.....นกกระจอกเทศจะใช้เวลาฟักไข่นาน 42 วัน จึงออกเป็นตัว ซึ่งการฟักไข่ในตู้ฟักจะช่วยเหลือลูกนกกระจอกเทศให้ออกไข่ง่ายขึ้น เมื่อลูกนกกระจอกเทศออกจากไข่จะต้องอยู่ในตู้ที่เรียกว่าตู้อบประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวแห้งและแข็งแรง หลังจากนั้นจึงนำออกมาเลี้ยงในโรงเรือนอนุบาล ลูกนกกระจอกเทศต่อไป ซึ่งในโรงเรือนอนุบาลจะต้องมีอุปกรณ์ที่สำคัญดังนี้
1. |
เครื่องกกลูกนกกระจอกเทศ |
2. |
แผงล้อมลูกนกกระจอกเทศ |
3. |
ที่ให้อาหาร |
4. |
ที่ให้น้ำ |
5. |
วัสดุรองพื้น ควรใช้แกลบ ฟางแห้ง ผ้า หรือกระสอบ |
.....การปฏิบัติการในการเลี้ยงลูกนกกระจอกเทศอายุแรกเกิด – 4 สัปดาห์ ผู้เลี้ยงจะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม และทำความสะอาดพื้นคอกบริเวณที่เลี้ยงลูกนก โดยการฆ่าเชื้อ ปูพื้นคอกด้วยแกลบหรือฟางแห้งหรือผ้ากระสอบ |
|
....พื้นคอกถ้าเป็นพื้นซีเมนต์จะทำความสะอาดได้ง่าย แต่ต้องระวังนกลื่น ปูทับด้วยวัสดุรองพื้นพวกแกลบ ฟางแห้ง กระสอบ หรือผ้า ซึ่งผู้เลี้ยงจะต้องเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนที่จะทำการกก นอกจากนี้ออุปกรณ์ดังกล่าวข้างต้นจะต้องสะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อด้วยยาฆ่าเชื้อโรคแล้ว
....สำหรับเครื่องกกลูกนกจะต้องตรวจสอบการทำงานให้เรียบร้อยว่าใช้งานได้ดี อุณหภูมิกกคงที่โดยตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 35 ° C หรือ 95 ° F ในช่วง 2 วันแรก และลดอุณหภูมิลงทุกสัปดาห์จนเหลือ 21-23 ° C หรือ 69-73 ° F เมื่ออายุ 4 สัปดาห์ ไฟกกจะต้องอยู่สูงจากหัวนกขนาดลูกนกยืดคอไม่ถึง ปกติลูกนกกระจอกเทศเมื่อออกจากไข่ในระยะเวลา 2-3 วันแรก หรือ 24-36 ชั่วโมงหลังออกจากตู้อบ ไม่มีความจำเป็นที่จะให้อาหารลูกนก ช่วงนี้จะเป็นอันตรายทำให้ลูกนกตาย เพราะอาหารที่ลูกนกกินเข้าไปจะไม่ย่อย |
|
....ดังนั้นจึงควรให้อาหารหลังจาก 2 วันแรกไปแล้ว โดยอาหารที่มีโปรตีน 20-22 % พลังงาน 2,700 กิโลแคลอรี่ แคลเซียม 1.4% ฟอสฟอรัส 0.7% เมื่อลูกนกอายุได้ประมาณ 5-7 วัน ควรจะมีหญ้าสดสับหรือหั่นฝอยเสริมให้ลูกนกกินโดยผสมปนกับอาหารข้นในอัตราส่วน อาหารข้น 5 ส่วน ต่อหญ้าสดสับ 1 ส่วน โดยน้ำหนัก และผสมด้วยกรวดขนาดเล็กหรือหินเกล็ดลงในอาหารผสมประมาณ 1.5 % โดยน้ำหนักอาหาร ซึ่งลูกนกจะใช้ในการย่อยบดอาหารในกระเพาะต่อไป หรือจะตั้งกรวดหรือหินขนาดเล็ก ไว้ให้ลูกนกกินเองก็ได้
....เนื่องจากลูกนกกระจอกเทศเป็นสัตว์ชอบเล่น ดังนั้น ในภาชนะให้อาหารและน้ำจะใส่ลูกปิงปอง หรือลูกบอลที่ไม่ใช้แล้วลงไปด้วยประมาณ 2-3 ลูก เพื่อให้ลูกนกเล่นไปด้วยจิกกินอาหารและน้ำไปด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกนกกระจอกเทศกินอาหารได้มากยิ่งขึ้น
การให้น้ำแก่ลูกนกกระจอกเทศ
....ในช่วงแรกลูกนกยังไม่รู้จักภาชนะให้น้ำ การปล่อยปละละเลยไม่ฝึกลูกนกอาจจะมีผลทำให้ลูกนกไม่ได้กินน้ำและตายในที่สุด ดังนั้นผู้เลี้ยงจะต้องฝึกลูกนกโดยจับลูกนกไปที่ภาชนะที่ให้น้ำ แล้วจับปากลูกนกจุ่มน้ำ 2-3 ครั้ง ทำเช่นนี้ทุกตัว น้ำที่ให้ในระยะแรกนี้ควรเสริมวิตามินและละลายน้ำที่ใช้กับลูกไก่ซึ่งมีจำหน่ายในท้องตลาดผสมให้ลูกนกกินด้วยก็จะดีในช่วงนี้จะต้องดูแลเอาใจใส่
เกี่ยวกับ อุณหภูมิในการ กกลูกนก ลูกนกจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วควรขยายวงล้อมกกออกทุก ๆ 3-4 วัน การขยายกกออกมากหรือน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ และควรลดอุณหภูมิในการกกลงสัปดาห์ละ 3-5 องศาฟาเรนไฮด์ โดยปกติจะใช้เวลากกลูกนกกระจอกเทศนานประมาณ 3-4 สัปดาห์ กรณีอากาศหนาวมากควรเพิ่มระยะเวลากกยาวออกไปอีก ทั้งนี้ให้สังเกตความสมบูรณ์ของลูกนกด้วย
..... การเลี้ยงนกกระจอกเทศในระยะ 1 สัปดาห์แรก ควรจะให้แสงสว่างในโรงเรือนตลอด ควรจะให้แสงสว่างในโรงเรือนตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อลูกนกอายุเกิน 1 สัปดาห์ไปแล้วจึงจะลดชั่วโมงการให้แสงสว่างลงเหลือ 14-15 ชั่วโมงต่อวัน เมื่ออายุ 3-4 สัปดาห์ อาจเปิดไฟเฉพาะในเวลากลางคืนก็พอ
.... ลูกกระจอกเทศแรกเกิดจะมีน้ำหนักประมาณ 830-1,000 กรัม ซึ่งลูกกระจอกเทศอายุ 0-4 สัปดาห์ จะโตขึ้นจากเดิม 1 ฟุต หนักประมาณ 900-2,800 กรัม อัตราการเจริญเติบโตของลูกนกกระจอกเทศจะสูงขึ้นประมาณเดือนละ 1 ฟุต จนนกนกกระจอกเทศสูงถึง 5-6 ฟุต อัตราการเจริญเติบโตจึงจะลดลงหรือหยุด
.... ในการเลี้ยงควรจะตรวจดูวัสดุรองพื้นคอก จะต้องไม่ชื้นแฉะหรือแข็งเป็นแผ่น ถ้ามีกลิ่นของก๊าซแอมโมเนียจะต้องรีบแก้ไขทันที โดยเปลี่ยนวัสดุรองพื้น ภายในห้องกกควรจะมิดชิดไม่มีลมโกรกเข้ามา แต่จะต้องมีการระบายอากาศออก ให้ภายในห้อง
.... ดังนั้นจึงควรเข้มงวดในเรื่องของการสุขาภิบาลในโรงเรือนอนุบาลให้เป็นอย่างดี ลูกนกจึงจะแข็งแรงเจริญเติบโตเร็ว
.... ควรสังเกตอุจจาระของนกกระจอกเทศตลอดเวลา นกกระจอกเทศที่มีสุขภาพปกติจะถ่ายอุจจาระอ่อนนุ่ม ไม่แห้งแข็งหรือเป็นเม็ดเหมือนอุจจาระแพะ ปัสสาวะของนกกระจอกเทศจะต้องเป็นน้ำใส ไม่เหนียวหรือขุ่นข้น
|