การกรีดยางเพื่อให้สะดวกต่อการกรีด และยังคงรักษาความสะอาดของถ้วยรองรับน้ำยางนั้นควรคำนึงถึงระดับความเอียงของรอยกรีดและความคมของมีดที่ใช้กรีดซึ่งต้องคมอยู่เสมอเวลากรีดยาง ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกรีดยางมากที่สุดคือ ช่วง 6.00-8.00 น.
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สามารถมองเห็นต้นยางได้อย่างชัดเจนและได้ปริมาณน้ำยางใกล้เคียงกับการกรีดยางในตอนเช้ามืด แต่การกรีดยางในช่วงเวลา 1.00-4.00 น. จะให้ปริมาณยางมากกว่าการกรีดยางในตอนเช้าอยู่ร้อยละ 4-5 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้ปริมาณน้ำยางมากที่สุดด้วย แต่การกรีดยางในตอนเช้ามืดมีข้อเสีย คือ ง่ายต่อการกรีดบาดเยื่อเจริญส่งผลให้เกิดโรคหน้ายางทั้งยังเป็นการสิ้นเปลืองและไม่มีความปลอดภัยจากสัตว์ร้ายหรือโจรผู้ร้าย
การหยุดพักกรีด ในฤดูแล้ง ใบไม้ผลัดใบหรือฤดูที่มีการผลิใบใหม่ จะหยุดพักการกรีดยางเนื่องจากมีผลต่อการเจริญเติบโตของใบและต้นยาง การกรีดยางในขณะที่ต้นยางเปียก จะทำให้เกิดโรคเส้นดำหรือเปลือกเน่าได้การเพิ่มจำนวนกรีด สามารถเพิ่มจำนวนวันกรีดได้โดย การเพิ่มวันกรีด สามารถกรีดในช่วงผลัดใบแต่จะได้น้ำยางในปริมาณน้อย ไม่ควรเร่งน้ำยางโดยใช้สารเคมีควรกรีดเท่าที่จำเป็นและในช่วงฤดูผลิใบต้องไม่มีการกรีดอีก
การกรีดยางชดเชย วันกรีดที่เสียไปในฤดูฝนสามารถกรีดทดแทนได้แต่ไม่ควรเกินกว่า 2 วันในรอยกรีดแปลงเดิม และสามารถกรีดสายในช่วงเวลา 6.00-8.00 น. หากเกิดฝนตกทั้งคืนการกรีดสาย เมื่อต้นยางเปียกหรือเกิดฝนตกสามารถกรีดหลังเวลาปกติโดยการกรีดสายซึ่งจะกรีดในช่วงเช้าหรือเย็นแต่ในช่วงอากาศร้อนจัดไม่ควรทำการกรีด
อย่างไรก็ตามล่าสุด นายรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริการเกษตร แจ้งเตือนเกษตรกรชาวสวนยางพาราในการกรีดยางในช่วงหน้าฝนว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปี จะเป็นช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม-กันยายน จะมีปริมาณฝนตกมาก ทำให้สวนยางมีความชื้นสูง อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหน้ายาง ในต้นยางที่เปิดกรีดแล้วได้ ดังนั้นเกษตรกรชาวสวนยางจึงควรตระหนักในการดูแลรักษาสวนยางที่เปิดกรีดแล้วในช่วงที่ฝนตกชุกมากกว่าในช่วงฤดูกาลอื่นๆ
อธิบดีกรมส่งเสริการเกษตร ได้ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่กรีดยางพาราในช่วงหน้าฝนด้วยว่า ไม่ควรกรีดยางในวันที่มีฝนตก เพราะจะทำให้น้ำยางที่ได้เสียหายเพราะน้ำฝนอาจจะตกลงไปผสมกับน้ำยางได้ และเป็นที่มาของโรคที่เกิดกับหน้ากรีดของต้นยางในช่วงหน้าฝน ซึ่งมีหลายโรคที่สำคัญๆ ได้แก่ โรคเส้นดำ และโรคเปลือกเน่า
“การกรีดยางในช่วงฤดูฝน ไม่ควรกรีดหักโหม ควรกรีดครึ่งต้น วันเว้นวัน และเกษตรกรควรใช้ยาเมตาแลคซิลทาหน้ากรีดทุกครั้งหลังกรีดยาง เพื่อป้องกันโรคจากเชื้อรา ดูแลรักษาสวนยางให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น ในกรณีสวนยางไม่ได้รับการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เกษตรกรชาวสวนยางควรใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมตามอายุและลักษณะของดินของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ควรกำจัดวัชพืชทุกครั้งก่อนการใส่ปุ๋ย เพื่อให้ต้นยางได้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ต้นยางแข็งแรงสามารถต้านทานโรคที่จะเกิดจากหน้ายางกรีดได้ ช่วยให้กรีดได้นานหลายปี และมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ” นายรรถ อินทลักษณ์ กล่าว.