เกษตรทฤษฎีใหม่ที่นิคมสหกรณ์พระร่วง

นิคมสหกรณ์พระร่วง จังหวัดสุโขทัย ส่งเสริมพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกร เพื่อครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
   
นายประกอบ เผ่าพงศ์ ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์พระร่วง เปิดเผยว่า นิคมสหกรณ์พระร่วงได้จัดทำโครงการส่งเสริมพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกในนิคมสหกรณ์ได้ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการส่งเสริมให้ความรู้การประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของสมาชิก
   
อาทิ การเลี้ยงปลาดุกบ่อดิน การเลี้ยงปลาดุกในวงบ่อ เพาะเห็ดฟาง นางฟ้าพันธุ์ภูฏาน การทำปุ๋ยชีวภาพ หมูหลุม ข้าวอินทรีย์ การปลูกมะนาวในวงบ่อ เพื่อให้ออกลูกนอกฤดูกาล ทำให้ขายได้ราคาที่สูงกว่าปกติ รวมถึงการลดรายจ่ายในส่วนของปัจจัยการผลิต โดยการผลิตปุ๋ยชีวภาพ และผลิตสารกำจัดแมลงและศัตรูพืชใช้เอง
   
นิคมสหกรณ์พระร่วงมีพื้นที่กว่า 6 หมื่นไร่ ซึ่งในอดีตเป็นพื้นที่รกร้างและแห้งแล้ง แต่หลังจากมีการจัดสรรที่ดินในรูปของนิคมสหกรณ์ให้แก่ราษฎรผู้ยากจนไร้ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้มีที่ดินเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัว ส่งผลให้ปัจจุบันมีราษฎรอาศัยอยู่ภายในนิคมกว่า 3,000 ราย
   
และได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาได้ด้วยการประกอบอาชีพตามที่นิคมสหกรณ์พระร่วงได้ส่งเสริม ซึ่งได้จัดทำเกษตรทฤษฎีใหม่เป็นตัวอย่างให้สมาชิกนิคมฯ นำไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพ โดยจะเน้นการผลิตเพื่อการบริโภคก่อน หากเหลือก็จะนำไปจำหน่าย และแบ่งรายได้ที่ได้มาเป็นเงินออม ขณะนี้โดยเฉลี่ยแล้วสมาชิกมีรายได้จากการประกอบอาชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประมาณ 45,000-50,000 บาทต่อปี
   
ดังกรณีของนางเสวย ภู่เอี่ยม สมาชิกสหกรณ์ ที่ได้เข้าร่วมโครงการและทำเกษตรทฤษฎีใหม่มาอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากหมู่สมาชิกให้เป็นครูภูมิปัญญาสาขาเกษตรกรรม มีรายได้อย่างแน่นอนสามารถเลี้ยงครอบครัวและมีเก็บเพื่อใช้ในยามชรา
   
นางเสวย ปัจจุบันอายุ 52 ปี ได้ใช้พื้นที่อยู่อาศัยของตนเป็นที่ทำการของศูนย์ถ่ายทอดให้กับเกษตรกรในพื้นที่อื่น ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้วิถีการดำรงชีพตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ ควบคู่กับการเป็นแหล่งฝึกงานของเยาวชนในพื้นที่ ที่ตลอดเวลาจะเดินทางเข้ามาศึกษาเรียนรู้การทำการเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
   
“ในช่วงที่โรงเรียนปิดภาคเรียน ทางอาจารย์ของโรงเรียนจะเข้ามาติดต่อขอให้เด็กนักเรียนเข้ามาฝึกงาน ซึ่งการฝึกงานทุกคนจะทำทุกอย่าง ตั้งแต่การทำปุ๋ยหมัก การเพาะเห็ด การทำนา ไปจนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เช่นข้าวกล้อง ข้าวสารอินทรีย์ เพาะเห็ด ทุกคนที่เข้ามาจะพักอยู่ที่นี่กินที่นี่เมื่อฝึกเสร็จกลับไปก็จะมีเงินซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ร่วมกันทำในช่วงฝึกงานด้วย” นางเสวย กล่าว
   
นับเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการขยายผลงานเพื่อการพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ของนิคมสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.