มะเขือม่วง มีหลายสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีข้อแตกต่างกันที่รูปทรงของผลและสีผล ส่วนใหญ่นิยมเอาผลดิบเผารับประทานกับน้ำพริก หรือฝานเป็นชิ้นชุบแป้งทอดกรอบอร่อยดี อาหารญี่ปุ่นจะมีมะเขือม่วงเป็นส่วนประกอบเกือบทุกเมนู ซึ่ง “มะเขือม่วงญี่ปุ่น” จะมีผลโต อวบอ้วน รูปทรงผลเป็นรูปหยดน้ำ เวลาติดผลน่าชมยิ่ง
มะเขือม่วงญี่ปุ่น หรือ SOLANUM MELON GENA LINN. เป็นไม้พุ่ม สูง 1-1.5 เมตร เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นมีขนนุ่มปกคลุม มีหนามเล็กๆ ใบเดี่ยว ออกสลับเป็นรูปค่อนข้างกลม ปลายแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบจัก หรือเป็นคลื่น หลังใบและหน้าใบมีขน ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามซอกใบ มีกลีบเลี้ยงหนาแข็ง 4-5 แฉก สีเขียว ดอกโคนเชื่อมกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกเป็นสีม่วง เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผลขนาดใหญ่ทรงหยดน้ำตามที่กล่าวข้างต้น ผิวผลเรียบ เป็นสีม่วง ผลโตเต็มที่เฉลี่ยระหว่าง 3-4 ผลต่อ 1 กิโลกรัม ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก มีดอกและผลตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ปัจจุบันมะเขือม่วงญี่ปุ่นมีต้นขายที่ตลาดนัด ไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 15 แผง “ป๋าปื้ด” ราคาสอบถามกันเอง
การปลูกมะเขือม่วงญี่ปุ่น เติบโตได้ในดินทั่วไป แต่จะงอกงามดีในดินร่วนปนทราย ชอบแดด ไม่ชอบน้ำท่วมขัง หลังปลูกรดน้ำพอชุ่มอย่าแฉะเช้าเย็น บำรุงปุ๋ยขี้วัวหรือขี้ควายแห้งโรยตามหน้าดินสลับกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 เดือนละครั้ง หลังเก็บเกี่ยวผลควรตัดแต่งกิ่งทันที จะทำให้มะเขือม่วงญี่ปุ่นแตกยอดใหม่และมีดอกติดผลชุดต่อไปได้รวดเร็วขึ้น
อย่าง ไรก็ตาม เนื่องจากมะเขือม่วงญี่ปุ่น มีอายุในการปลูกประมาณ 5-6 เดือน ดังนั้น ผู้ปลูกควรเก็บผลแก่นำเอาเมล็ดไปตากแห้งเพาะขยายพันธุ์สำรองไว้ โดยเพาะก่อนต้นเก่าจะล้มหรือตาย 1 เดือน จะได้ปลูกทดแทนได้อย่างต่อเนื่องและมีผลเก็บรับประทานไม่ขาดต้น
สรรพคุณ ทางยาของมะเขือม่วงทุกพันธุ์ ลำต้น ราก ต้มกินแก้บิด หรือตำคั้นเอาน้ำล้างแผลเน่าเปื่อย ใบแห้งป่นเป็นผงเป็นยาแก้โรคบิด ปัสสาวะขัด หนองใน ดอกสดหรือแห้ง เผาให้เป็นเถ้าแล้วบดละเอียดแก้ ปวดฟัน ผลแห้งทำเป็นยาเม็ด แก้ปวด แก้ตกเลือดในลำไส้ ขับเสมหะ ผลสดใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลอักเสบ ฝีหนอง หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง ผดผื่นคันได้ดีครับ.