หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    การเลี้ยงห่าน-1

    ห่านเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายไม่ค่อยเป็นโรค ทนต่อสภาพแห้แล้งและไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างไร จึงเหมาะอย่างยิ่งต่อสภาพโดยทั่วไปของประชาชนในต่างจังหวัดที่จะนำมาเลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหารประเภทโปรตีน อีกทั้งการเลี้ยงดูก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากหรือซับซ้อน และที่สำคัญ คือ ใช้เงินลงทุนต่ำมาก วิธีการเลี้ยงอาจจะใช้เลี้ยงแบบขังเล้า หรือปล่อยเลี้ยงตามใต้ถุนบ้านหรือท้องนา ปล่อยให้เล็มหญ้าหรือวัชพืชอื่น ๆ และมีอาหารข้น ซึ่งประกอบด้วย รำ ปลายข้าว ข้าวเปลือก เสริมให้กินบ้างเท่านั้นก็เป็นการเพียงพอแล้ว
              กล่าวโดยทั่วไปแล้วการเลี้ยงห่านยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ทั้งนี้เพราะปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อถือในการบริโภคเนื้อห่านว่าเป็นอาหารแสลง อย่างเช่น ผู้ชายที่บริโภคเนื้อห่านแล้วจะเป็นโรคเรื้อน หรือ ผู้หญิงหากบริโภคเนื้อห่านแล้วจะเป็นโรคผิวกระบูด หรือพิษแม่ลูกอ่อน ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น โรคดังกล่าวหากเกิดขึ้นจะต้องมีตัวของเชื้อโรคนั้นเป็นสาเหตุจึงจะเกิดขึ้น หาใช่เป็นเพราะเนื้อห่าน มีบางรายเมื่อบริโภคเนื้อห่านแล้ว จะมีอาการแพ้บ้าง ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นก็มีน้อยมาก เช่นเดียวกับคนบางคนที่แพ้ไข่ เนื้อ เนื้อหมู ไก่ กุ้ง หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ
               ในปัจจุบันปัญหารการขาดแคลนโปรตีนและพลังงานของประชาชนทั่ว ๆ ไปซึ่งจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ มีผลเสียอย่างยิ่งต่อสมอง อันจะเป็นผลกระทบกระเทือนต่อการพัฒนาประเทศ สัตว์เลี้ยงที่จะช่วยเสริมแหล่งโปรตีนราคาถูกให้ประชาชนโดยทั่วไปไม่ว่าในชนบทหรือในตัวเมืองอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากไก่พื้นเมือง ไก่งวง เป็ดเทศ ก็คือ
    ห่าน

    1. เลี้ยงง่าย เจริญเติบโตเร็ว เมื่อลูกห่านมีอายุ 10 วันขึ้นไป เปอร์เซ็นต์การเลี้ยงรอดประมาณ 80% การตายมักจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรก อาจจะเนื่องมาจากอ่อนแอหรือถูกแม่ทับ ใช้เวลาเลี้ยงส่งตลาดสั้น อายุประมาณ 15 สัปดาห์ ก็ใช้ฆ่าบริโภคได้
              2. การลงทุนต่ำ เนื่องจากห่านสามารถเจริญเติบโตได้ดีโดยอาศัยหญ้าอย่างเดียว ยกเว้นในช่วงแรกเกิดเท่านั้นที่ต้องการจัดหาอาหารผสมให้ลูกห่านกินด้วย
              3. เลี้ยงได้ในท้องที่ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ดอน ที่ลุ่ม แม้แต่ในบริเวณบ้านก็ใช้เลี้ยงห่านได้ ขอแต่ให้มีที่กันแดดกันฝนก็เพียงพอแล้ว
              4. ช่วยทำให้พื้นที่สะอาด ห่านสามารถกินหญ้าหรือวัชพืชต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงช่วยให้บริเวณที่เลี้ยงสะอาด
              5. มูลห่านสามารถใช้เป็นปุ๋ยสำหรับใส่ต้นไม้และพืชผักได้
              6. ไม่สกปรกและไม่มีกลิ่เหม็น
              7. ช่วยเฝ้าบ้านและป้องกันสัตว์ร้ายในบริเวณบ้าน เช่น แมลงป่อง ตะขาบ และ งู เป็นต้น

