หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/42
    ตอนที่ ๕๖ หัสไชยตีด่านเมืองลังกา

                กล่าวถึงเสวคนธ์กับสุดสาคร คอยฟังข่าวของสองท้าวไทอยู่ พอเรือใช้กลับมาทูลเรื่องฝรั่งลังกายกทัพมาเผาบ้านเมือง เอาเพชรแก้วเก็จไป พร้อมไพร่พลหญิงชายกลับไปสิงหล พระภูวนาถราษฎรได้รับความเดือดร้อนทุกตำบล องค์เสาวคนธ์ได้ทราบก็คั่งแค้นฝรั่งยิ่งนัก สุดสาครก็บอกอย่ารอช้าให้เกณฑ์ไพร่พลวาหุโลม เข้ามาสมทบยกไปรบเมืองลังกา แล้วจัดแจงแต่งหนังสือ ให้ทูตถือไปยังวาโหมเจ้าเมืองวาหุโลม

      เจ้าวาโหมโสมนัสจบหัตถ์รับ เป็นคำนับนับถือพระฤาษี
    แล้วให้อ่านสารว่าพระอัคคี พบพระพี่มาแถลงให้แจ้งการ
    ฯลฯ
                ว่าฝรั่งลังกาบังอาจมารบถึงเมืองการะเวก พระบิดาพระมารดาทั้งวงศ์วาน เดือดร้อนรำคาญไปหมด
    จะสึกออกบอกโยมวาโหมด้วย ยกไปช่วยปราบปรามตามวิสัย
    ทั้งสองเมืองเบื้องหน้าได้มาไป เป็นมิตรไมตรีกันไม่ฉันทา ฯ
      ฝ่ายวาโหมโสมนัสตรัสประภาษ สั่งอำมาตย์มูลนายทั้งซ้ายขวา
    พระอัคคีนี่เราคิดเหมือนบิดา จะอาสาซื่อตรงต่อทรงธรรม์
    ฯลฯ
                แล้วให้จัดพหลพลโยธาได้ห้าหมื่น กับเรือใช้ใหญ่น้อยได้ร้อยเศษไปปราบประเทศลังกา แล้วยกทัพตัดทางไปยังด่านชานสมุทร องค์เสาวคนธ์ต้องแข็งใจ แต่งองค์เป็นอย่างพราหมณ์ ออกไปยังพลับพลาไชยพร้อมพี่ยาสุดสาคร บอกว่าตนต้องลาพรตด้วยจะต้องไปรบฝรั่งเมืองลังกา แล้วแนะนำสุดสาครแก่วาโหม
    พระองค์พี่เราจงเคารพ เลิศลบลือฤทธิ์ทุกทิศา
    เป็นแม่ทัพรับสั่งฟังบัญชา พึ่งพระเดชเชษฐาข้างหน้าไป ฯ
      เจ้าวาโหมโสมนัสไม่ขัดข้อง ประสานสองหัตถ์ประนมบังคมไหว้
    หน่อกษัตริย์ตรัสช่วยอำนวยชัย แล้วปราศัยสนทนาประสาชาย
    ฯลฯ
                แล้ววาโหม ก็รีบออกมาจัดกำลังพลนิกายทั้งซ้ายขวา ให้ลงเรือรบลำละห้าร้อย ให้เจ้าโอรสคุมทหารด่านปากน้ำ สิบห้าลำ ลำละร้อยเป็นกองหน้านำไป
                ฝ่ายพระหน่อสุดสาครกับองค์เสาวคนธ์บอกเรื่องเมืองผลึกว่า ข้าศึกตีเมืองได้แล้วพาองค์พระมเหสีกับพระบุตรีไป ขังไว้เมืองลังกา ก็แค้นใจนัก
    จึงทูลองค์ทรงฤทธิ์ปิตุราช ลูกเป็นชาติเชื้อชายคิดอายเขา
    จะนิ่งให้อ้ายศัตรูมันดูเบา เหมือนหนึ่งเรารับแพ้ไม่แก้แค้น
                แล้วทูลขอพาทหารไปรบ ถ้าหากเพลี้ยงพล้ำแก่ชาวลังกา ก็ขอให้ตัดศีรษะตน พระจอมวังการะเกดได้ฟัง พระลูกรักก็ตรัสว่า พระองค์ไม่ห้ามแต่เตือนว่า อย่าเบาความให้คอยรับทัพเมืองผลึกกับเมืองรมจักร ให้พร้อมกันทั้งสามกองทัพ อย่าประมาทในสงคราม
    จงหยุดทัพยับยั้งบอกหนังสือ ให้ทูตถือมาแจ้งแถลงไข
    ไว้ธุระบิดาไม่นอนใจ จะยกไปไล่ล้างให้วางวาย
    ฯลฯ
                องค์หัสไชยได้ฟังแล้ว บังคมลามารีบจัดพหลพลโยธา เป็นเรือห้าร้อยลำคนประจำลำละร้อย ยกออกจากปากน้ำเมืองการะเกดไป
      เข้าแว่นแคว้นแดนลังกาเป็นฝรั่ง ตระเวณระวังจังหวัดสะกัดกั้น
    ไม่รอรั้งสั่งให้รุกรบบุกบัน ยิงกำปั่นปืนปึงตูมตังตัง
    ฯลฯ
                เรือลังกาต่อต้านแต่มีกำลังน้อยกว่าต้องถอยไป กองทัพเมืองการะเกดก็ไล่ยิงจับได้เรือข้าศึก ได้สองร้อยยี่สิบลำ ก็พอตกพลบค่ำ
      พระหน่อนาถฆาตกลองหยุดกองทัพ ต่างตีรับเรียกกันเข้าบรรจบ
    ทอดสมอรอรั้งตั้งสมทบ ตามขนบนาคราชไม่คลาดคลา
    ฯลฯ
                ฝ่ายฝรั่งลังกาต่างหลีกหลบถอยทัพกันสับสน พวกพลบนบกต่างก็ตื่นตกใจ
    ประจุปืนยืนรายทุกค่ายตั้ง ออกคับคั่งคอยรบจุดคบไสว
    ทุกหมู่หมวดตรวจพลสกลไกร ทั้งนายไพร่พรั่งพร้อมป้อมเสมา
    ฯลฯ
                ฝ่ายพระมังคลา วลายุดากับทั้งวายุพัฒน์ หัสกัน ต่างรู้ว่าข้าศึกมาฮึกหาญตีเรือด่านแตก จึงให้คอยปล่อยปืนกะปิตัน ยิงกำปั่นเชิ้อไฟให้จมไป แล้เกณฑ์กำปั่นกันฝรั่ง ออกตั้งรับไม่ให้ข้าศึก กองทัพข้าศึกรุกเข้ามาในเวลากลางคืน
                ฝ่ายองค์หัสไชยปรึกษาอำมาตย์เอกชื่อ ราชสีห์ ว่าจะรั้งรอไปถึงวันพรุ่งนี้ จึงจะยกเข้าตีเมือง จะมีความเห็นอย่างไร อำมาตย์ทูลว่า เราหักด่านมีชัยในวันนี้ ไพร่พลของเราก็อ่อนกำลัง ถ้าเรายกขึ้นบก ถ้าข้าศึกโอบอ้อมเข้าล้อมหลังจะเสียเรือเหลือกำลัง จึงควร
    จงรออยู่ดูไพรีก่อน จะแข็งอ่อนผ่อนปรนเล่ห์กลไฉน
    เห็นชนะได้รุกบุกเข้าไป ตีเมืองใหม่ไล่ล้างให้วางวาย ฯ
                พระหัสไชยได้ฟังก็เห็นชอบด้วย แล้วสั่งให้ไพร่พลผลัดกันอยู่งานตามหน้าที่
                ฝ่ายพระมังคลาเห็นกองทัพเมืองการะเวก เรียงรันกันราวกับนาค จึงปรึกษากันว่าศึกครั้งนี้มีความจัดเจน
    จะฆ่าฟันกันตายเสียดายเหลือ มันเหมือนเกลือแกลบจะรุมแลกพุมเสน
    จะคิดให้ไพร่นายตายระเนน แล้วสั่งเกณฑ์กลศึกเหมือนตรึกตรา
    ฯลฯ
                ให้วายุพัฒน์ลัดล่องเรือสองร้อยไปคอยชิดทางอยู่ข้างขวา ให้หัสกันนำเรือสองร้อยห้าสิบ ไปปิดทางข้างซ้าย เรือกลางข้างละร้อย คอยสมทบรบล่อให้ไล่
    เห็นจวนใกล้ได้ทีเรือสี่ร้อย สองข้างคอยโอบอ้อมออกล้อมหลัง
    ยิงปืนใหญ่ไฟจุดอย่าหยุดยั้ง เผาเสียทั้งกองทัพให้ยับเยิน ฯ
                ทั้งหมดออกไปจัดแจงแต่งทัพตามรับสั่ง พระมังคลากับวลายุดาคอยรักษาฟากฝั่ง
    แม้ไพรีหนีตายขึ้นชายหาด ยิงปืนสาดซ้ำฆ่าให้อาสัญ
    ฝ่ายกองกลางฟางหญ้าผ้าน้ำมัน ตระเตรียมกันครบทั่วทุกตัวคน ฯ
                พอได้ฤกษ์ดีเรือสองร้อยก็ออกแล่นไป กองเรือของพระหัสไชยแล้วร้องถามตามอุบายทั้งสองฝ่าย ร้องตอบโต้กัน แล้วกล่าวหมิ่นประมาทพวกการะเวกว่า เคยตกเป็นชะเลยของลังกามาแล้ว พระหัสไชยได้ฟังก็คั่งแค้น จึงปรึกษากันว่าเรือข้าศึกมาเพียงสองร้อย น้อยกว่าฝ่ายการะเวก
    เข้ารุกโรมโหมหักเสียพักนี้ ระดมตีเมืองใหม่เอาไฟเผา
    แม้ละไว้อ้ายศัตรูจะดูเบา เห็นลมเข้าเราจะได้ด้วยง่ายดาย ฯ
                ฝ่ายเสนาเห็นว่าเรือข้าศึกมีน้อย จะคอยล่อให้ฝ่ายเราไล่ แล้วจะซุ่มพลรุมรบเอาเป็นกลอุบาย ขอให้แบ่งกำลังออกสู้ดูกำลัง ขอให้พระหัสไชยกำกับทัพเรือใหญ่ เผื่อพวกข้าศึกจะยกมาวกหลัง จึงแยกกันรับทัพละร้อย ถ้าฝรั่งไม่ใช้อุบายก็ให้ดูกองหน้า ถ้ายกขึ้นบกได้ก็จะจุดไฟเป็นสำคัญ แล้วให้พระหัสไชยระดมกำลังเข้าสมทบรุมรบข้าศึกให้ได้ชัยชนะ
      พระเห็นชอบตอบว่าปัญญาลึก คาดข้าศึกสุดดีจะมีไหน
    ท่านคุมทัพสัประยุทธ์ขึ้นจุดไฟ ข้างหลังไว้เป็นธุระจะระวัง  ฯ
                เมื่อเข้ารบกันพวกฝรั่งลังกาแกล้งล่าล่อ หลีกเลี่ยงหลบถอยหลังรับ พอพระหัสไชยยกกองหลวงสามร้อยลำ เข้าหนุนหลัง ฝรั่งลังกากลับแล่นหลีกชักปีกกา วายุพัฒน์ หัสกัน นำกำปั่นรบเลี้ยวตลบล้อมรายรอบซ้ายขวา ระดมปืนยิงเป็นสัญญาเข้ารุกรบ ทิ้งคบเพลิงใส่เรือจนกองทัพการะเวกต้องรีบเข้าฝั่ง ยกพลขึ้นบก พวกพลบนฝรั่งชาวลังกาก็เข้าสะกัดไว้
                พระหัสไชยขึ้นตลิ่งพร้อมไพร่พลหลายพัน จนพลบค่ำจึงรวมตัวกันได้ พอตกดึกจึงมาปรึกษากันเห็นว่า กำลังยังน้อยอยู่จึงหยุดยั้งคิดผ่อนผัน ฝ่ายฝรั่งลังกาคอยป้องกันกองทัพจะจับเป็น แต่เห็นว่ามืดค่ำมองไม่เห็น จะคอยวันรุ่งขึ้น
    แล้วสูบฝิ่นกินเหล้าทั้งบ่าวไพร่ ประมาทใจไม่ระวังนอนนั่งเฉย
    สูบกัญชามาระกู่อยู่เหมือนเคย ต่างคนเลยหลับนอนผ่อนสำราญ ฯ
      ฝ่ายกษัตริย์หัสไชยยังใจชื้น จนกลางคืนคอยคุมชุมนุมทหาร
    ให้นับได้ไพร่นายเหลือวายปราณ มากประมาณสามหมื่นยิ่งชื่นใจ
    ฯลฯ
                สังเกตดูผู้คนที่บนฝั่งเห็นเงียบหลับไหลอยู่ จึงปรึกษาเสนาในว่าเราไม่มีเสบียง จะเลี้ยงไพร่พล จะรบพุ่งกันตอนเช้าฝ่ายข้าศึกมีมาก ฝ่ายเราจะอดอยาก จึงจะเข้าตีข้าศึกเสียแต่ตอนดึก ขณะที่ข้าศึกหลับอยู่ พวกเสนาก็เห็นด้วย แล้วสั่งให้ไพร่พล เอาผ้าเปียกน้ำโพกหัวทุกตัวคน จัดกำลังเป็นกองละพันเข้าโจมตีข้าศึก
    เที่ยวห้ำหั่นฟันฟาดเสียงฉาดฉับ บ้างคอพับหัวกระเด็นกลายเป็นผี
    บ้างทิ่มแทงแกว่งขวานผลาญไพรี ลอบฆ่าตีตายดื่นนับหมื่นพัน
    ฯลฯ
      ฝ่ายองค์พระมังคลาตรวจหน้าที่ เห็นไพรีเรี่ยวแรงเข้มแข็งขัน
    ให้นัดดากับวลายุดานั้น ออกช่วยกันไล่ไพร่รบไพรี ฯ
                กล่าวถึงทัพสุดสาครมาถึงทวีปลังกาเห็นเพลิงไหม้เรือถูกไฟไหม้ล่มอยู่ทั่วไป พบไพร่พลการะเวกว่ายน้ำอยู่ จึงรับขึ้นเรือถามความรู้ว่า เป็นทัพหัสไชยจึงรีบเข้าฝั่งเมืองลังกา สุดสาครทรงหลังม้ามังกรขึ้นไปก่อน เห็นพระอนุชาหัสไชยกำลังรบอยู่กับฝรั่ง ก็เข้าช่วยรบ พวกโยธาการะเวก เห็นหน่อนาถสุดสาครมาช่วย ก็มีกำลังใจเข้ารุกรบข้าศึก
      ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์วิมลโฉม ชวนวาโหมขึ้นบกยกทหาร
    ขับโยธาวาหุโลมโถมทะยาน เข้ารุกรานรบฝรั่งเมืองลังกา
    ฯลฯ
                ฝ่ายฝรั่งเมืองลังกาสู้ไม่ได้ จึงถอยเข้าไปตั้งมั่นในกำแพงเมืองใหม่
    ขึ้นรักษาหน้าที่ทั้งสี่ด้าน ป้อมปราการเกณฑ์กันล้วนขันแข็ง
    ทั้งซ้ายขวาสารวัตตรวจจัดแจง ตามตำแหน่งนายทัพกำกับพล ฯ
                ฝ่ายพระหัสไชยตั้งค่ายริมชายฝั่ง เสาวคนธ์และสุดสาครก็ยกกำลังขึ้นตั้งบนฝั่งน้ำ หัสไชยไปพบพระพี่นางแล้ว เล่าความบ้านเมืองแต่เรื่องหลังให้ทราบ องค์เสาวคนธ์ก็เล่าเรื่องของนางให้ฟัง ตั้งแต่ต้นจนปลาย
    แล้วเสาวคนธ์บ่นว่าแม้ข้าศึก พอจะตรึกตรองกำจัดไม่ขัดขวาง
    นี่เหล่ากอหน่อเนื้อเป็นเชื้อยาง จะรบล้างลูกหลานรำคาญใจ
                แล้วบอกหัสไชยให้รอไว้คอยท่าสองธานี
    เป็นธุระพระบิดาพาราผลึก จะปราบศึกบำรุงสามกรุงศรี
    จะทำเองเกรงขาดราชไมตรี พ่อควรที่ผ่อนผันตามบัญชา
    ฯลฯ
                สุดสาครช่วยผ่อนผันพูดจากับหัสไชย ให้ทำตามคำขององค์เสาวคนธ์แล้วว่า พรุ่งนี้จะไปพบมังคลาเพื่อพูดจากันให้คืนน้อง สององค์วงศ์กษัตริย์ ถ้าแม้นขัดขืนจึงค่อยฆ่าเสีย เมื่อพระบิดากับพระอา มาถึงก็คงจะมาช่วยรบ
    พ่อบอกเหตุเชษฐาให้ข้าเฝ้า ไปเมืองเราทูลประณตบทศรี
    ให้ทราบถึงพระชนกชนนี พอคลายที่กริ้วโกรธได้โปรดปราน
    ฯลฯ
                แล้วบอกความตามที่ได้มารบศึก ให้เมืองผลึกส่งเสบียงมาเลี้ยงทหาร พระหัสไชยก็คำนับรับคำสั่ง แล้วแต่งหนังสือให้ทูตถือไปตามความประสงค์ พอพลบค่ำต่างก็ไปประจำอยู่ที่ค่ายของตน


    • Update : 17/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch