งด้าน
รั้วลูกกรงเหล็กทาสีแดง แต่ละช่องกั้นด้วยเสาก่ออิฐถือปูนเหมือนกำแพง
‘รูปครุฑจับนาค’ ทำด้วยเหล็ก ที่รั้วลูกกรงเหล็กทาสีแดง
อันเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์ในรัชกาลที่ ๒
ลานพระปรางค์องค์ใหญ่ตั้งแต่รั้วถึงฐานพระปรางค์ปูด้วยกระเบื้องหิน
มีท่อระบายน้ำจากพื้นลานลงไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
แต่ละมุมด้านในของรั้วมีแท่นก่อไว้มีลายเป็นขาโต๊ะตั้งติดกัน
เข้าใจว่าจะเป็นที่สำหรับตั้งเครื่องบูชา หรือวางของ
รอบๆ ฐานพระปรางค์มี ‘ตุ๊กตาหินแบบจีน’ เป็นรูปสัตว์ต่างๆ
เช่น วัว ควาย ลิง สิงโต เป็นต้น กับ ‘รูปทหารจีน’ ตั้งไว้เป็นระยะๆ
และบริเวณลานที่ตรงกับพระมณฑปทิศ
มีราวเทียนและที่สำหรับปักธูปบูชาทั้ง ๔ พระมณฑป
องค์พระปรางค์ใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก
โปรดให้เปลี่ยนเพียงรูปกินนรกินรี และแจกันปักดอกไม้ตามช่องต่างๆ
เป็นซีเมนต์ครึ่งซีกติดกับผนังคูหาด้านใน แทนของเก่า
ซึ่งสลักด้วยหินเป็นตัวๆ ตั้งไว้ เพราะถ้าจะทำใหม่ให้เหมือนเก่า
จะต้องใช้เงินมาก ด้วยของเก่าเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ได้โปรดให้รื้อประตูเข้าพระปรางค์ใหญ่ออกหมดทั้ง ๙ ประตู
แล้วสร้างขึ้นใหม่เพียง ๕ ประตู เป็นประตูซุ้มแบบ วัดราชประดิษฐ์ฯ
ตุ๊กตาหินทหารจีนรอบๆ ฐานพระปรางค์องค์ใหญ่
ซุ้มเหนือบานประตูทางเข้าพระปรางค์ทั้งด้านนอกและด้านในเป็นลายปูนปั้นลงสี
ทำเป็น รูปพระราชลัญจกรประจำพระองค์ในรัชกาลที่ ๑ ถึง รัชกาลที่ ๕
ติดอยู่ตรงด้านนอกและด้านใน คือที่รั้วด้านตะวันออกหน้าพระปรางค์มี ๓ ประตู
ซุ้มเหนือบานประตูที่อยู่เหนือโบสถ์น้อยเป็น รูปครุฑจับนาค ประจำรัชกาลที่ ๒
ประตูกลางระหว่างโบสถ์น้อยและวิหารน้อยเป็น รูปพระเกี้ยว ประจำรัชกาลที่ ๕
และประตูข้างใต้พระวิหารน้อยเป็น รูปพระมงกุฎ ประจำรัชกาลที่ ๔
ส่วนที่รั้วทางด้านตะวันตกหลังพระปรางค์มี ๒ ประตู
ซุ้มเหนือบานประตูเหนือเก๋งจีนเป็น รูปอุณาโลมอยู่ในกลีบบัว ประจำรัชกาลที่ ๑
ประตูใต้เก๋งจีนเป็น รูปอุณาโลมอยู่ในปราสาท ประจำรัชกาลที่ ๓
องค์พระปรางค์ประดับด้วยกระเบื้องทำเป็นลวดลายต่างๆ สวยงามมาก
แต่ที่น่าทึ่งก็คือ การที่จะสร้างพระปรางค์องค์สูงใหญ่อยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ
และยังคงแข็งแรงมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ได้นี้
แสดงว่าฝีมือของช่างในสมัยนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ซุ้มเหนือบานประตูกลางระหว่างโบสถ์น้อยและวิหารน้อยเป็น ‘รูปพระเกี้ยว’
รูปพระราชลัญจกรประจำพระองค์ในรัชกาลที่ ๕
พระปรางค์ทิศ มีช่องรูปกินรีและกินนร และรูปมารกับกระบี่แบกสลับกัน
• พระปรางค์ทิศและพระมณฑปทิศ
พระปรางค์ใหญ่ ล้อมรอบด้วย พระปรางค์ทิศและพระมณฑปทิศ
พระปรางค์ทิศ เป็นพระปรางค์องค์เล็กๆ ตั้งอยู่บนมุมทักษิณชั้นล่าง
ของพระปรางค์องค์ใหญ่ มีอยู่ ๔ ทิศ ทิศละองค์ คือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้
พระปรางค์ทิศทั้ง ๔ องค์มีขนาดและรูปทรงเหมือนกัน กล่าวคือ
ตอนฐานของพระปรางค์ทิศแต่ละพระปรางค์มี ช่องรูปกินรีและกินนร
สลับกันโดยรอบ ที่เชิงบาตรเหนือช่องมี รูปมารกับกระบี่แบกสลับกัน
เหนือขึ้นไปเป็น ซุ้มคูหารูปพระพายทรงม้า และเหนือขึ้นไปอีก
บนยอดพระปรางค์ทิศมี รูปครุฑจับนาคและเทพพนม อยู่เหนือซุ้มคูหา
องค์พระปรางค์ทิศก่อด้วยอิฐถือปูน ประดับถ้วยกระเบื้องเคลือบสีลวดลายต่างๆ
แบบเดียวกับพระปรางค์องค์ใหญ่ และบนส่วนยอดสุดขององค์พระปรางค์ทิศ
เป็น ‘ยอดนภศูล’ ปิดทอง แต่ไม่มีมงกุฎปิดทองครอบอีกชั้นหนึ่ง
(มงกุฎปิดทองครอบยอดนภศูลจะมีเฉพาะพระปรางค์องค์ใหญ่เท่านั้น)
ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
พระองค์ไม่ได้ทรงมีการปฏิสังขรณ์และเปลี่ยนแปลงพระปรางค์ทิศแต่อย่างใด
ซุ้มคูหารูปพระพายทรงม้าของพระปรางค์ทิศ
ส่วน พระมณฑปทิศ มีอยู่ ๔ ทิศ คือทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก
และทิศตะวันตก ตั้งอยู่บนฐานทักษิณชั้นที่ ๒ ในระยะระหว่างพระปรางค์ทิศ
ภายในองค์พระมณฑปทิศประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ
แต่จะเป็นปางใดบ้างนั้น ไม่พบหลักฐาน เมื่อปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ ๕
ตามรายงานของ พระยาราชสงคราม (กร หงสกุล)
ชี้แจงว่า มีแต่ฐานพระพุทธรูป องค์พระพุทธรูปไม่มี
ตอนฐานของพระมณฑปทิศแต่ละพระมณฑปมี ช่องรูปกินรีและกินนร
และเหนือช่องมี รูปกุมภัณฑ์แบก ๒ พระมณฑป คือทิศเหนือกับทิศใต้
มี รูปคนธรรพ์แบก ๒ พระมณฑป คือทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
พระมณฑปก่อด้วยอิฐถือปูน ประดับกระเบื้องเคลือบสีลวดลายต่างๆ
แบบเดียวกับพระปรางค์องค์ใหญ่และพระปรางค์ทิศ
ในการปฏิสังขรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่เหลืออยู่ในพระวิหารคด
รอบพระปรางค์ของเก่าที่ถูกรื้อไปนั้น นำขึ้นไปประดิษฐานไว้ในมณฑปทิศ
ช่องรูปกินรี ที่ฐานของพระปรางค์ทิศ และพระมณฑปทิศ
ช่องรูปกินรีและกินนร ที่ฐานของพระปรางค์ทิศ และพระมณฑปทิศ
คือ พระมณฑปทิศเหนือ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประสูติ
ทำเป็นรูปพระนางสิริมหามายา พุทธมารดา ประทับยืนเหนี่ยวกิ่งไม้รัง
เบื้องพระพักตร์มีรูปพระมหาสัตว์หรือพระพุทธเจ้าแรกประสูติ
ประทับยืนอยู่เหนือดอกบัว ยกพระพาหาข้างขวาขึ้นเหนือพระเศียร
ชูนิ้วพระหัตถ์ขึ้น ๑ นิ้ว ประกาศว่าจะทรงเป็นมหาบุรุษผู้เลิศในโลกนี้
และมีรูปเทวดา ๒ องค์ ประคองพระแท่นที่ประทับยืน
พระพุทธรูปที่นำขึ้นไปประดิษฐานอยู่ในพระมณฑปทิศเหนือนี้
เป็นของทำขึ้นใหม่ทั้งหมด เพราะแต่เดิมไม่มี
พระมณฑปทิศตะวันออก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางตรัสรู้
มีพระพุทธรูปปางนาคปรกอยู่กลาง และพระพุทธรูปรูปางมารวิชัยอยู่สองข้าง
ประทับอยู่ใต้ร่มโพธิ์และร่มไทร
พระมณฑปทิศใต้ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางเทศนาพระธรรมจักร
มีพระปัญจวัคคีย์ ๕ องค์นั่งพนมมือฟังอยู่เฉพาะพระพักตร์
สำหรับพระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ นี้ เป็นของทำขึ้นใหม่
เพราะของเก่าแตกทำลายหมด และ
พระมณฑปทิศตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางเสด็จดับขันธปรินิพพาน
มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์อยู่เหนือแท่นพระบรรทมใต้ต้นรังทั้งคู่
และมีพระภิกษุสงฆ์พุทธสาวกอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ (ข้างหลัง)
สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นและงดงามของพระปรางค์องค์ใหญ่
บันไดทางขึ้นไปสู่พระปรางค์องค์ใหญ่ ส่วนทางขวามือเป็นพระมณฑปทิศ
พระมณฑปทิศ และพระปรางค์ใหญ่
พระมณฑปทิศ มีรูปคนธรรพ์แบก ๒ พระมณฑป
พระมณฑปทิศ ตั้งอยู่บนฐานทักษิณชั้นที่ ๒ ในระยะระหว่างพระปรางค์ทิศ
บันไดขึ้น-ลงพระปรางค์ใหญ่ และพระมณฑปทิศ
|
|
|
Update : 19/9/2554
|
|