    คุณค่าทางอาหารของเนื้อห่าน

              เนื้อห่านก็เหมือนกับเนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วย น้ำ โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ ไวตามิน และคาร์โบไฮเดรทอีเล็กน้อย ส่วนประกอบเหล่านี้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับพันธุ์ อายุ และสภาพการเลี้ยงดูเนื้อของห่านเมื่อยังเล็กจะมีน้ำมากและมีไขมันต่ำ แต่ก็ยังมีไขมันมากกว่าเนื้อของไก่ คุณสมบัติที่ดีเด่นของเนื้อสัตว์ปีกอยู่ที่คุณค่าอาหารและร่างการมนุษย์สมารถที่จะย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ เนื้อห่านมีโปรตีนพอ ๆ กับเนื้อไก่ โดยเฉพาะเนื้อห่านที่ไม่ได้ขุนจะมีโปรตีนมากกว่าเนื้อไก่และเนื้อห่านอ่อน เนื้อห่านขุนจะมี ไขมันมากกว่าเนื้อไก่ และให้ปริมาณพลังงานมากกว่าเนื้อไก่

     พันธุ์ห่านที่นิยมเลี้ยงกันมาก ได่แก่ พันธุ์จีน(Chinese) ทั้งสีขาวและสีเทา พันธุ์เอ็มเด็น (Embden) พันธุ์โทรเลาซ์(Toulouse) พันธุ์พิลกริม(Pilgrim) พันธุ์อาฟริกัน(African) และพันธุ์อิยิปต์เซียน(Egyptian)
              นอกจากห่านดังกล่าวแล้ว ยังมีการผสมข้ามพันธุ์เพื่อผลิตห่านลูกผสมสำหรับการค้าโดยเฉพาะ
    พันธุ์จีน   มีอยู่ 2 ชนิดที่เป็นที่นิยม คือ พันธุ์จีนขาว และพันธุ์จีนเทา รูปร่างเล็กกว่าพันธุ์อื่น ๆ มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักปานกลางซึ่งเหมาะสำหรับส่งขายตลาด น้ำหนักเมื่อเป็นหนุ่มสาว ตัวผู้จะหนักประมาณ 4.5 กก. ตัวเมียจะหนักประมาณ 3.6 กก. ส่วนน้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้ หนักประมาณ 5.5 กก. และตัวเมียหนักประมาณ 4.5 กก. เมื่อเทียบกับพันธุ์อื่น ๆ แล้ว ห่านพันธุ์จีนให้ไข่เมื่ออายุน้อย และให้ไข่ดี โดยเฉลี่ยประมาณตัวละ 30 - 50 ฟองต่อปี ซึ่งเคยมีรายงานการให้ไข่สูงสุดปีละ 132 ฟอง และน้ำหนักไข่ เฉลี่ยฟองละ 150 กรัม
    พันธุ์เอ็มเด็น   มีแหล่งกำเนิดจากประเทศเยอรมันนี ขนมีสีขาวบริสุทธิ์ตลอดตัว มีลักษณะค่อนข้างสวยงามแต่ขนบางเบา จึงมองเห็นตั้งชี้ตรงขึ้นไป มีลัษณะลำตัวตรง ค่อนข้างใหญ่ มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว สามารถทำน้ำหนักตัวได้เต็มที่ในระยะเวลาอันสั้น เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายเนื้อ น้ำหนักตัวเมื่อเป็นหนุ่มสาว ตัวผู้หนักประมาณ 9.1 กก. ตัวเมียหนักประมาณ 7.3 กก. เมื่อโตเต็มที่ตัวผู้หนักประมาณ 11.8 กก. และตัวเมียหนักประมาณ 9.1 กก. ให้ไข่ได้ดีพอประมาณ โดยเฉลี่ยประมาณตัวละ 30 - 40 ฟองต่อปี
    พันธุ์โทเลาซ์   มีแหล่งกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศษ ทางตอนใต้ตามชื่อเมืองโทเลาซ์ ลักษณะของห่านประเภทนี้คืออ้วนล่ำ ลำตัวกว้างมีขนไม่หนา ตรงกลางหลังมีขนสีเทาเข้ม ซึ่งจะค่อย ๆ จางลงมาเรื่อย ๆ ตรงอกและท้องมีแถบเป็นขอบสีขาว ตาสีน้ำตาลแก่หรือน้ำตาลแดง ปากสีส้มอ่อน ๆ แข้งและข้อเท้ามีสีส้มปนแดง ส่วนขาตอนล่างและเล็บเท้ามีสีแดงเข้ม น้ำหนักตัวเมื่อเป็นหนุ่มสาว ตัวผู้หนักประมาณ 9.1 กก. ตัวเมียหนักประมาณ 7.3 กก. เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 11.8 กก. และตัวเมียหนักประมาณ 9.1 กก. ซึ่งเมื่อเทียบกับพันธุ์เอ็มเเด็นแล้วจะมีขนาดเท่า ๆ กัน การให้ไข่เฉลี่ยประมาณตัวละ 34 ฟองต่อปี
    พันธุ์พิลกริม  ห่านพันธุ์นี้มีขนสีแตกต่างกันระหว่างตัวผู้กับตัวเมียเมื่ออายุ 1 วัน ตัวผู้จะมีสีครามจาง ๆ ไปทางขาว ส่วนตัวเมียสีเทา พอโตขึ้นตัวผู้จะมีสีขาวตลอดร่าง แต่ตัวเมียมีสีเทาปนขาว ลักษณะรูปร่างอยู่ในขนาดกลาง ๆ น้ำหนักตัวเมื่อเป็นหนุ่มสาว ตัวผู้หนักประมาณ 5.5 กก. ตัวเมียหนักประมาณ 4.5 กก. เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 6.5 กก. และตัวเมียหนักประมาณ 5.9 กก. การให้ไข่อยู่ในเกณฑ์ต่ำเฉลี่ยประมาณตัวละ 29 - 39 ฟองต่อปี
    พันธุ์อาฟริกัน  เป็นห่านรูปร่างสวยงาม มีก้อนตุ่มขนาดโตสีดำเห็นได้ชัดเจนบนหัว ลักษณะลำตัวยาวรี หัวสีน้ำตาลอ่อน จงอยปากเป็นสีดำ ขนบริเวณปีกและหลังสีเทาอ่อนปนน้ำตาล ขนตรงคอ อกสีเดียวกันแต่อ่อนกว่าเล็กน้อย ขนใต้ลำตัวมีสีอ่อนกว่าขนตรงอกจนเกือบเป็นสีขาว แข้ง และเท้าสีส้มเข้ม น้ำหนักตัวเมื่อเป็นหนุ่มสาว ตัวผู้หนัก7.3 กก. ตัวเมียหนัก6.4 กก. เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 9.1 กก. และตัวเมียหนักประมาณ 8.2 กก.
    พันธุ์แคนาดา  เป็นห่านป่าที่มีถิ่นฐานอยู่ทางอเมริกาเหนือ ขนาดค่อนข้างเล็ก ลำตัวค่อนข้างยาว หัวมีสีดำ มีคาดสีเทาหรือขาวบนหน้าทั้งสองข้าง คอสีดำ หลังสีดำปนเทา ขนปีกมีสีดำขลิบเทาอ่อน และมีขนาดยาวใหญ่ เจริญเติบโตช้าและให้ไข่น้อยมาก น้ำหนักตัวเมื่อเป็นหนุ่มสาว ตัวผู้หนักประมาณ 4.5 กก. ตัวเมียหนักประมาณ 3.6 กก. เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 5.5 กก. และตัวเมียหนักประมาณ 4.5 กก.
    พันธุ์อิยิปต์เชี่ยน เป็นห่านขนาดเล็ก ลำตัวค่อนข้างยาว เล็กและเรียว จงอยปากสีม่วงอมแดง หัวสีดำปนเทามีจุดสีน้ำตาลอมแดงรอบ ๆ ตา ลำตัวส่วนบนมีสีเทาปนดำ ส่วนล่างสีเหลืองเป็นลาย ๆ สลับริ้วสีดำ แข้งและเท้าสีเหลืองออกแดง

    • Update : 1/8/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch