หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/45

    ตอนที่ ๖๐ พระอภัยมณีรบกับมังคลา

                พระหัสไชยเดินทางไปถึงกรุงลังกา เข้าไปในวังได้พบกษัตริย์ทุกองค์ต่างก็ดีพระทัยเมื่อพบกันกับพระบุตรี สร้อยสุวรรณ จันทร์สุดาก็มีความอาลัยสงสารกัน และกันยิ่งนัก จนซบสลบลงทั้งสามองค์ เมื่อหมอแก้ไขให้ฟื้นขึ้นมาแล้ว ต่างก็เล่าความตามเรื่อง ที่เคืองขัด จากนั้นก็ให้พระหัสไชยอ่านเรื่องในสารมีความว่า เมื่อพระอภัยได้ครองเมืองลังกา มีองค์วัณฬาร่วมสุวรรณบรรจถรณ์ จนเกิดราชโอรส แต่กลับผ่าเผ่าเหล่ากอ เป็นทรชนเหมือนลูกยางห่างต้น เที่ยวปล้นเมืองให้เป็นที่เดือดร้อน จับสามเมืองมาขังไว้ยังเมืองลังกา

    หากพระน้องครองสัตย์บรรทัดเที่ยง ไม่รักเลี้ยงลูกจระเข้เสน่หา
    จึงเชิญองค์พงศ์กษัตริย์ขัตติยา ไปไว้วังลังกาพยาบาล
    ถึงโทษบุตรทุจริตทำผิดเหลือ เป็นหน่อเนื้อนวลหงส์ก็สงสาร
    ช่วยว่ากล่าวน้าวโน้มประโลมลาน ให้ลูกหลานคิดคงเป็นพงศ์พันธุ์
    ฯลฯ
    ฝ่ายพวกพี่มิใช่แม่เป็นแต่พ่อ  จึงรั้งรอการศึกมาปรึกษา
    แม้คิดเห็นเป็นธรรม์เชิญวัณฬา ยกโยธามากระหนาบช่วยปราบปราม
    ฯลฯ
      นางฟังจบนบนอบเห็นชอบด้วย จะไปช่วยเข่นฆ่าให้อาสัญ
    แล้วจะเถือเนื้อพะแนงเที่ยวแบ่งปัน ให้พงศ์พันธุ์พ่อแม่กินแก้แค้น
    ฯลฯ
    แล้วทูลสั่งสุมาลีศรีสวัสดิ์ ทั้งกษัตริย์หัสไชยอยู่ไอศวรรย์
    แต่รำภายุพาลาลีวัน ไปด้วยกันจะได้คิดเรื่องกิจการ
    ฯลฯ
    พระหัสไชยให้สำหรับบังคับขาด ตามประกาศกฎหมายอยู่ภายหลัง
    ใครขัดขวางล้างชีวาเสียอย่าฟัง พลางตรัสสั่งหัสเกนเวรศาลา
    ฯลฯ
                ให้จัดโยธีสี่ทัพสมทบทัพละหมื่นล้วนปืนผา อำมาตย์รับรับสั่งวิ่งออกไป เตรียมพลสกลไกรให้ลาลีวันเป็นทัพหน้า นางยุพาเป็นทัพกลาง อยู่พร้อมกับองค์ละเวง นางรำภาเป็นทัพหลัง ออกเดินทัพไปคืนหนึ่งถึงด่านเขาเจ้าประจัญ นางลาลีวันทัพหน้าจึงให้
    ร้องเรียกคนบนเชิงเทินเนินหอรบ มานอบนบอยู่ตรงหน้านางปราศรัย
    จงเปิดรับทัพเสด็จจะด่วนไป ช่วงชิงชัยให้แผ่นดินสิ้นสงคราม ฯ
                พวกในด่านแบ่งออกเป็นสองพวก พวกหนึ่งเป็นขุนนางเก่าเข้าข้างองค์วัณฬา ด้วยเป็นข้ามาแต่ก่อน อีกพวกหนึ่งเข้าข้างพระมังคลา เกิดขัดแย้งรบกันเอง พวกพระมังคลาสู้ไม่ได้หนีเข้าป่าไป พอทัพหลังขององค์วัณฬากับนางรำภาผกา มาถึงนางลาลีวันก็มารับเข้าไปในด่าน
                ฝ่ายพวกฝรั่งหนีจากด่านมาถึงค่ายรบทางในป่า ก็เข้าไปเฝ้าเจ้าลังกาทูลความให้ทราบ
    กราบทูลความตามที่ชนนีนาถ มาถอดราชโอรสจากยศถา
    ขุนนางเก่าเขาไม่ขัดพระอัธยา แต่พวกข้าคนใหม่มิให้รับ
    ฯลฯ
                เมื่อเกิดต่อสู้กันฝ่ายตนสู้ไม่ได้ จึงแตกพลัดกระจัดกระจายมา
      ฝ่ายฝรั่งมังคลานุชาหลาน เห็นเกิดการเกินคาดประมาทหมาย
    ยิ่งแสนแค้นแสนสลดเหลืออดอาย มากลับกลายกลางศึกเหลือตรึกตรอง
    แต่พ่อมาราวีแล้วมิหนำ แม่ยังทำซ้ำเข็ญให้เป็นสอง
    เหลือดีแท้แม่พ่อเราหนอน้อง จะรับรองรบราญประการใด ฯ
      วลายุดา วายุพัฒน์คิดขัดขวาง แค้นสี่นางอย่างว่าเลือดตาไหล
    สะอื้นอั้นตันตึงตะลึงตะไล พอม้าใช้ชาวด่านดงตาลมา
     
                แล้วกราบทูลว่าแปดทัพเมืองผลึกที่ขังไว้ในค่ายนั้น ได้กลับฟื้นคืนมา แล้วกลับเข้ารายล้อมป้อมปราการ พระหัสกันกำกับการรบอยู่แต่เหลือกำลัง ขอให้ส่งกำลังทหารไปช่วยรบ
                พระมังคลาได้ฟังก็อัดอั้นอารมณ์จนลมจับ เมื่อหมอแก้ไขให้ฟื้นแล้วก็คิดถึงศึกที่จะชิงเอาสิงหล แล้วให้ไปเชิญผู้วิเศษมาแจ้งเรื่องเคืองรำคาญว่า
    พระมาตุรงค์ลงมาเป็นข้าศึก สมทบกับทัพผลึกเห็นฮึกหาญ
    ท่านโปรดด้วยช่วยคิดกิจการ เอาถิ่นฐานที่ตั้งเมืองลังกา
      ส่วนผู้รู้วิเศษเห็นเหตุใหญ่ ผิดวิสัยในมนุษย์สุดอาสา
    จะสู้พ่อต่อต้านผลาญมารดา จะนินทาทั่วจังหวัดปัถพี
                จึงทูลห้ามไว้ว่าแต่ปางก่อน บิดามารดาเป็นราศี ไม่ควรรบด้วยแต่ควรนบนอบจึงจะชอบ
    จะรบพุ่งมุ่งหมายทำลายล้าง ผิดเยี่ยงอย่างควรจำบาปกรรมหนา
    ทุกแว่นแคว้นแดนดินจะนินทา แม้คิดฆ่าแม่พ่อเหมือนทรยศ
    ฯลฯ
                พระมังคลาได้ฟังก็คัดเคือง จึงสั่งให้จับสี่คนผู้วิเศษไปจำไว้
    เหมือนพวกมึงพึ่งพาเข้ามาอยู่ คิดว่าผู้วิเศษเป็นเปรตผี
    ให้แพ้เขาเอาสิเหวยเฮ้ยเสนี จับอ้ายสี่คนจำตรากตรำไว้
    ฯลฯ
                เมื่อได้ฤกษ์ทัพให้จับมัดตัดศีรษะเสีย ตำรวจเข้ามารับจับตัวไปใส่โซ่ตรวนเต็มตัวทุกคน ครั้นเสร็จสรรพผู้วิเศษกลับหายไป จึงเข้าไปทูลความแก่พระมังคลา พระมังคลาได้ฟังกลับได้คิดว่าได้ทำผิดกับผู้วิเศษ แล้วยิ่งมานะที่จะทำสงคราม จึงสั่งความพวกหมื่นขุนพวกมูลนาย ให้พาไพร่พลลอบเข้าไปในด่านเขาเจ้าประจัญ เพื่อเมื่อยกไปตีจะได้โดยง่าย
                ฝ่ายขุนนางรับคำแล้วก็เข้าไปในด่านเขาเจ้าประจัญ ไปหาพวกพ้องแล้วพาเข้าเฝ้า องค์ละเวงกับมาตุรงค์ของสามองค์ ได้ปรึกษากันแต่สารเตรียมการไว้ ให้ม้าใช้ไปหาวาโหม
    ให้ม้าใช้ไปหาเจ้าวาโหม พูดเล้าโลมเล่าแจ้งแถลงไข
    บอกเรื่องความตามกษัตริย์หัสไชย รับสั่งให้ไปเฝ้าพระเสาวนีย์ ฯ
                วาโหมได้รับทราบแล้ว ไปด่านเขาเจ้าประจัญเฝ้าองค์วัณฬา พระนางเห็นวาโหมแล้ว
    จึงออกโอษฐโปรดประทานพานพระศรี ให้นั่งที่โอรสสมยศศักดิ์
    นางแย้มยิ้มพริ้มพรายภิปรายทัก เจ้ารู้จักกันไว้ได้ไปมา
    ฯลฯ
                ตรัสว่าพระหัสไชยให้ถือหนังสือลับ ไปกองทัพพระอภัยแล้วมอบสารให้ วาโหมรับสารแล้วทูลว่า ถ้าองค์ละเวงประสงค์ใดแล้วขอให้บัญชาใช้มา ตนจะรับปฎิบัติไม่ขัดขวาง แล้วทูลลาออกเดินทางไปยังด่านสะพานยนต์ ให้เสนาการะเวกระวังด่านไว้
      ฝ่ายกษัตริย์หัสไชยฤทัยชื่น ทุกค่ำคืนเคียงนางไม่ห่างเหิน
    สุมาลีมิได้ห้ามปล่อยตามเกิน ร่ำสรรเสริญเพลินตรัสกับหัสไชย
    ฯลฯ
                ส่วนวาโหมเดินทางไปถึงป่าตาล เข้าไปเฝ้าพระอภัยถวายสาร  พระอภัยอ่านสารมีความว่า โอรสคือพระมังคลา ไม่เหมือนกับฝรั่งทั้งลังกาได้ทำหยาบหยาม ลวนลามญาติวงศ์พงศา ไปตีทัพจับกษัตริย์มากักขังไว้ พระนางตามไปขอก็ไม่ให้ ตอนนี้ได้สองท้าวกับพี่นางพร้อมทั้งสองพระธิดา มาถนอมไว้ในวังลังกา ต่อเมื่อพระหัสไชยไปแจ้งเรื่องให้ทราบ จึงทราบว่าองค์พระอภัยคุมพลมา จึงมีความยินดีขอให้ช่วยแก้คดของโอรสด้วย
    พวกฝรั่งมังคลารักษาด่าน ออกต่อต้านทานรับที่ขับขัน
    สุลาลีตีได้เขาเจ้าประจัญ เข้าตั้งมั่นกั้นหลังข้างลังกา
    ขอพระองค์จงเข้าตีตัดศีรษะ เป็นของพระปิตุราชนาถนาถา
    อันพวกพ้องของหม่อมฉันเป็นมารดา จะแล่ผ่าอกล้วงเอาดวงใจ
    จะได้ส่งองค์พระมเหสี คืนบุรีร่วมห้องให้ผ่องใส
    ข้าทั้งสี่นี้จะช่วยกันอวยชัย สิ้นห่วงใยอยู่ประสาเป็นนารี ฯ
    พอจบคำรำพันเหลือกลั้นสรวล ทั้งสำนวนรู้เล่ห์มเหสี
    พระอนุชาว่าถึงหึงก็ดี ไม่เหมือนพี่นางผลึกเหลือครึกโครม
    ฯลฯ
                แล้วพระอภัยจึงสั่งให้วาโหม ไปอยู่กำกับทัพเมืองวาหุโลม คอยรบรับระวังทางด้านเมืองลังกา ให้พระอนุชาศรีสุวรรณเป็นทัพหน้า สินสมุทเป็นทัพหนุน เสาวคนธ์กับสุดสาครคุมกำลังเกียกกาย
    ได้ฤกษ์ดีตีฆ้องมาตกลองศึก ทหารฮึกโห่ลั่นสนั่นเสียง
    ต่างขับไพร่ไล่ล้อมเข้าพร้อมเพรียง ฝรั่งเรียงรายทัพออกรับรบ
    ฯลฯ
                หัสกันเกณฑ์ทหารละหม่าน ห้าพันออกรบรับประจัญบาน
                ฝ่ายบุตรพราหมณ์ตามพระกฤษณา ขับโยธาเมืองรมจักรเข้าตีค่ายฝ่ายลังกา ทัพเมืองผลึกก็ขับโยธาเข้ารุกรบ ร่วมกับทัพเมืองรมจักร หัสกันเผชิญหน้ากับเสาวคนธ์ได้สู้รบกัน หัสกันสู้ไม่ได้ทิ้งม้า แล้ววิ่งหนีไปพาทหารเข้าในด่าน สินสมุทสุดสาครไล่ตามตี พากองทัพหน้าเข้าด่านได้ หัสกันได้ผู้รู้วิชาพาขึ้นม้า ฝ่าหนีไปได้แล้วตรงไปเฝ้าพระมังคลา กองทัพพระอภัยก็เข้าไปในด่านได้
      ฝ่ายพระอนุชานัดดาพาทหาร เข้าตีด่านเจ้าประจัญเสียงหวั่นไหว
    พวกไส้ศึกครึกครื้นจุดปืนไฟ เปิดด่านให้ทัพล้อมเข้าพร้อมเพรียง
    ฯลฯ
                ฝ่ายองค์วัณฬา รำภาสะหรี กับบุตรีหนีเพลิงขึ้นทรงม้า หลบออกไปนอกกำแพง พบไพร่พลโยธาของวายุพัฒน์ เข้ามาสกัดกั้น จึงชวนกันขับม้าหนีไป มีไพร่พลติดตามมาเพียงสี่ร้อย
    พอเดือนดับลับฟ้าในป่ามืด เดินเป็นยืดชักเพื่อนฟั่นเฟือนหลง
    เห็นรางรางนางวัณฬาขับม้าทรง วกเลี้ยวลงไปทางบ้านสะพานยนต์ ฯ
                ฝ่ายวลายุดา วายุพัฒน์ ต่างรีบรัดจะไปชิงเอาสิงหล ออกเดินทัพมีพลทัพละหมื่น ออกเดินทางแต่กลางคืน ให้ไพร่พลจุดคบทุกตัวคน
                ฝ่ายโยธาเมืองการะเวก พร้อมกับวาโหมรักษาป้อมปิดเส้นทางระหว่างภูเขา คอยสืบเรื่องราวข่าวของพวกฝรั่ง พอม้าใช้มาแจ้งว่ากองทัพพระอภัยตีด่านได้ พวกป่าตาลแตกหนีไป อีกพวกหนึ่งมาแจ้งว่า เมื่อตอนเย็นเห็นกองทัพยกไปตีด่านเขาเจ้าประจัญ จึงรีบแต่งองค์ยกพลออกไปได้พบพวกองค์วัณฬาในป่ารัง จึงเข้าไปเฝ้าแล้วทูลถามความ นางเทวีดีใจจึงเล่าให้ฟังว่า  ฝ่ายพระนางเสียด่านและเสียทัพ คิดจะกลับไปวังลังกา ด้วยเกรงว่าข้าศึกจะยกไปชิงเอาสิงหล แล้วถามวาโหมว่ามาทำไมในป่า
      วาโหมทูลมูลความตามรับสั่ง ให้ระวังลังกามหาสวรรค์
    ทราบว่าศึกฮึกโหมเข้าโรมรัน จึงพากันรีบมาช่วยราวี
    ฯลฯ
                แล้วเชิญองค์วัณฬากลับเมืองลังกามีกำลังไพร่พลได้ประมาณสามพัน เป็นกองหน้านำไป
                ฝ่ายหัสกันพาไพร่พลโยธาจากดงตาลไปยังค่ายพระมังคลา เข้าเฝ้าพระมังคลากราบทูลความไปตีได้ด่านเขาเจ้าประจัญ แล้วยกทัพตามไปตีเมืองลังกาก็มีความยินดียิ่งนัก จึงให้ยกทัพไปตั้งที่ด่านเขาเจ้าประจัญ แล้วให้นัดดาหัสกัน จัดทัพไปช่วยรบชิงเมืองลังกา
                ฝ่ายทัพพระอนุชากับวายุพัฒน์ ไปถึงเมืองลังกา จึงให้หยุดทัพไว้ แล้วขับม้าไปหน้ากำแพงแจ้งว่า
    พระปิ่นเกล้าเจ้าลังกาบัญชาใช้  ให้คุมไพร่มาบำรุงชาวกรุงศรี
    เร็วเร็วเถิดเปิดประตูพระบุรี อย่าช้าทีโทษมึงจะถึงตาย ฯ
    ฝ่ายนายกองร้องว่าพระมาตุรงค์ มิให้องค์โอรสถือกฎหมาย
    พระหัสไชยได้ตราว่าไพร่นาย อย่าใกล้กรายกลับไปเสียให้พ้น
    ฯลฯ
                พระอนุชาว่าได้มีการอภิเษกเอกโอรส เป็นที่รู้กันทั้งสิงหล การให้พราหมณ์แขกแปลกภาษาเข้ามาปนนั้น จะพาให้ไพร่พลถึงแก่ชีวิต แล้วร้องบอกว่า
    เหวยฝรั่งพรั่งพร้อมจงยอมเข้า ด้วยปิ่นเกล้าเจ้าลังกานราสรรค์
    ช่วยกันมัดหัสไชยพร้อมใจกัน จะรางวัลเงินทองให้ต้องใจ ฯ
                ฝ่ายพระหัสไชยเมื่อทราบข่าวศึกมาตั้งล้อมเมือง ก็จัดแจงแต่งองค์ออกศึก ขึ้นไปตรวจพลบนเชิงเทิน เห็นทัพฝรั่งตั้งอยู่คับคั่ง จึงเลือกบรรดาเสนานายเป็นเกียกกายซ้ายขวา คุมพลหนึ่งหมื่น พอได้ฤกษ์ก็ยกพลออกไปนอกกำแพง กงอทัพทั้งสองเข้ารบกัน กองทัพวลายุดาแตกพลัดพรายไป พระหัสไชยไล่วายุพัฒน์ไปทัน แล้วฟันจนตกม้า แต่เห็นว่าเป็นพงศ์พันธุ์ ของพระพี่ยาสุดสาครจึงยับยั้งไว้ ไม่ฆ่าฟันทำเพียงสั่งสอน

    • Update : 18/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch