หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    การปลูกผักกาด หอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce)
    ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lactuca sativa L. ลักษณะทั่วไป ผักกาดหอม บัตเตอร์เฮด ใบมีลักษณะอ่อนนุ่มเป็นมัน เรียงซ้อมกันแน่นคล้ายดอกกุหลาบ และห่อหัวแบบหลวมๆ
    สภาพ แวดล้อมที่เหมาะสม

    ผักกาดหอม บัตเตอร์เฮดอุณหภูมิ ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด เป็นพืชที่ต้องการสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10-24′C ในสภาพอุณหภูมิสูง การเจริญเติบโตทางในจะลดลง และพืชสร้างสารคล้ายน้ำนม หรือยางมาก เส้นใยสูง เหนียว และมีรสขม

    ดิน ที่เหมาะสมต่อการปลูกควรร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรีย์วัตถุสูง หน้าดินลึก และอุ้มน้ำได้ดีปานกลาง สภาพความเป็น กรด-ด่าง ของดินอยู่ระหว่าง 6-6.5 พื้นที่ปลูกควรโล่ง และได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ เนื่องจากใบผักกาดหอมมีลักษณะบาง ไม่ทน ต่อฝน ดังนั้นในช่วงฤดูฝนควรปลูกใต้โรงเรือน
    การ ใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร

    ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด เป็นพืชผักที่นิยมบริโภคสด โดยเฉพาะในสลัด รับประทานเป็นเครื่องเคียงน้ำพริกต่างๆ ห่อเมี่ยงคำ เนื้อย่าง และยำต่างๆ หรือนำมตกแต่งในจานอาหาร

    ผักกาดหบัตเตอร์เฮด มีน้ำ เป็นองค์ประกอบหลัก และมีวิตามินซีสูง นอกจากนี้ยังให้ฮีโมโกลบิน (hemoglobin) ช่วยป้องกันโรค โลหิตจาง บรรเทาอาการท้องผูก เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
    การ ปฏิบัติดูแลรักษาผักกาดหอมบัตเตอร์เฮดในระยะต่างๆของการเจริญเติบโต

    การเต รียมดิน ขุดดินตากแดด และโรยปูนขาว หรือโดโลไมท์ อัตรา 0-100 กรัม/ตร.ม. ทิ้งไว้ 14 วัน ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลง กว้าง 1 ม. ใส่ปุ๋ย 12-24-12 และ 15-0-0 อัตรา 50 กก./ไร่(รองพื้นที่) ปุ๋ยคอกอัตรา 2-4 ตัน/ไร่

    การเต รียมกล้า เพาะกล้าในถาดหลุมแบบประณีต ดินเพาะควรมีระบบน้ำดี อายุกล้าประมาณ 3-4 อาทิตย์
    ข้อควรระวัง

       1. อย่าปลูกในหลุมใหญ่หรือลึก เพราะน้ำอาจขังหากการระบายน้ำไม่ดี อาจทำให้เน่าเสียหาย
       2. อย่าเหยียบหลังแปลงเพาะ จะทำให้ดินแน่น พืชเติบโตได้ไม่ดี
       3. กล้าควรแข็งแรง อายุไม่เกิน 30 วัน เมื่อย้ายปลูก
       4. ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ตามคำแนะนำ
       5. ก่อนใส่ปูนขาว หรือโดโลไมท์ต้องวัด pH ก่อนช่วงเตรียมดิน
       6. หลังย้ายกล้าในฤดูฝนให้ระวังหนอนกระทู้ดำ และจิ้งหรีด

    การ ให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอต่ดการเจริญเติบโต การให้น้ำไม่ควรมากเกินไป อาจทำให้เกิดโคนเน่า

    การ ใส่ปุ๋ย หลังปลูก 7 วัน ใส่ปุ๋ย 46-0-0 หรือผสม 15-15-15 อัตรา 50 กก./ไร่ อย่างละครึ่ง พร้อมกำจัดวัชพืช หลังปลูก 20-25 วัน ใส่ปุ๋ย 13-13-21 พร้อมกำจัดวัชพืช ขุดร่องลึก 2-3 ซม. รัศมีจากต้น 10 ซม. โรยปุ๋ย 1/2 ช้อนโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำ
    ข้อควรระวัง

       1. ควรฉีดพ่น แคลเซียม และโบรอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันอาการปลายใบไหม้(Tipburn) บางพื้นที่มีปัญหาขาดธาตุรอง
       2. การพรวนดิน ระวังอย่ากระทบทระเทือนราก หรือต้นเพราะจะมีผล ต่อการเข้าปลีที่ไม่สมบูรณ์
       3. ควรเตรียมแปลงปลูกโดยใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักปริมาณที่มาก
       4. ไม่ควรปลูกซ้ำที่

    การ เก็บเกี่ยว เมื่อมีอายุ ได้ประมาณ 40-60 วัน หลังย้ายปลูก ใช้มีดตัดและเหลือใบนอก 3 ใบ เพื่อป้องกันความเสียหายในการขนส่ง หลีกเลี่ยงการเก็บเกี่ยวตอนเปียกน้ำ ควรเก็บเกี่ยวตอนบ่าย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเข้าสู่หัว อย่าล้างผัก บรรจุลงลังพลาสติก
    ข้อควรระวัง

       1. ในฤดูฝนเก็บเกี่ยว ก่อนผักโตเต็มที่ 2-3 วัน เพราะ เน่าง่าย
       2. เก็บซากต้นนำไปเผาหรือฝังลึกประมาณ 1 ฟุต ป้องกันการระบาดและสะสมโรคในแปลงปลูก

    โรค และแมลงศัตรูที่สำคัญของผักกาดหอมบัตเตอร์เฮดในระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโต

    ระยะ กล้า 20-25 วัน โรคกล้าเน่า, โรครากปม,
    ระยะย้ายปลูก-ตั้งตัว 25-30 วัน โรคใบจุด, โรครากปม,
    ระยะห่อห้ว 30-35 วัน โรคใบจุด, โรคหัวเน่า, โรครากปม,
    ระยะเก็บเกี่ยว 50-55 วัน โรคใบจุด, โรคหัวเน่า, โรครากปม

    • Update : 16/8/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch