หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พุทธทำนายฉบับล้านนา-พิบัติทำนายฉบับลาว
    จากคัมภีร์ใบลานเรื่อง "หมากน้ำเต้าจมหมากหินฟู" ของวัดป่าสักน้อย ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้จารชื่อ "อภิชัย ยาตันคหัสถ์" ผู้สร้างชื่อ "นายน้อยตัน" จารไว้เมื่อ พ.ศ.2492

     


    มีใจความว่า ครั้งที่พระพุทธเจ้าประทับที่เชตวันวนาราม ทรงปรารภถึงการดำรงอยู่นานหรือไม่นานของพระศาสนา โดยทรงปรารภเหตุที่เทวดาทั้งหลายได้กราบทูลถาม ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสเทศนาตอบ โดยที่ในมัชฌิมยามคืนหนึ่ง เหล่าเทพเข้าไปสู่ธัมมสภาคศาลาเป็นจำนวนมากเพื่อฟังธัมมกถาในสำนักของพระพุทธองค์ยามเที่ยงคืนทั้งนี้ มีเทวดาชื่อ "ปัณณเทพ" เป็นหัวหน้าได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า การที่บางคนเกิดมาได้รับความลำบากยากแค้น แต่บางคนมีทรัพย์มั่งคั่ง บางคนรูปร้ายทุพพลภาพ บางคนอายุสั้น และบางคนอายุยืนยาวนั้นเป็นเพราะเหตุใด

    พระพุทธองค์ตรัสว่า การที่คนเกิดมาและอยู่ดีมีสุขนั้น เป็นเพราะในชาติก่อน ได้ทำบุญให้ทานถือศีลฟังธรรม ส่วนคนที่เกิดมาลำบากเข็ญใจนั้น เป็นเพราะในชาติก่อนมิได้ทำบุญให้ทาน ไม่สงเคราะห์แก่ผู้ใด มีแต่กระทำบาป เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดในนรก พ้นจากนรกก็เกิดเป็นเปรต หากยังมีกรรมหนาแน่นอยู่หรือเคยฆ่าสัตว์มาก่อน ก็ต้องเกิดเป็นสัตว์ที่ตนเคยฆ่าอีกห้าร้อยชาติ แล้วจึงเกิดมาเป็นคนอนาถายากไร้

    คนที่มีรูปงามและมีอายุยืนนั้น ก็เนื่องมาจากอดีตชาติเคยทำบุญให้ทาน รักษาศีล ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่อิจฉาริษยาขึ้งโกรธต่อผู้ใด คนที่มีแต่ความอิจฉาริษยาอยู่ในใจนั้น มักเป็นผู้ผูกโกรธและไม่ทำบุญรักษาศีล พอเกิดมาจึงมีรูปร่างไม่งดงาม หรืออวัยวะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือมีอายุสั้น

    คนที่เกิดมามีสติปัญญาและความจำดี มีศิลปวิทยาเป็นประโยชน์ต่อตนและครอบครัว ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง หรือเป็นครูผู้สอนศิลปวิทยาแก่ผู้อื่นมาก่อน เมื่อเกิดมาอีกจึงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดส่วนคนที่เกิดมาแล้วโง่ทึบหรือเป็นบ้าเป็นใบ้นั้น เป็นเพราะในชาติก่อนมิได้ศึกษาเล่าเรียน ไม่ได้ฟังคำสอน หรือมีผู้สอนแล้วไม่เชื่อฟัง ก็ทำให้เกิดมาเป็นคนโง่ทึบและเป็นบ้าใบ้

    พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า พระองค์จะมีพระชนมายุเพียง 80 ชันษา ก็จะนิพพาน และได้กำหนดให้พระพุทธศาสนายืนอยู่ได้ 5,000 ปี เมื่อพระองค์นิพพานไปครบ1,000 ปีแล้ว ก็จะเกิดความยุ่งเหยิงเป็นครั้งคราว จะมีพระอริยสงฆ์และพระราชาช่วยกันกอบกู้เป็นระยะๆ เพื่อให้พระพุทธศาสนาสืบเนื่องต่อไปได้ครั้นพระองค์นิพพานไปแล้ว 2,500ปี พระศาสนาจะเริ่มถอยลง คนจะขาดความเคารพในพระธรรม พระภิกษุบางเหล่าจะแตกแยกกัน บางหมู่จะไปตั้งนิกายใหม่ บางหมู่จะนำเอาคำสอนของพระองค์ไปทำให้ไขว้เขว พระสงฆ์บางกลุ่มจะตั้งตนเป็นผู้วิเศษ ประพฤติตนเป็นมิจฉาทิฐิอลัชชี จะมีการหากินด้วยเดียรัจฉานวิชาต่างๆ คนทั้งหลายทำไร่นาลำบาก ท้าวพญาจะข่มเหงชาวบ้านชาวเมือง ความยุติธรรมจะบกพร่อง และเมื่อศาสนาของพระองค์มีอายุ 3,000 ปีแล้ว ท้าวพญาจะขัดแย้งกัน บ้านเมืองจะวุ่นวายฆ่าฟันกันไปทุกหย่อมหญ้า เกิดความแห้งแล้งและพืชผลจะตกต่ำ คนจะพากันล้มตายด้วยเหตุต่างๆ เป็นอันมาก และเมื่อโดยเฉพาะศาสนาของพระองค์พ้น 2,500 ปีไปแล้ว คนหลายๆ ครอบครัวจะได้ร่วมอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หญิงชายอายุถึงสิบปีก็จะมีผัวมีเมียกันแล้ว

    ยามนั้นคนทั้งหลายจะไม่อ่อนน้อมต่อกัน และจะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพงไปทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อศาสนาของพระองค์ล่วง 2,500 ปีไปแล้ว จะเกิดปัญหา "หมากน้ำเต้าจักจม หมากหินจักฟู" หมาจิ้งจอกจักไล่กัดเสือ ช้างจะพากันกินถ่านไฟแดง คนใจบุญใจกุศลจะต้องหาบ แต่คนใจบาปจะเดินตัวเปล่า พ่อค้าจะอาสาออกศึก น้ำไม่ลึกจะพากันทำที่ว่ายน้ำเล่น กบเขียดจะไล่กินงู พญาครุฑจะเป็นบริวารของกาดำ หมาจิ้งจอกจะกินอาหารจากถาดทอง และราชสีห์จะเป็นบริวารของหมาจิ้งจอก

    ครั้งนั้นเทวดาถามว่า เมื่อพระองค์นิพพานไปแล้ว พระองค์จะตั้งพระรัตนตรัยไว้อย่างไร ภายหน้าภายหลังไม่เสมอกันจะเป็นเหตุใด สัตว์ไม่เคยเกิดก็จะมี ที่มีแล้วก็จะเกิดมาอีก อันว่า หมากน้ำเต้าไม่เคยจมน้ำก็จักจม หมากหินซึ่งอยู่ใต้น้ำก็จักฟูลอยขึ้น จะเป็นด้วยเหตุใด

    พระพุทธองค์ตอบว่า เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไป 2,500 ปีแล้ว "หมากน้ำเต้าจม" ได้แก่ คนทั้งปวงที่เคยบวชและเรียนพระไตรปิฎกจนถ่องแท้แล้วนั้น ต่อมากลับทำบาปและไม่รักษาศีล อีกทั้งยังแนะให้คนอื่นหลงผิดจนตกนรกหมกไหม้เป็นอันมาก คนเหล่านั้นเมื่อสิ้นชีวิตแล้วก็จะไปจมอยู่ในอบายภูมิทั้ง 4 อันว่า "หินจะลอยไปตามกระแสน้ำ" นั้น ได้แก่ คนบ้านนอกซึ่งไม่รู้จักพุทธศาสนาจะพากันละเลิกมิจฉาทิฐินั้นแล้วทำบุญรักษาศีล และสร้างคุณงามความดีแก่บ้านเมือง เป็นผู้ค้นคว้าเอาวิชาความรู้มาเผยแพร่แก่กุลบุตรกุลธิดาสืบไปอีก คนเหล่านั้นจักได้ชื่อว่า "หมากหินจักฟู" ต่อมาท้าวพญาจะแย่งชิงอำนาจกันและแตกเป็นพวกเป็นเหล่า เมื่อรบกันแล้วผู้มีกำลังน้อยก็จะจ้างชาวป่าชาวดอยมาเป็นกำลัง โดยบอกว่าหากตนชนะแล้ว จะตั้งให้มีอำนาจและได้ทรัพย์สินของผู้แพ้นั้น พวกท้าวพญาหรือเสนาอำมาตย์ที่อาศัยพวกโจรหรือชาวบ้านชาวป่ามาเป็นนักรบ ซึ่งเมื่อชนะแล้วก็ตั้งให้มีตำแหน่งหน้าที่และได้ลูกเมียของพวกผู้แพ้ไปสมสู่อยู่กินด้วย อันนี้เรียกว่า "ราชสีห์จักได้เป็นบริวารของหมาจิ้งจอก" ส่วนวงศาลูกเมียของพญาผู้เสียอำนาจนั้นก็เท่ากับว่า "พญาครุฑไปเป็นบริวารของกาดำ" และพวกโจรหรือนักเลงชาวป่าชาวดอย เมื่อไม่มีความรู้แต่มีอำนาจหน้าที่แล้ว ก็จะใช้แต่ความหยาบช้าหาศีลธรรมมิได้ คนดีมีความรู้ก็จะพากันหันหนีเข้าป่า คนอธรรมจะได้ครองเมือง และบ้านเมืองก็ระส่ำระสายเกิดกลียุค อันนี้เรียกว่า "กบเขียดไล่กินงู" คือเมื่อศาสนาของพระองค์ผ่าน 2,500 ปีไปแล้ว คนทั้งหลายก็จะเป็นทุกข์และเดือดร้อนฉิบหายกันมากนัก

    เทวดาก็ทูลถามว่า หากเกิดเหตุเช่นนั้นจริง พระองค์จะให้พวกเทวดาทำอย่างไร พระพุทธองค์ตอบว่า หากคนยังเคารพและปฏิบัติตามในพระรัตนตรัยอยู่ ก็จะเป็นบุญของผู้นั้น แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็เป็นกรรมของผู้นั้น จึงขอให้เทวดาทั้งหลายทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาฟังธรรมคำสอนของผู้รู้ สร้างกุศลและละเว้นจากบาป ทำจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วตั้งจิตปรารถนาให้ได้พบพระพุทธอาริยเมตไตรย เทวดาทูลถามต่อว่า คนที่อยากพบพระอาริยเมตไตรยนั้นพึงทำอย่างไร พระพุทธองค์ก็ตอบว่าให้มั่นคงในการทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาแล้วตั้งความปรารถนาว่าให้ได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรย ก็จะได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรยเป็นแน่แท้ เมื่อเทวดาทั้งหลาย มีปัณณเทพเป็นประธานได้รับฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าดังกล่าวแล้ว ก็มีความชมชื่นยินดีมากนัก จึงพากันกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้วอำลาคืนสู่วิมานของตน

    บัดนี้...เป็นไปอย่างพุทธทำนายของพระพุทธองค์แล้วหรือยัง?

    พิบัติทำนายฉบับลาว

    คงจำกันได้ ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาข่าวภัยพิบัติธรรมชาติจากอุตรดิตถ์ ไปจนถึงยอร์คจาร์การ์ตา อินโดนีเซีย ทำลายทรัพย์สินและคร่าชีวิตผู้คนมากมาย

    ก่อนนั้นบ่ายวันหนึ่งต้นเดือนพฤษภาคมผมนั่งหลบร้อนอยู่ใต้ถุน จู่ๆก็มีเพื่อนบ้านเดินมาแจกเอกสาร2 เล่ม ลักษณะเป็นกระดาษเอ4 ซีรอกซ์ เย็บง่ายๆ ปกใช้กระดาษปอนด์สีฟ้าตัวพิมพ์คอมพิวเตอร์ ข้อความบนปกบอกว่าเป็นคัมภีร์ใบลานอักขระธรรมจากภูค้อของสามเณรคำ อีกเล่มเป็นกระดาษเอ4 พับครึ่งปกสีเดียวกันเป็นบทสวดใช้คู่กับเล่มแรก

    เพื่อนบ้านคนนั้นระบุว่าต้องการฝากเอกสารฉบับดังกล่าวให้พ่อ(ของผม) ผมก็รับนำไปให้ท่าน ส่วนเขารีบเดินจากไปคงไปแจกต่อ

    ครั้นพ่อรู้ว่าใครมาแจกก็ยิ้มๆอยู่ พูดงึมงำอะไรอยู่ในคอไม่ทันฟัง อ่านครู่หนึ่งก็วางแล้วกลับไปดูมวยช่วงเจ็ดสีต่อ ผมว่างมากวันนั้นก็ถือโอกาสนั่งพลิกๆอ่านเล่น พบเรื่องตื่นเต้นจริงบ้างเล่นบ้าง คล้ายเรื่องในอินเตอร์เนท ข่าวลือ จริง ลวง เท็จอย่างไร เผยแพร่ด้วยวัตถุประสงค์อันใด ไม่รู้ไม่มีที่มาชัดแจ้งนัก ที่ผมสนใจนี่เป็นการเผยแพร่แบบดั้งเดิมแบบชาวบ้านจริงๆ นี่แหละ (เดินแจก) ไม่ต้องพึ่งความเร็วของสื่อยุคใหม่ มาไกลเหมือนกัน และคงสร้างความเชื่อและแตกตื่นระดับหนึ่ง

    ที่มาที่ไป ต้องการอะไร ใครได้ประโยชน์ เชื่อหรือไม่เชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้

    หนังสือใบลานนี้ระบุว่าตกลงมาสู่วัดแห่งหนึ่งในแขวงอัตะปือ(น่าจะเป็นประเทศลาว)

    ข้อความเริ่มที่ ....ข้าพเจ้า(คนเขียนเผยแพร่) บอกว่าได้รับรู้จากพระอาจารย์ ผู้ทรงศีลองค์หนึ่ง เผยแพร่ให้ทราบจึงเกิดศรัทธ่เสียสละทรัพย์ส่วนตัวพิมพ์แจกจ่ายมายังชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นการกุศล และพิจารณาด้วยตนเอง ถึงมหันตภัยของโลกาภิวัตน์ซึ่งจะเกิดขึ้นตามพุทธทำนาย

    ผม พลิกดูข้อความก็พบว่าเป็นการทำนายหายนะต่างๆที่จะเกิดขึ้น คัดมาเพียงบางตอนดังนี้

    ..ในปีระกา ปีจอนี้ มีเรือนแล้วจะไม่มีคนอยู่ มีนาไม่มีคนทำ เดือนเจ็ดจะมีงูเต็มไปทั่ว
    ถึงเดือนสิบเอ็ด คนบาปจะตายเพราะไม่ซื่อสัตย์ จะมีภัยต่างดังนี้1.จะมีสงครามเกิดขึ้นทางน้ำ ,ท่าน้ำจะมีอันตราย
    2.จะเกิดนอนไม่หลับ
    3.ผัวเมียจะไม่เห็นหน้ากัน
    4.ทั้งลูกทั้งหลานจะไม่เห็นหน้ากัน
    5.คนจะตายทั่วทั้งทวีป

    แต่ว่าการตาย จะไม่มีคนฝัง คนเผา ไม่มีผ้านุ่งผ้าถุง มีข้าวไม่มีคนกิน เพราะการกระ
    ทำบาปทั้งหลายในจำนวนคนหนึ่งหมื่นคนจะตายเหลือแค่หนึ่งพันคนเท่านั้น จะ
    เกิดโจรผู้ร้ายเรียกค่าคุ้มครอง เสือร้ายต่างๆ จะเกิดขึ้นสี่ห้า หกปี ไปจนถึงปีชวดก็จะหมดกั
    นแล้ว บ้านเมืองไม่สบายในห้าปีนี้ มันร้อนเต็มที่แลฯ .....

    ยังมีภัยอีกอย่างว่า ถ้ามีคนมาเรียกอย่าขาน กลัวผีมัมาเห็นเดือนหกออกใหม่ค่ำหนึ่งกับเดือนแรมเก้าไม่ให้ตักน้ำ ให้ตักไว้ก่อน กลัวผีมันเอายาใส่กินแล้วตาย ........

    น้ำอุบาทว์จะท่วมโลกโดยบังเอิญทั่วทั้งทวีป คิดกลัวจะไม่ถึงปีระกาและปีชวด ถ้าไม่เชื่อเดือนสิบสองจะบันดลให้คนไออกเลือดแล้วตาย .......

    ในปีจอต่อปีกุน ยามเดือนแจ้งจะเกิดมีงูพิษออกมาฉกกัดให้ตาย ฝูงชนทั้งหลายจะได้รับความเดือดร้อนหลายประการ เช่น ทุกข์ยากร้อนเพราะศึกสงครามไม่เสร็จสิ้น ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีน้ำมีไฟ ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีใครดูแลใคร ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีใครอยู่ทุ่งไร่นา ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีผู้เฒ่าผู้แก่ ทุกข์ยากร้อนเพราะไปต่างประเทศสะดวก ทุกข์ยากร้อนนอนไม่หลับ

    ในปีจอนี้เมืองเวียงจันทร์จะมีองค์ฤาษีทองคำ ลาสิกขาบวชมาเป็นพ่อค้า ในปีจอออกใหม่ 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ต้กน้ำอาบน้ำกิน ตามห้วยหนอง คลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน หรือก่อนมืดค่ำ พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นลงมายังโลกมนุษย์
    ในปีจอนี้เมืองกรุงเทพมหานครจะพังทลาย ในเวลาไก่ขัน......
    พระอินทร์จะลงโทษกับมนุษย์ใจบาป 9 ข้อนับแต่ปีจอถึงปีกุนคือ
    1.จะทำให้เกิดภัย ลมแรง แผ่นดินไหว
    2.จะเกิดไฟไหม้
    3.จะเกิดน้ำท่วม
    4.จะเกิดฟ้าผ่า
    5.จะทำให้เกิดเดือดร้อน ร้อนหลาย หนาวหลาย
    6.จะเกิดสารพิษต่างๆ อากาศ อาหารเป็นพิษ
    7.จะเกิดสารโรค พยาธิร้าย
    8.จะเกิดอดอยาก
    9.จะเกิดอาฆาต ฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนบาป

    มหันตภัย 9 อย่างนี้ จะหลุดพ้นแต่บุคคลผ็มีใจบุญใจกุศล ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น...

    จะเกิดภัยพิบัติในระยะไม่กี่ปีนี้ และมีภัยอีกอย่างหนึ่ง คนบาปมากในที่ต่างๆ มาทำให้เกิดพิษแก่ข้าว ถั่ว งา ให้เป็นพิษ ทำนาไม่ได้ข้าว ปลูกถั่ว งา ไม่มีผล ไม่มีหน่วย เงินสามสิบบาทซื้อข้าวไม่พออิ่ม คนจะอดอยากจะตายเพราะอดข้าว อีกอย่างหนึ่งจะตายทางน้ำมาก เช่นฝนตกลงมาเป็นพิษ ถูกเนื้อตัวเป็นผื่นคัน เป็นเม็ด เกิดน้ำเหลืองหรือเปื่อยเน่ารักษาไม่หาย อีกอย่างหนึ่งจะมีโจรผู้ร้ายใจบาปมาก ฆ่าพ่อ ตีแม่ตนเองเหยียบย่ำศาสนา ใจบาปทำความเดือดร้อนเรียกค่าคุ้มครองทั่วๆไปจนเกิดความหวาดกลัวและยังมีภัยเกิดจากสงคราม ทำให้คนทั่วทวีปล้มตายกันมากแท้ จะหนีไปอยู่ในป่า ในแนว ในหลุมก็ตายไม่เหลือ แล้วจะเกิดอุบาทว์ ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เป็ดไก่ วัว ควาย จะตายมาก แม้คนก็จะตายตาม แล้วห้าทวีปจะหนีในการบริหารประชุมกัน ก็จะเกิดสงคราม เพราะคนใจบาปมาก จะไม่เกิน 2548 ต่อ 2549 ต่อ 2550 ต่อ 2551 จะมีคนเหลือน้อยใน 5 ทวีป ขอให้ท่านทั้งหลายจงพากันทำบุญรักษาศีลทุกท่านเทอญ

    ภัยพิบัติโลก เมื่อพ.ศ. 2547 ต่อ 2548 ต่อ 2549 ต่อ 2550 ต่อ 2551 ครั้งที่ 1 คือ 2547ต่อ 2548 ไม่หนักเท่าใด ครั้งที่ 2 2548 ต่อ 2549 หนักกว่าครั้งแรก 3 เท่า ครั้งที่ 3 2549 ต่อ2550 หนักมากที่สุด จะมีเมฆก้อนสีดำก้อนใหญ่มาปกคลุมโลก ฝนที่ตกลงมาจะเป็นพิษตกถูกผู้ใดจะเน่าเปื่อยรักษาไม่หาย แล้วทางทะเลจะระเบิดน้ำจะท่วมสูงประมาณ 100 เมตร แล้วจะมีภูติพื้นพิภพออกมากินมนุษย์ เกาะต่างๆ ในน้ำทะเลจะไม่มี ทางบก ทางอากาศจะระเบิดพร้อมกัน ในปี 2548 ต่อ 2549 จะมีงูน้อยใหญ่ออกมาทั่วพื้นพิภพในราวเดือน 11-12 งูนั้นเป็นบริวารของพญานาคราช ถ้าผู้ใดทำอันตรายเขาผู้นั้นจะตายทันที

    มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย ขอจงอย่าประมาทถ้าอยากพ้นภัยพิบัตินั้นให้พากันถือศีลกินทาน และพากันท่องคาถาป้องกันภัยพิบัติโลก.....

    ผมหาอยากนำเรื่องนี้มาเล่าตั้งแต่วันแรกที่เห็นเอกสารเผยแพร่ฉบับชาวบ้านดังกล่าวแล้วครับแต่ไม่มีโอกาส หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติใหม่ๆ ก็คิดอยู่ แต่มาคิดอีกมุมหนึ่ง หากนำเสนอหลังภัยพิบัติเพิ่งพ้นผ่านประเดี๋ยวจะเป็นการหาโอกาสสร้างความขลังให้กับคำทำทาย ประเภทว่ารู้มาก่อนล่วงหน้า (แต่ดันมาพูดตามหลังเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว แบบหมอเดา ...ช่วงนี้ยังมีเรื่องพระโลงศพ ออกมาใบ้หวยผิด คิดแล้วมองเห็นการออกนอกลู่นอกทางทางคำสอนแท้ๆ ของพระพุทธเจ้าไปถึงไหนแล้ว )

    เอาเป็นว่าที่คัดมาเล่าให้ฟังเพื่อให้เห็นการกระจายข่าวประสาชาวบ้านอย่างหนึ่ง อีกประการหนึ่งเพื่อเตือนสติกันอยู่เสมอๆว่าอย่าตั้งตนในความไม่ประมาทตามคำสอนของพระพุทธองค์


    • Update : 29/7/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch