|
|
คลังกดปุ่มประกันภัยข้าวดีเดย์1ก.ค.54
คลังกดปุ่มประกันภัยข้าวดีเดย์1ก.ค.54
คลังกดปุ่มประกันภัยชาวนา ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ ระบุเป็นครั้งแรกให้ชาวนาจ่ายค่าเบี้ยประกัน 50 บาทต่อไร่ แต่ได้รับชดเชยถึงไร่ละ 2,006 บาทต่อไร่ คาดมีพื้นที่เกษตรเข้าร่วมกว่า 10 ล้านไร่ทั่วประเทศ...
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเปิดโครงการประกันภัยข้าวนาปี 2554 และการเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนรวม 5 หน่วยงานในการพัฒนาระบบประกัน ภัยพืชผลให้ครอบคลุมถึงพื้นเศรษฐกิจหลักในอนาคต ว่า วันนี้ (28 มิ.ย.) เป็นการร่วมเปิดโครงการประกันภัยพืชผล ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อน หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายคุ้มครองด้านรายได้ให้กับเกษตรกรที่ทำนาสามารถ มั่นใจว่าทำนาแล้วมีกำไร ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องภัยธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตร ดังนั้น นโยบายประกันภัยพืชผล จะทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจ ว่าถึงแม้จะเกิดความเสียหายก็จะได้รับการชดเชย โดยโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายๆ แห่ง เช่น กระทรวงเกษตร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ทั้งนี้ เบี้ยประกันต่อไรจะอยู่ที่ 130 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลออกให้ 70 บาทต่อไร่ และ ธ.ก.ส.ออกให้อีก 10 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรมีภาระที่ 50 บาทต่อไร่ ขณะที่หากพืชผลได้รับความเสียหายก็จะได้รับการชดเชยสูงถึง 2006 บาทต่อไร่ นอกจากนั้น ชาวนาที่สมัครเข้าโครงการประกันพืชผล และกู้เงินจากธนาคาร ธ.ก.ส. ยังได้รับการลดดอกเบี้ยให้อีก 1% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อจูงใจให้เกษตรกรมาเข้าโครงการจำนวนมาก โดยจะเริ่มดำเนินการโครงการดังกล่าว 1 ก.ค.นี้ เพื่อให้ทันการเพาะปลูกข้าวนาปีในปีนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งงบประมาณในส่วนของเบี้ยชดเชยอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะเพียงพอกับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในโครงการประกันรายได้ ทั้งหมด
“ตั้งเป้าในปีแรกคาดว่าจะมีประมาณ 8-10 ล้านไร่ หรือ 15-20% จากพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนในโครงการประกันรายได้กว่า 57 ล้านไร่ทั่วประเทศ และจะขยายวงของเกษตรกรที่ได้รับการคุ้มครองให้กว้างออกไปเรื่อยๆ ในปีต่อๆ ไป แต่ถือว่าปีนี้เป็นปีแรก และถือเป็นการเพิ่มความมั่นคงชิ้นสุดท้ายของรัฐบาลนี้ หลังจากมีนโยบายต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรออกมาโดยตลอด” นายกรณ์ กล่าว
ด้าน นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปี 2554 ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาการประกันภัยพืชผล จากปัญหาภัยธรรมชาติ และเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ รัฐจะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับเกษตรกรในส่วนที่เกินกว่า 60 บาทต่อไร่ จากอัตราเบี้ยประกันภัยสุทธิ 129.47 บาทต่อไร่ ในกรณีที่เกิดความเสียหาย เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับความสินไหมทดแทนจากผู้รับประกันภัยเอกชน เพิ่มเติมจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐปัจจุบัน โดยจำนวนค่าสินไหมทดแทนจะขึ้นกับระยะเวลาเพาะปลูก โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ 60 วันแรก นับจากวันที่เริ่มเพาะปลูก จำนวน 606 บาทต่อไร่ และวันที่ 61 ขึ้นไป จนถึงวันสุดท้ายก่อนการเก็บเกี่ยว จำนวน 1,400 บาทต่อไร่
สำหรับโครงการประกันภัยพืชผลครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมประกันวินาศภัย โดยบริษัทเอกชนผู้รับประกันภัยตามโครงการนี้ได้ยืนยันความพร้อมในการจ่ายค่า สินไหมทดแทนภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารประกอบการจ่ายสินไหมทดแทนครบถ้วน นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ในฐานะผู้บริหารโครงการจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการจากผู้รับประกันภัยไปยังเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อยให้สามารถเข้าถึงกรมธรรม์ประกันภัยได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ เกษตรกรทั่วทุกภาคยกเว้นภาคใต้ จะสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีได้ที่ ธ.ก.ส. ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ก.ค.54 และสำหรับภาคใต้สามารถซื้อได้ตั้งแต่ 1 – 31 ส.ค.54
|
Update : 28/6/2554
|
|