หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สะเดาะเคราะห์

    สะเดาะเคราะห์

    นับแต่โบราณกาลมานักโหราศาสตร์มีความเชื่อว่าทุกชีวิตที่เกิดมา จะมีดวงชะตากำเนิดติดตัวมาพร้อมกันทันที ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับของนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากขาดการระมัดระวังในการพิสูจน์ และด่วนสรุปว่าเป็นเรื่องงมงาย ที่เป็นดังนี้เพราะนักวิทยาศาสตร์ รวมทั้งนักคณิตศาสตร์ ที่ร่วมกันพิสูจน์นั้น ไม่มีพื้นฐานความรู้ในการดูดวงตามหลักโหราศาสตร์ ที่อาศัยดวงดาวต่างๆ ที่โคจรอยู่บนท้องฟ้าเป็นหลักในการทำนายอย่างเพียงพอ เปรียบเสมือนการนำวิศวกรไปทำงานแทนหมอผ่าตัด ย่อมเป็นไปไม่ได้เนื่องจากความเข้าใจในสาขาวิชาแตกต่างกันมาก แม้แต่เรื่องของจิต เพื่อที่จะให้จิตใจสงบสุข มีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นักวิทยาศาสตร์ก็เพิ่งจะมีวิชาจิตวิทยามาไม่กี่ร้อยปี และพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาวพุทธทางตะวันออกรู้จักการฝึกจิต และหลักธรรมที่จะต้องนำไปใช้คู่กันกับการฝึกจิต

    เพื่อที่จะนำผู้ปฏิบัติไปสู่ความสงบสุขมานานกว่า 2500 ปี และในปัจจุบันชาวตะวันตก ก็กำลังดำเนินทางตามหลังชาวพุทธด้วยวิชาจิตวิทยา เช่นในทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ที่ศึกษาไปในอดีต วัยเด็ก การสะกดจิต และจิตใต้สำนึก ซึ่งบางครั้งมีการสะกดจิตย้อนหลังไปในอดีตชาติเป็นร้อยๆ ปี แต่ในทางพุทธศาสนาพระพุทธองค์ทรงใช้ ฌาณ เช่นอตีตังสญาณ ดูย้อนหลังอดีตของพระสาวกไปหลายร้อยชาติ จึงมีความแม่นยำกว่ามาก ในการสั่งสอนชี้แนะให้เดินออกจากความทุกข์ และชี้ทางเข้าสู่ความสงบสุขได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นหลักการที่เหมือนกันกับทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงพอสรุปได้ว่า การที่จะให้คนอื่นเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เหมือนอย่างที่เราเข้าใจนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ยิ่งเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนมากเท่าใด ยิ่งต้องใช้เวลานานในการพิสูจน์มากเป็นทวีคูณ เปรียบเสมือนการติดต่อกับคนต่างชาติต่างภาษา วิธีที่จะเข้าใจได้รวดเร็วก็ต้องมีล่ามแปลภาษา หรือใช้ Dictionary ในเรื่องที่เกี่ยวกับพลังจิตนี้ก็เช่นกัน มนุษย์ยังขาดเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จะใช้วัดพลังจิต มนุษย์มีหน่วยวัดพลังงาน เช่น ความร้อนเป็น Centigrade, อาหารเป็นแคลอรี่ ฯลฯ แต่มนุษย์ยังไม่มีหน่วยวัดพลังงานของจิต

    สรุปได้ว่าในโลกนี้ยังมีเรื่องที่เราไม่รู้ และไม่เข้าใจอีกมาก ที่ต้องการการพิสูจน์ ดังนั้นในการพิสูจน์จึงไม่ควรรีบด่วนหาข้อสรุป จะเกิดความผิดพลาด และเสียโอกาสที่ดีไป

    ในการสะเดาะเคราะห์ก็เช่นเดียวกัน นับตั้งแต่สมัยโบราณในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการเกี่ยวโยง กับจิต รวมทั้งเทพยดาและโลกแห่งวิญญาณ ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้เลยในทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการแก้ไขดวงชะตาในแบบที่ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับโลกแห่งวิญญาณ ซึ่งเป็นแนวทางสะเดาะเคราะห์อีกแนวทางหนึ่งในที่นี้จะขอกล่าวทั้ง 2 แนวทาง

    1. ในการสะเดาะเคราะห์ตามแนวทางของโหราศาสตร์ไทยนั้น วิธีการที่นิยมนับถือว่าได้ผลมากที่สุดคือ พิธีการสวดนพเคราะห์ เพื่อบูชาเทพยดาประจำดาวนพเคราะห์ ซึ่งในการทำพิธีต้องมีเครื่องเส้นสังเวยเทพยดา ครูบาอาจารย์ และขั้นตอนต่างๆ มาก จำเป็นที่จะต้องมีผู้รู้ คอยกำกับพิธีให้ จึงจะทำได้สำเร็จ อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการทำพิธีสูงมาก ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พิธีนี้จึงมีการทำกันในหมู่เจ้านายชั้นสูง หรือผู้ที่มีฐานะดีเท่านั้น และคนที่รู้วิธีการที่ถูกต้องก็มีเหลือเพียง 2- 3 คน เพราะตำราต่างๆ ที่เขียนไว้ก็ยังมีการปิดบังไว้ ไม่ได้เปิดเผยทั้งหมด

    2. ดอกคราด ดอกจันทร ์เกสรบุษบัน เปราะหอม กำยาน โกฐสอ โกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุมชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน สมแล้วตำบด พิมเสน ชมด น้ำผึ้งรวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้นผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกินเป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแดนดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะ สวัสดิโสภิน กว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทองจักพูนกูนกอง กว่าโลกหญิงชาย นำมาบูชาอภิวาท์บ่วาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตร์แม้นประจักษ์ ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นได้กิน ซึ่งยาวาสนา กลับน้อยถอยคลา เคลื่อนคลายหายเอยที่กล่าวมานี้เป็นตำราสำหรับปรุงยาจินดามหามณีโดยย่อ และสรรพคุณของยา ซึ่งหากใครได้กินยานี้แม้ดวงชะตามีเคราะหนักขนาดไหนก็ตาม ยาเพียง 1 เม็ดสามารถคุ้มภัยได้เจ็ดวัน แต่การจะทำยานั้นก็มีพิธีการ และขั้นตอนมาก รวมทั้งต้องมีพิธีพุทธาภิเษก เปรียบเสมือนกับการเติมพลังจิตลงไปในยาด้วย ซึ่งตำรายานี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ายาวาสนา และมีหลักฐานว่า ยานี้มีการปรุงมาตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จพระพันรัตน์วัดป่าแก้ว ผู้เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และในปัจจุบันก็ยังมี ผู้ประกอบยาสืบกันมา แต่ส่วนใหญ่ตัวยาจะหาได้ไม่ครบ เท่าที่ทราบปัจจุบันมีเพียง 2-3 คนที่เคร่งครัดในการปรุงยาให้ได้ครบตามตำราจริงๆ

    3. น้ำมนต์พระปริตร ต้องเป็นน้ำมนต์ที่พระเกจิอาจารย์ที่มีสมาธิจิตเข้มขลัง เป็นผู้สวดทำน้ำมนต์ให้ในพิธี จึงจะใช้ได้ผล โดยนำมาอาบ มาดื่ม

    4. การทำบุญใส่บาตรให้เทวดาประจำดาวนพเคราะห์แต่ละองค์ ซึ่งขึ้นอยู่กับดวงชะตาในขณะนั้นว่าพระเคราะห์ใดกำลังให้โทษในดวงชะตา ก็จะมีการทำบุญ เพื่อขอให้เทวดาประจำนพเคราะห์ที่กำลังให้โทษนั้น งดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดขึ้นกับดวงชะตาไว้ ซึ่งวิธีการนี้เป็นที่นิยมของชาวบ้านเพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ซึ่งโดยทั่วไปมี หลักการทำบุญตามกำลัง และลักษณะของเทวดาประจำดาวนพเคราะห์แต่ละดวง เช่น อาทิตย์ มีกำลัง 6, พระจันทร์ มีกำลัง 15, อังคาร 8, พุธ 17, พฤหัส 19, ศุกร์ 21, เสาร์ 10, ราหู 12 และมีวิธีการเมื่อพระเคราห์แต่ละดวงให้โทษดังนี้คือ

    • พระอาทิตย์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันอาทิตย์ 6 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 6 ดอก เทียน 6 เล่ม ดอกไม้สีแดง 6 ดอก อาหารรสเผ็ดร้อน ขนมสีแดง และให้ใส่ยาธาตุน้ำแดงด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาช่อนในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 6 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำพระอาทิตย์และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระจันทร์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันจันทร์15 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 15 ดอก เทียน 15 เล่ม ดอกไม้สีขาวหรือสีนวล 15 ดอก อาหารรสเค็ม ขนมสีขาวหรือสีนวล และให้ใส่ยาธาตุน้ำขาว ด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาช่อนในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 15 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทั่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำพระจันทร์และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระอังคาร ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันอังคาร 8 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 8 ดอก เทียน 8 เล่ม ดอกไม้สีแดงหรือสีชมพู 8 ดอก อาหารรสเผ็ด ขนมสีแดง และให้ใส่ยาแดงสำหรับใส่แผลสดลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 8 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวอังคาร และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระพุธ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันพุธ 17 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 17 ดอก เทียน 17 เล่ม ดอกไม้ที่มีสีผสมกันหลายสีในดอกเดียวกัน 17 ดอก อาหารมีหลายรสในชนิดเดียวกัน เปรี้ยว-เค็ม-หวาน-เผ็ด ขนมสีเขียว และให้ใส่ยาเขียวสำหรับแก้ไข หรือยาแก้ไอ้ลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาหมอไทยในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 17 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตร และทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวพุธ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระพฤหัส ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันพฤหัส 19 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 19 ดอก เทียน 19 เล่ม ดอกไม้สีเหลือง 19 ดอก อาหารรสจืด ขนมสีเหลือง และให้ใส่ยาหอม ลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาหมอไทย หรือปลาช่อนในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 19 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวพฤหัส และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระศุกร์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันศุกร์ 21 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 21 ดอก เทียน 21 เล่ม ดอกไม้สีขาวหรือสีฟ้า 21 ดอก อาหารรสหวาน ขนมสีขาวหรือสีฟ้า และให้ใส่ยาแก้ไอที่มีรสหวานลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาช่อน หรือปลาหมอไทยในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 21 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวศุกร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระเสาร์ ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันเสาร์ 10 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 10 ดอก เทียน 10 เล่ม ดอกไม้สีม่วงแดง 10 ดอก อาหารรสเปรี้ยว ขนมสีม่วงแดง หรือสีน้ำตาล และให้ใส่ยาถ่ายพยาธิ หรือยาที่ใช้รักษาแผลเน่าเปื่อยลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาไหล หรือปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 10 ตัว หากซื้อปลาไหลอย่าซื้อตัวใหญ่เพราะมักจะมีเบ็ดอยู่ในคอ ให้เลือกซื้อตัวเล็กๆ เท่านิ้วก้อย ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจำดาวเสาร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’
    • พระราหู ให้ทำบุญใส่บาตรพระในวันพุธ 12 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 12 ดอก เทียน 12 เล่ม ดอกไม้สีม่วงแดง 12 ดอก อาหารสีดำเช่นไข่พะโล้ เป็ดพะโล้ ขนมสีม่วง หรือสีดำ และให้ใส่ยาถ่ายพยาธิ หรือยาแก้เมาคลื่นลมลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาไหล หรือปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 10 ตัว หากซื้อปลาไหลอย่าซื้อตัวใหญ่เพราะมักจะมีเบ็ดอยู่ในคอ ให้เลือกซื้อตัวเล็กๆ เท่านิ้วก้อย ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทำการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ ‘ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทำบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ พระราหู และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญทำทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย’

    ในการใช้กำลังดาวเคราห์นั้นอาจประยุกต์ไปในแบบต่างๆ ตามความรุนแรงของเหตุการณ์ เช่น การบวชพระตามกำลังดาวเคราห์ เช่นพระอาทิตย์บวชพระ 6 รูป เสร็จแล้ว อุทิศส่วนกศุลให้เทวดาประจำดาวอาทิตย์ กับเจ้ากรรมนายเวร เพื่อขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วยเป็นต้น ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้กรณีหนักที่สุดของดวงชะตา ยิ่งลูกหลานหรือคนใกล้ชิดร่วมบวชให้ด้วยยิ่งดีจะได้ผลมากขึ้น

    ในบางทีก็ใช้สร้างพระประจำวันต่างๆ การหล่อพระ สร้างพระจากไม้ หิน ดิน หรือวัตถุต่างๆ ถวายวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลเช่นกัน

    ถ้าหากการให้โทษที่เกิดจากเสาร์ หรือราหู ที่เกิดขึ้นในราศีธาตุดิน หรือธาตุน้ำ วิธีป้องกันดวงชะตาอีกอย่างหนึ่งคือการสร้างส้วมถ่ายทุกข์ หรือสุขาถวายวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศล

    กรณีดวงเดิมมีเสาร์กุมลัคนาในราศีมีน เมื่อดาวพฤหัสเข้ามาทับ ยังมีวิธีอีกอย่างหนึ่งคือ การนำเศียรพระเก่าๆ ที่ถูกทำลายมาหล่อเป็นพระองค์พระขึ้นมาใหม่ถวายวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศล

    ยังมีการแก้ดวงชะตาด้วยวิธีการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงอำนาจของดาวเคราะห์ แต่วิธีนี้ต้องระวังเพราะหากเดินทางไปผิดทิศทาง แทนที่จป็นการแก้ไข กลับจะทำให้เหตุการณ์หนักรุนแรงยิ่งขึ้น ทางที่ดีต้องปรึกษานักโหราศาสตร์ อย่านึกคิดเอาเองเป็นอันขาด

    นอกจากนั้นก็ยังมีบทสวดมนต์พระปริตร โดยเฉพาะจันทรปริตร สุริยปริตร และบทสวดมนต์เพื่อบูชาเทวดาประจำดาวเคราห์ เพื่อคุ้มครองตนเองให้ปลอดภัยจากเจ้ากรรมนายเวร

    ส่วนวิธีการอื่นๆ ที่ใช้ในการแก้ดวงชะตา และสะเดาะเคราะห์ก็ใช้หลัก การป้องกันพร้อมกับความไม่ประมาท และหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่กำลังจะอุบัติขึ้น เช่น

    • หากรู้ว่ากำลังจะมีปากเสียง ระยะนั้นก็ให้หลีกเลี่ยง อย่าไปต่อว่าใคร การพูดจาในระยะนั้นก็ต้องระวังการใช้คำพูดให้ดี ใครชวนทะเลาะก็พยายามพูดจาดีๆ ด้วยความสุภาพและใจเย็น ค่อยๆ พูดผ่อนปรนปัญหาต่างๆ ลงมา
    • หากรู้ว่ากำลังจะมีอุบัติเหตุ การเดินทางต่างๆ ก็ต้องเพิ่มความรอบคอบ ระมัดระวังให้ มากยิ่งขึ้น ตรวจเช็คสภาพยานพาหนะให้ดีก่อนเดินทาง รวมทั้งศึกษาเส้นทางคมนาคมให้ดี เพื่อที่หากมีปัญหาเกิดขึ้นมาจะได้รู้ว่า ที่ไหนมีใครช่วยได้บ้าง ในเรื่องต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าประมาท เพราะหากประมาทแล้ว ความรุนแรงย่อมเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ ตรงกันข้ามหากท่านตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ความรุนแรงต่างๆ ย่อมลดลงมาก หรือไม่เกิดขึ้นเลย
    • หากรู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน ก็ต้องระมัดระวังรอบคอบในการใช้เงินตั้งแต่ปัญหาเรื่องการเงินยังไม่เกิดขึ้น มิใช่ว่าเกิดปัญหาแล้ว หรือเข้าไปในช่วงเวลาที่ทำนายแล้วจึงค่อยระวังการใช้เงิน เพราะที่ถูกต้องคือต้องเตรียมตัวเตรียมเงินสำรองจ่ายไว้ ให้พอ ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามปกติ รวมทั้งมีเงินเหลือเผื่อไว้ สำหรับแก้ปัญหาที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นมาด้วย อย่างน้อย 50 % ของรายจ่ายปกติประจำเดือน และหากคำทำนายช่วงเวลาที่จะเกิดความยุ่งยากด้านการเงินยิ่งยาวเท่าไร ยิ่งต้องเตรียมเงินไว้แก้ปัญหาให้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำนายจะสอนท่านเองว่า ควรจะเตรียมเงินไว้ขนาดไหน เพราะขนาดของปัญหาแต่ละคนมักไม่เท่ากัน และต่างก็มีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
    • หากรู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ก็ต้องใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพให้ดี ระมัดระวังในเรื่อง อาหารการกิน การนอนหลับพักผ่อน การออกกำลังกาย การรักษาอารมณ์ให้ปกติ ทำจิตใจให้แจ่มใส

    ซึ่งหลักการป้องกันพร้อมกับใช้ความไม่ประมาทนี้ สามารถนำไปดัดแปลงใช้ได้กับทุกเรื่อง หลักการนี้แท้จริงแล้วก็คือ คำสอนในศาสนาพุทธ ที่ให้ทุกคน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท กับกฎแห่งกรรม ที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว โดยยึดมั่นทำแต่ความดี หลีกเลี่ยงการทำความชั่วจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกลุ้มใจทีหลังนั่นเอง ไม่ใช่ว่าในเวลาที่ดวงดี จะทำชั่วอย่างไรก็ได้ และในเวลาที่ดวงไม่ดีแล้วค่อยมาแก้ดวงชะตานั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะไม่มีใครสามารถหนีกฎแห่งกรรมไปได้ ถึงมีเงินเท่าไร อำนาจวาสนามากแค่ไหนก็หนีไม่พ้น เพราะดวงชะตาบอกเพียงจังหวะเวลาดีหรือไม่ดี ในเรื่องต่างๆ เท่านั้น ซึ่งผลจากการกระทำของท่าน ตัวท่านเองต้องเป็นผู้รับ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การแก้ไขดวงชะตาที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงการบรรเทา หรือเลื่อนเวลาออกไปเท่านั้น ซึ่งหากท่านไม่สร้างกรรมดีด้วยตัวของท่านเองเพื่อการแก้ไข กรรมชั่วนั้นย่อมมาถึงไม่ช้าก็เร็ว ขึ้นอยู่กับขนาดของกรรมชั่วคือ กรรมชั่วมากก็มาถึงเร็ว กรรมชั่วน้อยก็มาถึงช้าหน่อยหรือไม่รุนแรงนัก หากท่านเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกให้มีสติ และสมาธิดี พร้อมกับสามารถดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาทตลอดเวลาแล้ว การดูดวงก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับท่าน แต่โดยธรรมชาติของบุคคลทั่วไปส่วนใหญ่แล้ว ย่อมไม่สามารถที่จะทำได้ ดังนั้นการดูดวง ตามหลักวิชาโหราศาสตร์นี้ จึงมีประโยชน์เพราะสามารถล่วงรู้ช่วงเวลาที่ควรจะเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ช่วยลดปัญหาต่างๆ ลง และยังรู้ช่วงเวลาที่จะสร้างความสำเร็จให้ในชีวิตนั่นเอง


    • Update : 14/9/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch