หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/38
    ตอนที่ ๕๓ มังคลาครองเมืองลังกา

                กล่าวถึงเมืองลังกาขององค์วัณฬา ครั้นหน่อนาถกับนัดดาเติบใหญ่ขึ้นและมีความกล้าหาญ องค์มังคลามีชันษาสิบห้าปี

    รู้วิสัยไตรเพทประเทศถิ่น ภูมิแผ่นดินทั้งทวาทศราศี
    ทั้งพระน้องสองนัดดาปัญญาดี เกิดร่วมปีเป็นแต่แก่เดือนตรา ฯ
                ฝ่ายองค์ละเวงได้ไปหาบาทหลวงแล้วปรึกษาว่า จะเสกหน่อนาถและราชนัดดาให้ครองเมืองลังกา
    เจ้าวลายุดาปรีชาฉลาด เป็นอุปราชราชวังนรังสรรค์
    ฝ่ายซ้ายขวาวายุพัฒน์เจ้าหัสกัน ได้ฤกษ์วันใดพระคุณกรุณา ฯ
      ฝ่ายฝรั่งสังฆราชพระบาทหลวง ลงเลขดวงลัคน์จันทร์ดูชันษา
    จึงว่าเดือนสี่ฤกษ์เบิกราชา ขึ้นสิบห้าค่ำนั้นเป็นวันดี
    ฯลฯ
                แล้วบาทหลวงก็ขอให้องค์วัณฬา จัดแต่งสารไปขอองค์เสาวคนธ์ที่เอาเพชรเตร็จตรัส จากเมืองลังกาไปมาให้แก่พระนัดดา องค์ละเวงได้ฟังก็เกรงจะเกิดการวิวาท จึงตอบไปว่าของที่ให้เขาไปแล้ว จะเอามานั้น
    เหมือนย้อนยอกกลอกกลับอัปยศ ต้องเสียยศด้วยเขาจะครหา
    ในเดือนสี่นี้จะสั่งตั้งราชา แล้วกราบลาเข้าในเขตนิเวศน์วัง ฯ
                ฝ่ายองค์พระมังคลาได้ฟังความจึงถามบาทหลวงถึงความหลัง บาทหลวงก็เล่าให้ฟัง แล้วกล่าวถึงเรื่องเพชรเอกว่า
    เมื่อลูกสาวเจ้าพาราการะเวก เอาเพชรเอกออกจากหินแผ่นดินไหว
    จึงเมืองเราเศร้าหมองเสียของไป เขาเอาไว้เมืองเขาเกิดนวรัตน์
    ถ้าแม้หลานผ่านพาราลังกาแล้ว คิดคืนแก้วโคตรเพชรอันเตร็จตรัส
    กลับมาไว้ให้อุดมโสมนัส ให้สมบัติมั่งคั่งในลังกา
    จะสัตย์ซื่อถือพระเยวาโห เหมือนกับโมเซสังวาสพระศาสนา
    อย่าไปคิดกิจการกับมารดา มันจะว่ากูสอนค่อยผ่อนปรน
    ฯลฯ
                แล้วสอนให้คิดเกลี้ยกล่อมหัดทหารให้ชำนาญการศึก ให้หาผู้วิเศษทรงเวทมนตร์มาปรนปรือให้เป็นที่ลือชา ให้เอาย่องตอดที่เคยใช้เมื่อคราวรบเมืองมาเลี้ยงไว้
    แม้คนดีมีมากไม่ยากจิต จึงค่อยคิดปราบปรามตามวิสัย
    ไปขอเพชรเตร็จตรัสถ้าขัดไว้ จึงยกไปคืนเอาของเรามา
    ฯลฯ
                ฝ่ายองค์มังคลาก็รับคำบาทหลวงว่าจะทำตาม
                วันรุ่งขึ้นนางพระยาวัณฬาออกว่าราชการ ได้ตรัสสั่งเสนาใหญ่มหาดไทยกับฝ่ายทหารว่า พระนางครองเมืองลังกามานานแล้ว จะแต่งงานอภิเษกโอรสให้ทรงตราราหู เป็นเจ้าชีวิตฝรั่งทั้งหมด ให้วลายุดาเป็นฝ่ายหน้า หัสกันเป็นฝ่ายซ้าย วายุพัฒน์เป็นฝ่ายขวา
      ขุนนางพร้อมน้อมคำนับอภิวาท  เขียนประกาศบาดหมายแจกซ้ายขวา
    ให้เมืองน้อยร้อยเอ็ดเขตลังกา มาเปลี่ยนตราถือน้ำตามธรรมเนียม
    ฯลฯ
    ถึงวันฤกษ์เบิกอรุณพุนสวัสดิ์ อโณทัยไตรตรัสจำรัสศรี
    พวกเสนาพฤฒามาตยราชกวี มาพร้อมที่พระโรงรัตน์ชัชวาล ฯ
                เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว องค์วัณฬาก็ทำพิธีมอบตำแหน่งเจ้าลังกาให้องค์มังคลา
      ฝ่ายพวกพระเยวาโหปุโรหิต ยืนแปดทิศถือบวชสวดคาถา
    แล้วขุนนางต่างจับจอกสุรา ถวายพระมังคลาเจ้าธานี
    ฯลฯ
    ต่างชื่นช่วยอวยพรถาวรสวัสดิ์ ให้สืบวงศ์ทรงสมบัติพัสถาน
    เลียบกรุงไกรไปจนรอบขอบปราการ แสนสำราญรัถยาพอสายัณห์
    ฯลฯ
    อันไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งหลาย ทั้งหญิงชายชื่นชมด้วยสมหวัง
    ทุกถิ่นฐานบ้านช่องฆ้องกลองดัง พวกฝรั่งเริงรื่นทุกคืนวัน ฯ
    ฝ่ายองค์พระมังคลาปรีชาฉลาด บำรุงราษฎร์ราชัยมไหสวรรย์
    จะทำศึกตรึกตรองคิดป้องกัน ที่ขอบขัณฑ์เขตแคว้นแดนลังกา
    ฯลฯ
    จะก่อป้อมซ่อมแปลงกำแพงใหม่ ให้สูงใหญ่ไว้เหมือนเป็นเขื่อนขัณฑ์
    ให้พระน้องครองด่านชั้นในกัน ดงตาลนั้นนัดดาวายุพัฒน์
    ฯลฯ
    อนึ่งเล่าเราจะทำคำหนังสือ ให้คนถือไปทุกเขตประเทศสถาน
    เกลี้ยกล่อมผู้ตำราวิชาการ ที่เชี่ยวชาญช่วยบำรุงกรุงลังกา
    ฯลฯ
      พระทรงฟังสั่งให้ทำคำประกาศ พวกนักปราชญ์เปรียบเหมือนเพชรทั้งเจ็ดสี
    ไม่มีทองรองรับเป็นเรือนมณี รัศมีไม่สว่างกระจ่างตา
    เหมือนคนนดีมีครูซึ่งรู้รอบ ไม่ทำชอบช่วยกษัตริย์ขัดยศถา
    ต้องตกอับลับชื่อที่ลือชา ดังจินดาไร้เรือนก็เหมือนกัน
    อันตัวเราเจ้าลังกาอาณาจักร บำรุงรักษ์นัดเรศของเขตขัณฑ์
    จะเลี้ยงผู้รู้วิชาสารพัน ให้ควรกันกับความชอบประกอบการ
    ประการหนึ่งซึ่งผู้รู้ตำรับ เป็นแม่ทัพทำศึกฝึกทหาร
    รู้กลแก้แพ้ชนะรู้ประมาณ รู้รอนราญราวีให้มีชัย
    หนึ่งเรียนกลอุบายให้ตายจิต ปัจจามิตรลุ่มหลงไม่สงสัย
    รู้แอบอ้อมปล่อยพลสกลไกร เข้าเป็นไส้ศึกสังหารผลาญไพรี
    ฯลฯ
    หนึ่งเรียนรู้ดูดาวสำแดงเหตุ รู้มนต์เวทปลุกเสกเมฆฉาย
    รู้ดูดินถิ่นที่จะดีร้าย รู้อุบายเกลี้ยกล่อมให้พร้อมใจ
    รู้สืบข่าวราวเรื่องบ้านเมืองอื่น หนึ่งคนตื่นเซ็งแซ่รู้แก้ไข
    หนึ่งรู้ดำน้ำทนรู้ห้ามฝนไฟ ทำกลไกอาวุธยุทธนา
    ฯลฯ
    รู้จัดการบ้านเมืองเครื่องประดับ รู้ตำรับดีร้ายทำนายฝัน
    รู้สังเกตเท็จจริงทุกสิ่งอัน รู้แก้กันผีสางขับรางควาน
    ฯลฯ
    หนึ่งผู้รู้อักษรกาพย์กลอนกล่าว เรียบเรียงราวเรื่องความตามวิสัย
    รู้กฎหมายฝ่ายขุนนางฝ่ายข้างใน รู้พิชัยสงครามตามกระทรวง
    รู้ตั้งค่ายหลายชั้นป้องกันศึก รู้ตื้นลึกแลคะเนทะเลหลวง
    รู้แปลความตามภาษาทั้งปวง รู้ล่อลวงราวีให้มีชัย
    หนึ่งชำนาญปืนใหญ่ยิงไวแน่ แก้อาถรรพ์ผันแปรแก้คุณไสย
    รู้เล็ดลอดสอดแนมสืบความใน ทำนาได้ผลดีรู้ที่ทำ
    อันวิชาห้าสิบประการนี้ ผู้ใดมีเราจะชุบอุปถัมภ์
    แต่อย่างเดียวเจียวถ้าแม้นรู้แม่นยำ ดังดัดคำเขียนหมึกบันทึกไว้
    ฯลฯ
    แล้วเกณฑ์ไพร่ให้พระน้องกับสองหลาน  ไปสร้างด่านสามตำบลคนละแสน
    ต่อกำปั่นพันลำประจำแดน สำหรับแล่นลาดตระเวณที่เกณฑ์การ ฯ
                แล้วพระมังคลาก็อุตสาห์ออกดูการฝึกหัดทหารให้ชำนิชำนาญในการรบทั้งไพร่นาย
                ฝ่ายฝรั่งลังกาทั้งหลาย เมื่อรู้ความตามประกาศแล้ว บรรดาผู้ที่รู้วิชาก็พากันมาถวายตัวกับพระมังคลา เมื่อได้ทำการทดลองว่า มีความรู้ความสามารถตามที่แจ้งมาแล้ว ก็ให้ที่อยู่ให้ยศศักดิ์ และให้เงินทองตามความรู้ความสามารถ ฝ่ายองค์วลายุดาคุมโยธาทำที่ด่านประการใน
    ให้ก่อป้อมคร่อมทางปิดหว่างเขา จำเพาะเข้าออกเดินเนินโศล
    ปีกกานั้นชั้นบนล้วนกลไก ที่ล่อไล่ล้วนสังหารผลาญไพรี
    ฯลฯ
      ฝ่ายวายุพัฒน์นัดดาปรีชาหาญ อยู่ดงตาลด่านกลางหว่างสิงขร
    ป้อมกำแพงแต่งการไว้ราญรอน เป็นมังกรกินปลาตำราเรียน
    ฯลฯ
      เจ้าหัสกันนั้นตั้งอยู่เมืองใหม่ ก่อป้อมใหญ่แปดป้อมล้อมเขื่อนขัณฑ์
    กำแพงหินศิลาปีกกากัน ชื่อกลจั่นจับพยัคฆ์ดักกุญชร
    ฯลฯ
    ได้ลัทธิบาลีปีโปฝึก รู้กลศึกสารพัดหัดทหาร
    แต่งเรือใช้ไปไม่ขาดสืบราชการ ตระเวณด่านฟังเหตุทุกเขตคัน ฯ
      ฝ่ายข้าเฝ้าเจ้าลังกาปลอมพาณิช ไปทุกทิศจนถึงยักษ์มักกะสัน
    เที่ยวหาผู้รู้วิชาสารพัน เมืองสุตันเมืองชลามะคาวิล
    เมืองฉ่ามะหรุ่มอุ่นไม่โสมโข ไอคุปโตโกสัมพีระดีระถิ่น
    กะนาอันบันดระเมืองกะริน เมืองกบิลพัสดุ์เมืองมัดชนะ
    เมืองมะหุด กุสสตรา วิลาศละหม่าน กริบสว่านเมืองสังกัสหัสสละ
    เมืองโกบิลสินธุ์ทะเลเมืองเอละ เมืองสุเหร่า มะเกามะกะ เมืองละวน
    ได้จีนจามพราหมณ์ฝรั่งแขกอังกฤษ ล้วนหาญจิตเจนศึกได้ฝีกฝน
    ทั้งผู้รู้วิเศษทางเวทมนต์ รู้ทำกลต่างต่างช่างชำนาญ
    ฯลฯ
                ฝ่ายองค์หัสกันอยู่ด่านชั้นนอกสุด พวกตระเวนสมุทกลับมาแจ้งว่า พระธิดาเมืองการะเวกหนีการอภิเษกไป โอรสก็ตามไปด้วย และได้ข่าวว่าเจ้าเมืองผลึก และเจ้าเมืองรมจักร ยกกำลังไปเมืองรัตนา คงเหลืออยู่แต่องค์สุวรรณมาลี จึงเอาความดังกล่าวไปทูลพระมังคลา ฝ่ายพระมังคลาเห็นได้ทีที่จะทำศึกตามที่คิดไว้ จึงไปเฝ้าพระมารดา ทูลลาไปตรวจตราด่านชานนคร องค์วัณฬาก็อนุญาต พระมังคลาจึงออกมาเตรียมไพร่พลออกเดินทาง พอรุ่งขึ้นก็ออกเดินทาง พอตกเย็นจึงหยุดพัก ครั้นล่วงสามยามได้ยินเสียงดังกึกก้อง บนท้องฟ้าแล้วเกิดเป็นสายฟ้าผ่าลงมา เสียงดังสนั่นเห็นเหมือนสีรุ้ง พุ่งลงมาที่พลับพลาที่พระมังคลาประทับ แล้วเป็นรูปนางเนื้อเหลือง มีเส้นเกษาสีชาด ใส่คราบงูดูดังเสื้อ จักษุดำดังนิล อายุประมาณสิบขวบเศษ พระมังคลาถามว่านางคือใคร อยู่แห่งหนตำบลใด แต่นางไม่ตอบ พวกฝรั่งจึงล้อมนางไว้ จะจับตัว พอเข้าใกล้นางก็กางนิ้วออก กลายเป็นนาคหลุดออกจากนิ้วมือทั้งห้าหัว ออกรุกไล่ไพร่พลที่จะเข้ามาจับ จนต้องหนีล้มลุกคลุกคลานไปตามกัน แล้วนางก็นั่งที่หลังศิลาหน้าถ้ำ ร้องลำนำว่าเมื่อไรจะได้พบพระมังคลา
                ฝ่ายองค์พระมังคลาได้ฟังคำลำนำก็มีความพิศวงสงสัย จึงปรึกษาพวกข้าเฝ้า ฝ่ายอำมาตย์ราชครูจึงทูลว่า สตรีนี้ประเสริฐนัก ชี้นิ้วเป็นนาคราชชรอยจะเป็นนาค นับว่าเป็นบุญบันดาลที่ให้ได้นางผู้นี้มา แล้วเล่าความเหมือนย่องตออ ยอดทหารของพระมารดา แต่นางผู้นี้ดีว่าย่องตอดควรเลี้ยงเอาไว้
                พระมังคลาทราบเรื่องก็มีความยินดี จึงเข้าไปใกล้นางแล้วว่า ตนเป็นเจ้าเมืองชื่อ พระมังคลา แล้วตรัสเชิญนางไปนั่งที่พลับพลา นางพิศดูพระพักตร์ลักษณาแล้ว ก็รู้ว่าเป็นดาวศีรษะจระเข้ แต่แสร้งกล่าวบิดผันว่า มีของสำคัญสิ่งใดมา แสดงให้นางรู้ พระมังคลาจึงหยิบตราพระราหูออกมาให้นางดู
      นางเห็นตราราหูคู่ทวีป ดังประทีปเทียนสว่างกระจ่างฉาย
    คุกเคารพนบนอบนั่งยอบกาย ยอมถวายกายาเป็นข้าไท
    ฯลฯ
    เลี้ยงเป็นนางข้างที่ด้วยมีฤทธิ์ อยู่ใกล้ชิดเชิญพระแสงตำแหน่งขวา
    เครื่องนากทองของสำหรับประดับประดา ทั้งเสื้อผ้าสารพัดจัดประทาน
    แล้วตั้งนามตามมาเมื่อฟ้าฟาด ให้ชื่อ นางสุนีบาตด้วยอาจหาญ
    แล้วยกทัพนับหมื่นดื่นดงดาล มาถึงด่านแดนเขาเจ้าประจัญ ฯ
                พระอนุชาออกมาคำนับน้อม เที่ยวตรวจดูป้อมปืนประตูคูเขื่อนขัณฑ์ หยุดพักแรมอยู่สี่วันแล้วสมทบกันยกมาเมืองป่าตาล วายุพัฒน์นัดดาออกมารับหยุดตรวจตราไพร่พลโยธา กำแพงล้อมป้อมปราการ แล้วเกณฑ์พลรบสมทบกัน ยกไปยังเมืองใหม่ พระหัสกันออกมารับเข้าไปอยู่ในวัง



    • Update : 16/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch