หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/47

    ตอนที่ ๖๓ อภิเษกหัสไชย

                กล่าวถึงสุดสาครคุมเรือราชสารของเมืองลังกาและเมืองผลึกไปถึงเมืองการะเวก เข้าเฝ้าพระบิตุเรศเจ้าเมือง ทูลเล่าความจริงทุกสิ่งอัน แล้วถวายบรรณาการกับสารตรา

      พระทราบข่าวราวเรื่องว่าลูกรัก สำราญรักพร้อมกันก็หรรษา
    จึงตรัสสั่งพระศรีภูริปรีชา คลี่สาราเรื่องสารออกอ่านความ
    ฯลฯ
                ในสารมีความว่า เจ้าเมืองผลึกไปปราบศึก พระหัสไชยได้ไปช่วยและได้ทูลขอน้องสองธิดา ฝ่ายองค์ละเวงขอให้จัดงานวิวาห์ที่เมืองลังกา
    มอบประเทศเขตแคว้นแสนสมบัติ ให้พระหัสไชยครองกับสองศรี
    มารวมล้อมพร้อมอยู่สามบุรี ด้วยเปรมปรีดิ์ปรารถนาวิวาห์การ
    หนึ่งนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลมิ่ง ก็เป็นหญิงยากแค้นแสนสงสาร
    ซึ่งบิดพลิ้วกริ้วโกรธจงโปรดปราน ขอประทานโทษธิดาได้ปรานี
    ฯลฯ
                แล้วขอเชิญเจ้าพาราการะเวกไปช่วยอภิเษก บรรดาเหล่ากอทั้งหน่อนาถและราชบุตรีของสามเมืองร่วมใจกันเหมือนเป็นบิตุรงค์ พอจบสารแล้วเจ้าเมืองการะเวกก็ตรัสว่าจะไปช่วยเชิดชูพระเดชของพระเชษฐา จึงให้จัดเรือสิบห้าลำพาข้างหน้าข้างในไปด้วย แล้วไปบอกพระมเหสีให้ทราบเรื่อง
      นางนบนอบตอบว่าลูกฝาแฝด จะติดแปดเป็นบุตรีสุนีสา
    แล้วสั่งเหล่าสาวสวรรค์ฝูงกัลยา ให้ตรวจตราเครื่องอ่านเตรียมการไว้ ฯ
                ออกเดินทางมาเดือนหนึ่งถึงฝั่งเกาะลังกา พระสุดสาครเชิญขึ้นเดินทางจากเมืองใหม่ตรงเข้าดงดอนเป็นเวลาเจ็ดวันถึงวังลังกา
      ฝ่ายองค์พระอภัยวิไลลักษณ์ กับสองอัครชายามารศรี
    พระน้องหน่อวรนาถราชบุตรี ไปคอยรับประทับที่ทวารา
    ฯลฯ
      ฝ่ายลูกสาวเจ้าลังกาเกณฑ์ฝรั่ง แต่งโต๊ะตั้งเลี้ยงกษัตริย์ล้วนจัดสรร
    กับข้าวแขกแทรกเนื้อแพะผัดน้ำมัน มัสมั่นข้าวบุหรี่ลู่ตี่โต
    กับข้าวไทยใส่ต้มส้มแกงต้มขิง นกคั่วปิ้งยำมะม่วงด้วงโสน
    แกงปลาไหลไก่พะแนงแกงเทโพ ผัดปลาแห้งแตงโมฉู่ฉี่มี
    รมจักรนัคเรศวิเสทเจ๊ก ต้มตับเหล็กเกาเหลาเหล้าอาหนี
    เป็ดไก่ทอดม้าอ้วนล้วนตัวดี แกงร้อนหมี่หมูต้มเค็มใส่เต็มจาน
    ฯลฯ
    อันเรื่องราวกล่าวสี่บุรีพร้อม มารวมรอมอยู่ลังกามหาสวรรค์
    ฝ่ายทรงยศทศวงศ์จอมพงศ์พันธุ์ ปรึกษากันเสกสมสยมพร ฯ
      ฝ่ายองค์อัครชายาเมืองการะเวก ขออภิเษกเสาวคนธ์วิมลสมร
    ด้วยเป็นที่พี่ยาให้ถาวร ครองนครเขตฝรั่งอยู่ลังกา
    ให้หัสไชยไปลบำรุงการะเวก สองบุตรีอภิเษกเป็นซ้ายขวา
    ต่างยินยอมพร้อมกันจำนรรจา ให้โหรหาฤกษ์ยามตามโบราณ
    ฯลฯ
    ครั้นจัดแจงแต่งทำแล้วสำเร็จ กำหนดเสร็จเจ็ดค่ำจะทำขวัญ
    ฝ่ายกษัตริย์ขัตติย์วงศ์เผ่าพงศ์พันธุ์  มาพร้อมกันอยู่ที่มณฑลพิธี ฯ
      ส่วนโอรสบิตุรงค์ช่วยทรงจัด ให้ทรงเครื่องเรืองจำรัสรัศมี
    ฝ่ายสามองค์นงนุชพระบุตรี พระชนนีทรงเครื่องให้เรืองรอง
    ฯลฯ
    สุดสาครเสาวคนธ์วิมลสร้อย ให้เกี่ยวก้อยประหวัดพระหัตถา
    พระหัสไชยให้พระน้องสองสุดา เกี่ยวก้อยขวาก้อยซ้ายฝ่ายละคร
    ฝ่ายโยคีชีพราหมณ์รามราช สำรวมศาสตร์อิศโรสโมสร
    สวดพิธีอภิรมย์สยมพร ให้ถาวรสืบกษัตริย์สวัสดี
    ฯลฯ
    ปุโรหิตติดแว่นวิเชียรเทียน จุดเพลิงเวียนวงซ้ายไปฝ่ายขวา
    โหมพิณพาทย์ฆาตฆ้องก้องลังกา แตรฝรั่งบั้งกล่ากลองมลายู ฯ
      เป็นสำเร็จเสร็จภิเษกเอกกษัตริย์ ประดิพัทธ์ภิญโญสโมสร
    เสาวคนธ์มณฑาสุดสาคร พ้นโทษกรณ์อยู่บำรุงกรุงลังกา
    พระหัสไชยได้สองพระน้องนาฎ เป็นคู่ชมสมมาดปรารถนา
    พาน้องน้อยสร้อยสุวรรณจันทร์สุดา ไปพาราการะเวกเป็นเอกองค์ ฯ

    ตอนที่ ๖๔ พระอภัยมณีออกบวช

      ศรีสุวรรณนั้นคะนึงถึงนิเวศน์ ทูลลาเชษฐาตามความประสงค์
    แล้วเชิญองค์ทรงยศท้าวทศวงศ์ ไปดำรงรมจักรนัครา
    แต่องค์พระอภัยมิได้เสด็จ ด้วยไม่เสร็จศึกขบถโอรสา
    ซ้ำสองนางต่างขัดพระอัชฌา แต่ตรึกตราอารมณ์ให้ตรมตรอม
    ฯลฯ
      ฝ่ายสองนางว่าสงสารพระผ่านเกล้า ต่างเข้าเฝ้าทูลถามตามประสงค์
    ทูลกระหม่อมผอมซูบทั้งรูปทรง ขอพระองค์จงประทานอาการประชวร ฯ
      พระฟังคำชำเลืองค้องเคืองขัด มิได้ตรัสตอบความทรามสงวน
    ครั้นถามซ้ำทำว่าชะเจ้ากระบวน อย่ามากวนเซ้าซี้ที่นี่เลย
    ฯลฯ
    พระห็นนางข้างสุวรรณบรรจถรณ์ ชำเลืองค้อนโฉมฉายทั้งซ้ายขวา
    ค่อยเคลื่อนคลายหายสั่นจึงบัญชา แม่นางมาลีนะนางละเวง
    แกล้งเป็นหมอคอเดียวกันเจียวเจ้า ใครเชิญเล่าเข้ามารุมกันคุมเหง
    สารพัดขัดคำไม่ยำเกรง วาสนาข้าเองมันอาภัพ
    ฯลฯ
      ฝ่ายวัณฬามาลีศรีสวัสดิ์ เห็นกริ้วตรัสกราบยุคลบนบรรจถรณ์
    อย่าปลดเปลื้องเคืองขัดถึงตัดรอน มีโทษกรณ์เป็นไฉนตรัสให้ฟัง
    ธรรมดาข้ากับเจ้าเหมือนเขาว่า เมื่อเต็มขาแล้วจะได้รับใส่หลัง
    ฉันโฉดเชลาเบาจิตแม้ผิดพลั้ง โปรดสักครั้งหนึ่งก่อนพอสอนใจ
    ฯลฯ
      พระอภัยใจหวิวให้หิวโหย ทั้งแรงโรยร้อนโรคเศร้าโศกศัลย
    จึงว่าน้อยหรือคำช่างรำพัน พูดกระนั้นกระนี้พิรี้พิไร
    ลืมแล้วหรือถือตัวให้ผัวง้อ ช่างถูกคอคืนคำทำไถล
    สารพัดขัดขวางจืดจางใจ เดี๋ยวนี้เล่าเจ้าก็ไม่ได้เป็นเมีย
    จริงนะจะตรวจน้ำคว่ำกระโหลก แม้หายโรคเจ็บปวดจะบวชเสีย
    อย่าย้อนยอกหลอกล้อเฝ้าคลอเคลีย มิใช่เบี้ยพอปากจะมากความ ฯ
      นางฟังคำร่ำตรัสที่ขัดขวาง ทั้งสองนางต่างสะเทิ้นคิดเขินขาม
    จึงว่าพระจะผนวชจะบวชตาม อย่าห้ามปรามโปรดข้าฝ่าละออง
    ฯลฯ
    ให้สาวใช้ไปเชิญสินสมุท พระราชบุตรทรงศักดิ์มารักษา
    นางสาวใช้ไปแถลงแจ้งกิจจา พระรับมาหมอบเฝ้าสองเยาวมาลย์
    ฯลฯ
      ฝ่ายองค์พระอภัยตื่นไสยาสน์ เห็นหน่อนาถราชบุตรสุดสงสาร
    ตรัสบอกโรคโศกศัลย์สั่นสะท้าน  เบื่ออาหารหิวโหยให้โรยรา ฯ
                พระสินสมุทคอยปรนนิบัติพระบิดา จนอาการโรคโศกเศร้าค่อยเบาบาง คิดเคืององค์วัณฬา สุมาลี จะออกไปถือเป็นฤาษีพอสามเดือนผ่านไป ทั้งสองนางพากันมาเฝ้า พระองค์จึงตรัสกับทั้งสองนางว่า ทั้งสองนางต่างก็มีเมืองครอบครองแล้ว ทั้งเงินทองประยูรยศ ก็มีอยู่พร้อมจะปรารถนาสิ่งใดก็ได้หมด ตัวพระองค์นั้น จะไปอยู่ป่าเขาเพื่อบรรพชารักษาพรหมจรรย์
    ด้วยชาตินี้วิบัติให้พลัดพราก เหลือวิบากยากแค้นนั้นแสนสา
    จะสืบสร้างทางกุศลผลผลา เมื่อชาติหน้าอย่าให้เป็นเหมือนเช่นนี้ ฯ
      ทั้งสองนางต่างแถลงว่าแกล้งตรัส ไม่ทานทัดทูลสนองทั้งสองศรี
    ขอตามติดคิดคุณพระมุนี  เป็นหลวงชีปรนนิบัติด้วยศรัทธา
    ฯลฯ
      พระฟังนางพลางว่าแม่ปลาช่อน  งอนจริงจริงยิ่งกว่าช้อนกว่างอนไถ
    หาหนังเสือเหลือยากลำบากใจ แล้วก็ไม่สู้ดีเหมือนชีเปลือย
    พูดด้วยยากปากกล้าสมาบาป เป็นกิ่งกาบหลาบเข็ดเหลือเหน็ดเหนื่อย
    ดูเลี้ยวลดคดคู้เหมือนงูเลื้อย พูดไม่เมื่อยลูกคางต้องกางกัน
    ไม่รักของ้อผู้หญิงจริงจริงนะ สิ้นธุระก็จะสร้างทางสวรรค์
    แล้วให้หาข้าเฝ้าเหล่าพงศ์พันธุ์ มาพร้อมกันสินสมุทสุดสาคร ฯ
                แล้วองค์พระอภัยก็ออกผนวชเป็นดาบส สมาทานศีลห้า และประทานเทศนาตามบาลี
    จงหวังพระปรมาศิวาโมกข์ เป็นสิ้นโศกสิ้นสุดมนุษย์สวรรค์
    เสวยสุขทุกเวลาทิวาวัน เหลือจะนับกัปกัลป์พุทธันดร
    แต่บรรดามาฟังอยู่ทั้งสิ้น จงถือศีลภิญโญสโมสร
    สินสมุทเจ้าจงพาพลากร ไปถิ่นฐานนันดรแต่ก่อนมา ฯ
      ฝ่ายนงลักษณ์อัคเรศครั้นเทศน์จบ เจียนสลบด้วยเห็นขาดวาสนา
    พระทรงศีลสิ้นเสร็จไม่เมตตา ต่างโศกากอดบาทไม่คลาดคลาย
    ต่างทูลว่าข้าขอบรรพชิต พอเป็นศิษปสาพิภักดิ์สมัครหมาย
    แม้เลยละจะขอเชือดคอตาย สู้ถวายชีวาไม่อาลัย
    ฯลฯ
                พระฤาษีได้ฟังก็มีจิตสงสาร จึงตรัสถามทั้งองค์วัณฬา สุมาลีว่า พระองค์ได้ตัดญาติขาดมิตรแล้ว ถ้าทั้งสองนางคิดจะสร้างพรตบวชเป็นดาบสนี ก็ขอให้อย่ายินดี พัวพันกับความเป็นผัวของพระองค์
    ไปเที่ยวอยู่ภูเขาลำเนาถ้ำ ถือศีลธรรมบำเพ็ญเบญจขันธ์
    สมมติเหมือนเพื่อนจงกรมพรหมจรรย์ ให้แม่นมั่นสัญญาจะพาไป ฯ
      ทั้งสองนางน้อมคำนับรับคำสั่ง เป็นสัจจังยังไม่เสื่อมที่เลื่อมใส
    พระประโยชน์โพธิญาณประการใด จะตามใต้บาทาสารพัน
    ฯลฯ
      พระฟังคำร่ำว่าสาพิภักดิ์ เห็นพร้อมพรักรักพระองค์ก็สงสาร
    สิ้นแสนงอนอ่อนพยศจึงพจมาน โปรดประทานโทษให้เหมือนใจจง ฯ
                แล้วทั้งสองนางก็ลามาตึกประทับ ทรงเครื่องพรตของดาบสนีแล้ว ไปรับศีลห้าจากพระอภัย
      ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลสมร สินสมุทสุดสาครโอรสา
    ดูปิตุรงค์สงสารทั้งมารดา จะกลับไกลไปป่าเหลืออาลัย
    ฯลฯ
      สินสมุทสุดเศร้าว่าเปล่าจิต  เคยตามติดปิตุเรศทุกเขตขัณฑ์
    กำพร้าแม่เห็นแต่องค์พระทรงธรรม์ ทุกคืนวันเวลาไม่อาวรณ์
    ฯลฯ
    สุดสาครอ่อนแรงกันแสงสะอื้น สู้กล้ำกลืนกราบประณตบทศรี
    ทูลกระหม่อมจอมจังหวัดปถพี เคยเป็นที่พึ่งลูกคิดผูกพัน
    ฯลฯ
    ทั้งนงเยาว์เสาวคนธ์ให้อ้นอั้น พลอยโศกศัลย์เศร้าหมองไม่ผ่องใส
    สะอื้นร่ำพร่ำว่าด้วยอาลัย พระจะไปป่าหนามทั้งสามองค์
    ฯลฯ
    แล้วกราบลงตรงบาทพระปิตุเรศ ชลเนตรพรั่งพรายทั้งซ้ายขวา
    ฝ่ายฝูงนางข้างฝรั่งเมืองลังกา นางรำภายุพาสุลาลี
    เคยพึ่งพาอาศัยใจจะขาด เข้ากอดบาทนางวัณฬามารศรี
    เจ้าประคุณบุญญาบารมี เคยเป็นที่พึ่งฝรั้งทั้งลังกา
    ฯลฯ
    ข้าทั้งสามจะขอตามเสด็จด้วย จนมอดม้วยเหมือนหมายไม่หน่ายหนี
    ขอบวชบ้างอย่างเช่นพระเป็นชี อยู่ข้างที่รับใช้เหมือนได้เคย
    ฯลฯ
    นางละเวงเกรงผัวกลัวจะกริ้ว จึงนบนิ้วทูลแจ้งแถลงไข
    นางฝรั่งทั้งสามจะตามไป จงโปรดให้บวชบ้างเป็นนางชี
    จึงตรัสว่านารีที่มีผัว จะบวชตัวก็ต้องเหมือนทาสี
    แม้ผัวยอมพร้อมใจเป็นไรมี บวชเป็นชีก็จะได้ดังใจจง ฯ
      ยุพาฟังบังคลสมถวิล ทูลลาสินสมุทตามความประสงค์
    จะบวชตามสามกษัตริย์ขัตติย์วงศ์ ขอพระองค์อนุกูลอย่าสูญใจ
    หน่อกษัตริย์ตรัสว่าจะลาบวช ข้ามิชวดแล้วหรือถือไฉน
    อยู่ดีดีนี่จะมาขอลาไป ข้ามิให้บวชดอกบอกจริงจริง
    ฯลฯ
      ฝ่ายลีวันนั้นทูลลาสุดสาคร ชลีกรวอนว่าอัชฌาสัย
    อย่าข้องขัดทัดทานประการใด จงโปรดให้บวชตามสามพระองค์
    ฯลฯ
    สุดสาครวอนว่าลาลีเอ๋ย อย่าเพ่อเลยหลีกผัวเอาตัวหนี
    ถ้าลูกมีทีหลังเป็นอย่างนี้  จึงเป็นชีเถิดไม่ห้ามตามใจนาง ฯ
      ฝ่ายรำภาสะหรีชลีสนอง ซึ่งพี่น้องสองกษัตริย์ยังขัดขวาง
    ข้าน้อยนี้มีแต่ตัวลูกผัวร้าง ขอบวชบ้างทางกุศลผลผลา
    พระอภัยได้ฟังว่ายังขัด ด้วยผัวเจ้าเขาไม่ตัดเสน่หา
    ยังหวงแหนแม้นจะรับบรรพชา ไม่เป็นดาบสซ้ำเป็นกรรมไป ฯ
                พระอภัยตรัสว่า พรุ่งนี้จะออกไปอยู่ป่าตามบาลี สินสมุทกับสุดสาครขออาสาไปสร้างศาลา พระอาศรมให้เป็นที่พัก
      พระฟังว่ากล้าหาญการกุศล รับนิมนต์จึงว่าตามความประสงค์
    เหมือนอินทรามานิมิตด้วยฤทธิรงค์ ที่เขาวงกตถวายก็คล้ายกัน
    ฯลฯ
    จึงปลูกบรรศาลาก่ออาศรม ที่รื่นร่มรุกโขรโหฐาน
    โรงฉันที่สรงน้ำริมลำธาร เป็นชั้นชานชะวากเหมือนฉากบัง
    ฯลฯ
      พอเดือนยี่สี่ค่ำนำพระบาท ทรงรถราชญาติวงศ์ตามส่งหมด
    เป็นสิ้นความสามพระองค์อยู่ทรงพรต ที่บรรพตสิงคตรดุจนิมนต์
    ยอดคีรีมีต้นโรทันใหญ่ น้ำปลายใบหยดย้อยเหมือนฝอยฝน
    ครั้นแสงแดดแผดส่องต้องมณฑล เป็นหมอกมนมีอยู่แต่บุราณ
    ด้วยคีรีนี้เป็นหลักลังกาทวีป ยอดเหมือนกลีบจงกรมมณฑลสถาน
    ครั้นถึงสิบห้าวันก็บันดาล เป็นฝนซ่านโซมสาดไม่ขาดคราว
    โซ่เหล็กล่ามสามสายฝ่ายเหนือใต้ ต่างกระไดปีนป่ายเหนี่ยวสายสาว
    จึงนับถือลือเลื่องเป็นเรื่องราว มีรูปเจ้าสิงคุตร์สุดคิริน
    เมื่อแรกตั้งลังกาลงมาเกิด กล่าวกำเนิดน่าฟังหวังถวิล
    ว่ารูปทรงองค์สิงคตรบุตรพระอินทร์ ดำเหมือนนิลกินถั่วงากินสาคู
    ครั้นสิ้นเหล่าชาวลังกาจึงฝรั่ง ยกมาตั้งทั้งเจ๊กจีนจึงกินหมู
    แต่ก่อนเขาเล่ามาถึงเราจึงรู้ เท็จจริงอยู่กับผู้เฒ่าที่เล่ามา
      พระอภัยไปตั้งหลังบรรพต รักษาพรตพรหมจรรย์ด้วยหรรษา
    รำภาสะหรีลีวันยุพาผกา คุมโยธาฝรั่งอยู่ทั้งพัน
    เก็บส้มสูกลูกไม้เผือกมันมั่ง ถวายทั้งสามองค์ให้ทรงฉัน
    เป็นป่ากว้างทางเดินเนินอรัญ ไปสามวันจึงถึงวังเมืองลังกา
    สินสมุทไปบำรุงกรุงผลึก ไปปราบศึกสืบวงศ์เผ่าพงศา
    สุดสาครเสาวคนธ์สุมณฑา ครองลังกาผาสุกสนุกสบาย
    พวกทมิฬกินปักษาชื่อวาโหม ไปพาราวาโหมส่งโสมถวาย
    ทหารใหญ่อ้ายย่องตอดนั้นวอดวาย  นางสุนีหนีกายสูญหายไป ฯ

    .........................................................



    • Update : 18/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch