|
|
109ปีชลประทานสนองงานพระราชดำริ2,000โครงการ
109ปีชลประทานสนองงานพระราชดำริ2,000โครงการ
ตลอดระยะเวลาที่ครองราชย์นานกว่า 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ให้ความสำคัญในเรื่องน้ำมากเป็นพิเศษ โดยจะเห็นได้จากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่โครงการชลประทานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ที่กรมชลประทาน ได้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท สนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจนเกิดผลเป็นรูปธรรมกว่า 2,000 โครงการ กระจายอยู่ทั่วประเทศ
และเนื่องในวันที่ 13 มิถุนายน 2554 กรมชลประทานจะมีอายุครบ 109 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ดำเนินงานตามภารกิจ ด้วยการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำทุกกิจกรรม สิ้นปี 2553 กรมชลประทานได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 16,000 โครงการ กักเก็บน้ำได้กว่า 75,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และสามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานได้ประมาณ 29 ล้านไร่ และยังมีพื้นที่รับประโยชน์อีกกว่า 11 ล้านไร่
นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ.2553 กรมชลประทานสามารถสร้างงานที่มีประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการชลประทานด้วยยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน โดยเริ่มต้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นโครงการนำร่อง จนเกิดความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้กรมชลประทาน ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทั้งในระดับประเทศและระดับสากลคือรางวัลดีเด่น ประเภทรางวัลนวัตกรรมการให้บริการ ประจำปี 2553 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และรางวัลรองชนะเลิศสาขา การให้บริการประชาชน ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งความสำเร็จนี้ จะเป็นพลังการขับเคลื่อนในการขยายผลไปสู่ความสำเร็จของการบริหารจัดการชลประทานโดยเกษตรกรมีส่วนร่วมในโครงการอื่น ๆ ต่อไป
ทางด้าน นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัญหาการเกิดอุทกภัยในปัจจุบันเป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อนที่มีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้เกิดปรากฏการณ์ของฝนที่ผิดปกติทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย เกิดปัญหาฝนตกในลักษณะที่ผิดปกติ หมายความว่าฝนตกกระจุกตัว และตกค่อนข้างรุนแรงและตกถี่มาก ทำให้มีปริมาณฝนต่อวันสูงถึง 100-200 มิลลิเมตร จึงเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน
สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมชลประทานจะดำเนินการใน 2 ส่วน ส่วนแรก คือ สิ่งก่อสร้าง เช่น การขุดลอกและกำจัดวัชพืชในคลองชลประทาน อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำและระบายน้ำ งานซ่อมแซมบำรุงรักษาอาคารชลประทาน และการตรวจสอบความพร้อมใช้งานของอาคารชลประทาน เป็นต้น
ส่วนที่สอง คือ เครื่องมือที่ใช้เป็นองค์ประกอบในการติดตามสภาวะฝน และสภาวะของน้ำที่เกิดขึ้น เช่น ระบบโทรมาตรเพื่อการพยากรณ์น้ำและเตือนภัยน้ำท่วม เป็นต้น
“อย่างไรก็ตามข้าราชการในยุคกรมชลประทานครบรอบ 109 ปี ต้องปรับตัว เปลี่ยนวิธีการทำงาน วิธีคิด ต้องสามารถตอบสนองเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการติดตามสถานการณ์น้ำ เช่น ระบบโทรมาตร และ GIS รวมทั้งใช้ข้อมูลจากสถาบันนานาชาติ ที่ปัจจุบันสามารถคาดการณ์สถานการณ์น้ำได้แม่นยำขึ้น เพื่อจะได้รู้เท่าทันเหตุการณ์ สามารถวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ได้ทันที ซึ่งปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงเร็วคาดเดาไม่ได้เราจึงต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่เสมอ” รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าว.
|
Update : 28/6/2554
|
|