|
สำหรับการเลี้ยงกุ้งฝอย ควรเป็นบ่อขนาด 1 งาน หรือประมาณ 0.5 ไร่ ถ้าขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้ดูแลได้ไม่ทั่วถึง ความลึกของบ่อประมาณ 1.5 เมตร เติมน้ำสูง ประมาณ 1 เมตร
แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือ การป้องกันศัตรู ดังนั้น บริเวณบ่อต้องให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของ กบ เขียด งู ที่จะมาลงกินกุ้งฝอยในบ่อเลี้ยง นอกจากนี้ ในบ่อเลี้ยงต้องมีการกำจัดปลาที่เป็นศัตรูอย่าง ปลาช่อน ปลาดุกด้วย
"พวกนี้จัดเป็นศัตรูของกุ้งฝอยมาก สำคัญ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการหาทางป้องกันไว้ โดยที่ปฏิบัติอยู่เราจะล้อมรอบบ่อเลี้ยงด้วยไนลอนเขียวตาถี่ ๆ ด้วย และในการป้องกันกำจัดศัตรูที่อยู่ในน้ำเราจะใช้พวกกากชา หางไหล ใส่ทิ้งไว้ 3 -5 วัน"
|
|
ในการเตรียมบ่อเลี้ยง
ให้เริ่มจากหว่านปุ๋ยคอกจำนวน 150-200 กิโลกรัม หว่านรำละเอียด 30 กิโลกรัม แล้วใส่น้ำสูง 30-50 เซนติเมตร เมื่อเกิดไรแดงและโรติเฟอร์จำนวนมาก สีน้ำเริ่มเขียวให้นำพ่อแม่พันธุ์กุ้งฝอยใส่ลงไปจำนวน 4-5 กิโลกรัม
สำหรับพ่อแม่พันธุ์กุ้งฝอยที่นำมาใส่บ่อเลี้ยง ควรคัดที่มีขนาดใหญ่ และขนาดใกล้เคียงกัน โดยสามารถคัดได้ทุกฤดูกาล ยิ่งในช่วงฤดูร้อนยิ่งดีมาก กุ้งฝอยจะขยายพันธุ์ได้เร็วในช่วงฤดูฝน
"กุ้งฝอยจะผสมพันธุ์ภายใน โดยเพศเมียจะมีไข่ขนาดเล็ก ๆ อยู่ในหัวและเมื่อได้รับการผสมแล้ว จะเคลื่อนที่มาอยู่บริเวณท้อง จนกว่าไข่จะแก่ เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้าไข่สีเขียวเข้มจนเป็นสีเทาแสดงว่าไข่แก่ เมื่อน้ำมีสภาพดี โดยเฉพาะถ้าเป็นน้ำขุ่นจะเจริญเติบโตดีมากกว่าน้ำใส ซึ่งในกรณีของน้ำที่ใช้เลี้ยงนี้ กำลังอยู่ระหว่างช่วงการศึกษาเกี่ยวกับความขุ่นของน้ำที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของกุ้งฝอยว่า ควรเป็นเท่าใด และกุ้งฝอยจะชอบน้ำมีสีเขียวที่มีแพลงก์ตอนพืชและไรแดง จะชอบมากและวางไข่ ลูกกุ้งจะลอยน้ำในแนวดิ่ง"
|
|
อาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งฝอย
ใช้รำละเอียดและปลาป่น อัตรา 3 ต่อ 1 โดยจากการศึกษาในตู้เพาะเลี้ยงพบว่า สามารถให้ผลผลิตกุ้งฝอยได้ดี และมีปริมาณผลผลิตมาก รวมทั้งมีการใส่ปุ๋ยคอกเสริมบ้างเพื่อสร้างน้ำเขียว
สำหรับระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงกุ้งฝอยนั้น จากการศึกษาพบว่า การเลี้ยงกุ้งฝอย หากสามารถปล่อยพ่อแม่พันธุ์ได้ทุกเดือนที่พบว่ากุ้งฝอยมีไข่แก่ บริเวณช่องท้องและเมื่อกุ้งวางไข่แล้ว จะผสมพันธุ์ได้ต่อไป เมื่อลูกกุ้งเล็ก ๆ เลี้ยง 3-4 เดือน จะได้ลูกกุ้งโตเต็มวัยสามารถช้อนขายได้ หรือจะช้อนขายเมื่อเห็นว่ากุ้งในบ่อเลี้ยงมีจำนวนมาก เพราะหากกุ้งมีจำนวนมากเกินไปจะทำให้กุ้งไม่โตและกินกันเองระหว่างการลอกคราบ
นอกจากนี้ ระหว่างการเลี้ยงอาจมีการเพิ่มน้ำหากพบว่า น้ำในบ่อมีปริมาณลดลงไป หากน้ำมีจำนวนน้อยหรือตื้นเขินกุ้งจะโตช้าและอ่อนแอ
|
|
วิธีการจับกุ้งฝอยที่เลี้ยงไว้ในบ่อ
หนึ่ง ใช้ยอตาถี่ยก โดยการใส่อาหารลงไปในยอเพื่อล่อให้กุ้งมากินอาหาร ประมาณ 10 นาที ยกขึ้น ปริมาณกุ้งจะติดมาในยอมาก โดยขึ้นอยู่กับขนาดของยอด้วย
สอง ใช้สวิงช้อนรอบ ๆ บ่อ วิธีการนี้ควรทำในช่วงเย็น ๆ จะดี เนื่องจากตอนเช้านั้น ปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำ จะทำให้กุ้งที่อยู่ภายในบ่ออ่อนแอลงไป เนื่องจากตกใจหรือเครียดในระหว่างการรวบรวม
สาม การจับกุ้งนั้นเมื่อจำเป็นต้องวิดน้ำให้บ่อแห้ง ต้องมีการใช้อวนลากก่อน (อวนต้องมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพราะหากขนาดใหญ่ กุ้งจะบอบช้ำมากและตายภายในเวลาอันรวดเร็ว) จนเหลือกุ้งจำนวนน้อยแล้วค่อยวิดน้ำให้แห้ง หากวิดน้ำครั้งเดียวเลยจะทำให้กุ้งตายหมดและจำหน่ายได้ในราคาต่ำ
|
|
ตลาดของกุ้งฝอย
กุ้งฝอยสามารถจำหน่ายได้ดีในปัจจุบัน ซึ่งนิยมบริโภคกุ้งฝอยกันมาก โดยซื้อไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น พล่า แกงเลียง ทอดมัน ทอดใส่ไข่ เป็นต้น โดยกุ้งฝอยจะมีรสชาติอร่อย
"นอกจากนี้ ยังมีการนำกุ้งฝอยเป็น ๆ ไปใส่ในตู้ปลาตามร้านอาหารหรือภัตตาคาร เพื่อจำหน่ายสด ๆ อันเป็นที่นิยมของลูกค้ามากในปัจจุบัน แต่หากเห็นว่าปริมาณกุ้งฝอยจากการเพาะเลี้ยงมีปริมาณมากเกินไป ก็สามารถนำมาแปรรูปได้ โดยทำเป็นกุ้งจ่อม (กุ้งหมัก) ซึ่งจำหน่ายได้ราคาดีมาก ดังนั้น จะเห็นว่าการเลี้ยงกุ้งฝอยจะจำหน่ายได้ตลอดเวลาและราคากุ้งฝอยจะสูงมากในช่วงฤดูหนาว"
|