หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    วิธีการให้อาหารกบ

    ในที่นี้ผมจะขอแนะนำให้ท่านหาซื้ออาหารเม็ดสำเร็จรูป ที่เป็นอาหารกบโดยตรงมาใช้นะครับ ยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ท่านสะดวกที่จะหามาได้นะครับ หลายๆคนและหลายๆที่ก็แนะนำว่าเป็นปลาต้มสับ ก็ได้เหมือนกัน แต่ปัจจุบันทุกอย่างเร่งรีบ และอาหารแบบตามธรรมชาติก็ลดน้อยลงไปมาก ผมจึงแนะนำตามความคิดผมด้านบนนะครับ เพราะอาหารเม็ด ปัจจุบันก็ราคาเฉลี่ย 480 – 530 บาท / กระสอบ(20 กก.) นะครับ ( ยึดตามราคาที่ฟาร์มของผมจำหน่ายอยู่ครับ )

    หลักการให้อาหารกบ คือ

    1. การให้อาหารและขนาดเม็ดอาหาร ให้ดูคร่าวๆจากอายุกบ ไปเลยครับ ไม่ต้องสนใจหลักการอะไรมากครับ เช่น
    - กบเล็กอายุ 15 – 35 วัน ให้กินอาหารเม็ดเล็กสุด หรือที่เรียกว่าเม็ดโฟม ให้กินพออิ่ม อย่าให้มาก เพราะกบจะท้องอืดตายได้
    - กบเล็กอายุ 36 – 45 วัน ให้กินอาหารเม็ด เบอร์ 1 ได้ครับ
    - กบรุ่นอายุ 46- 59 วัน ให้กินอาหารเม็ด เบอร์ 2 ได้เลยครับ
    - กบโตอายุ 60 วัน ขึ้นไป ให้กินอาหารเม็ด เบอร์ 3 ได้เลยครับ และก่อนจับก็ให้กินเบอร์ 4 เพื่อรอคนมาจับได้นะครับ
    2. อาหารยิ่งเบอร์เล็ก ยิ่งแพง เพราะว่าในช่วงกบอายุน้อยๆจะต้องการโปรตีนปริมาณสูงกว่ากบโต จึงทำให้อาหารเบอร์เล็กแพงกว่าเบอร์ใหญ่ๆครับ
    3. กบเล็ก อายุ 30 – 60 วัน ให้กินอาหารวันละ 3 มื้อ ให้กินพออิ่ม อันนี้ต้องดูเอาว่ากบกินทั่วถึงแล้วหรือไม่ ไม่ต้องไปคำนวณตามสูตรอะไรมากมาย เอาง่ายๆพอครับ
    4. กบรุ่นและกบโต อายุ 60 วันขึ้นไปให้กินอาหารวันละ 2 มื้อ ก็พอครับ จะได้ไม่เปลืองมาก อย่าให้อาหารมากเกิน เพื่อป้องกันกบท้องอืด และตาย
    5. การให้อาหารควรเคล้ายาให้กบบ้าง ตามอาการที่กบเป็นโรค หรือเพื่อป้องกันโรค ส่วนยาก็ไปที่ร้านเกษตรทั่วไปแล้วเลือกดูเอาครับตามที่พบอาการว่ากบมีอาการเป็นอะไรบ้าง สมัยนี้มียารักษาและป้องกันหลายยี่ห้อครับ แต่แนะนำให้ใช้ยาให้น้อยที่สุด หรือเท่าที่จำเป็นนะครับ ตรงนี้สำคัญมากถ้าต้องการส่งออกกบในอนาคตครับ
    6. ตามปกติกบจะกินอาหารเรื่อยๆไม่มีหยุด เรียกว่ากินจนท้องอืดและตายในที่สุด ดังนั้นอย่าคิดว่ากบกินอาหารหมดแสดงว่ากบหิว จริงๆแล้วให้ดูโดยรวมๆว่ากินทั่วถึงแล้วหรือยัง ถ้าทั่วถึงแล้วก็ให้หยุดให้อาหารในมื้อนั้นๆและจำเป็นมาตรฐานไว้ว่าเราควรจะให้มื้อละกี่กิโลกรัมครับ



    หลายๆที่แนะนำให้เลี้ยงกบด้วยอาหารปลาดุก ผมมีความคิดเห็นต่างออกไปนะครับ เพราะว่าอาหารปลาดุกนั้นโปรตีนจะต่ำกว่าอาหารกบอย่างมาก นั่นหมายความว่าถ้าเราใช้อาหารปลาดุกมาใช้เลี้ยงกบ ก็จะทำให้กบโตช้าและแกร็น เพราะในช่วง 1 – 2 เดือนแรก กบจะมีการเจริญเติบโตสูงและต้องการโปรตีนสูงตามไปด้วย การใช้อาหารปลาดุกเท่ากับเป็นการลดโปรตีนลงไป กบจะไม่โตเท่าที่ควร และไม่ได้น้ำหนัก(โต แต่กลวงๆ)

     

    แล้วเราจะใช้อาหารปลาดุกเมื่อใด เพราะว่ามันราคาถูก น่านำมาใช้แทนอาหารกบซะเหลือเกิน?
    คำตอบคือ ตอนกบอายุ 100 วันไปแล้ว และอยู่ในช่วงที่กบโตในท้องตลาดมีราคาถูกซะจนรับไม่ได้ จะให้อาหารกบแท้ไปทำไม เมื่อขนาดกบก็ 4 – 5 ตัว / กก. อยู่แล้ว แต่ราคาขายถูกจนต้องตัดสินใจเลี้ยงต่อไว้ก่อนเพื่อรอราคาขึ้น แบบนี้ต้องเอาอาหารปลาดุกมาให้กบกินประทังชีวิตไปก่อนครับ เพื่อรอขายอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการให้กบโตเพิ่มแต่อย่างใด อันนี้ผมว่าเหมาะสมครับ

    อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวผมและผมก็ทำอยู่ครับ ใครพิจารณาแล้วเห็นตรงกันก็ลองนำไปปรับใช้ดูได้ครับ ไม่เห็นด้วยก็อย่าว่ากันนะครับ



    แนะนำสูตรอาหารกบและปลาดุก แบบประหยัด (แหล่งที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร *1677 | http://www.rakbankerd.com)
    สูตรอาหารกบ
    วัตถุดิบที่ต้องใช้
    1.หอยเชอรี่…………….จำนวน…….32…..กิโลกรัม
    2.มันเส้น……………….จำนวน…….14…..กิโลกรัม
    3.ข้าวโพด………………จำนวน…….10…..กิโลกรัม
    4.ข้าวเหนียวแห้ง……….จำนวน…….10…..กิโลกรัม
    5.ใบกระถินสด………….จำนวน…….10…..กิโลกรัม
    6.กากมะพร้าว………….จำนวน……..4……กิโลกรัม
    7.รำอ่อน……………….จำนวน……..24….กิโลกรัม
    8.กล้วยสุก……………..จำนวน……..12….หวี
    9.ผงฟู/ยีสต์……………จำนวน………2…..ซอง
    10.ปลายข้าว………….จำนวน………20…กิโลกรัม
    รวมน้ำหนัก…………………….100-120…กิโลกรัม

     

    วิธีการผสม
    - นำส่วนผสมทั้งหมดมาบดใส่เครื่องบดผสมกัน ซึ่งจะมีขนาดของหัวอาหารแบ่งเป็นเบอร์ คือ เบอร์1 / เบอร์ 2 และ เบอร์ 3 จากนั้นให้นำมาตากแดดไว้จนแห้งประมาณ 1-2 วัน แล้วจึงนำไปให้สัตว์กิน
    - สามารถเป็นหัวอาหารให้กับกบ และ ปลาดุก ได้ เพื่อเป็นอาหารบำรุงให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง และมีความอ้วนถ้วนสมบูรณ์


    ผมเคยเจอผู้ที่ขายอุปกรณ์และวัตถุดิบอยู่บ้าง เข้าดูตามลิ้งนี้นะครับ
    - สำหรับเครื่องบดและอัดเม็ด ลงดูที่นี่ดูก่อนครับ ที่ http://www.pui-thai.com
    - ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ แนะนำให้ปรึกษาผู้ขายที่ [email protected] ผมเห็นเขาประกาศขายอยู่หลายเว็ปครับ
    - หรือไปที่ http://www.thaifeed.net ก็มีคนขายเยอะครับ


    • Update : 1/7/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch