หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ฝันเป็นจริง

    ฝันเป็นจริง (1)

    วิถีแห่งการปฏิบัติ พระอาจารย์เทสก์ เกสรังสี

    พุทธศักราช 2459 ทรงความหมายต่อ ด.ช.เทสก์ เรี่ยวแรง แห่งบ้านนาสีดา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นอย่างสูง

    เพราะเป็นปีที่ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม เดินรุกขมูลมาถึง

    รุกขมูล อันเป็นส่วนหนึ่งแห่งธุดงค์ ซึ่ง พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ให้ความหมายเอาไว้อย่างรวบรัด

    ธุดงค์ เท่ากับ องค์คุณเครื่องกำจัดกิเลส

    ข้อปฏิบัติประเภทวัตรที่ผู้สมัครใจจะพึงสมาทานประพฤติได้ เป็นอุบายขัดเกลากิเลสส่งเสริมความมักน้อยสันโดษ

    องค์คุณนี้มีทั้งสิ้น 13 ข้อ

    และข้อ 1 ใน 13 ข้อได้แก่ รุกขมูล องค์แห่งผู้ถืออยู่โคนไม้เป็นวัตถุ ไม่อยู่ในที่มุมบัง

    ที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือ แทนที่ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม จะเลือกพำนักอยู่ที่วัดบ้านนาสีดา ท่านกลับเลือกบ้านโยมบิดาของ ด.ช.เทสก์ เรี่ยวแรง

    นี่ย่อมตรงกับ "ศุภนิมิต" อันเคยมีในวัยเยาว์

    พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี เล่าไว้ใน "อัตโนประวัติ" ว่า

    วันหนึ่งเรานอนหลับกลางคืนได้บังเกิดสุบินนิมิตว่า เรากับเพื่อนหลายคนด้วยกันออกจากบ้านไปเที่ยวตามท้องทุ่งตามประสาของเด็กสมัยนั้น

    ขณะนั้นได้มีพระกัมมัฏฐาน 2 รูปสะพายบาตรแบกกลดเดินมาเห็นเราเข้า

    แล้ว 1 ใน 2 นั้นก็วิ่งปรี่เข้ามาหาเลย เรากลัว วิ่งหนีไม่คิดชีวิตชีวาเอาทีเดียว เพื่อนๆ เขาก็เฉยๆ ดูเหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรเลยอย่างนั้นแหละ

    เมื่อเป็นเช่นนั้น โน่นแน่ะ ที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเราก็คือบ้านแลพ่อแม่

    แต่ที่ไหนได้ เมื่อวิ่งขึ้นไปบนบ้านเรียกร้องขอให้พ่อแม่ท่านช่วยบ้าง ท่านกลับเฉย ดูเหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเหมือนกัน

    ส่วนพระกัมมัฏฐานรูปนั้นท่านก็วิ่งติดตามมามิได้หยุดจนกระชั้นชิด เราวิ่งเข้าในห้องมุดเข้ามุ้งเลย ท่านก็บุกเข้าไปจนได้เลิกมุ้งขึ้นแล้วใช้แส้หวดเราลงไปอย่างเต็มแรง

    เราตกใจสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมา ได้สติ ตัวสั่น เหงื่อเปียกโชกไปหมดทั้งตัว หัวใจยังสั่นริกๆ อยู่เลยที่ถูกแส้ท่านฟาดก็ดูยังปรากฏแสบๆ อยู่ เราเข้าใจว่าเป็นความจริงเอามือลูบๆ ดูก็ยังเข้าใจว่าเป็นจริงอย่างนั้นอีกด้วย

    เมื่อเราตั้งสติกำหนดทวนเหตุ การณ์ไปมาโดยรอบคอบจนกระทั่งจิตสงบหายกลัวแล้ว เรื่องทั้งหลาย แหล่จึงค่อยสงบลง

    เป็นสุบินนิมิตของ ด.ช.เทสก์ เรี่ยว แรง

    "เรื่องนี้เราได้ลืมไปแล้วเป็นเวลาช้านาน จนกระทั่งเราได้ออกเดินรุกขมูลกัมมัฏฐานกับท่านอาจารย์ของเรา เราจึงได้ระลึกถึงนิมิตความฝันของเราแต่เมื่อครั้งกระโน้น เหตุการณ์ชี้อนาคตในชีวิตของเราถูกต้องสมเป็นจริงทุกประการ"

    นั่นก็คือการมาของ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ยังบ้านนาสีดาเมื่อ พ.ศ.2459 มิได้เป็นการธุดงค์เดี่ยวอย่างเอกา

    หากมาพร้อมกับ พระอาจารย์คำ และมาพักอยู่เป็นเวลา 2 เดือนเศษ

    เวลา 2 เดือนเศษนี้ทรงความหมายเป็นอย่างสูงต่อ ด.ช.เทสก์ เรี่ยวแรง แม้ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม มิได้กวดไล่ตามไปบนบ้าน

    เปิดมุ้งแล้วใช้แส้หวดอย่างเต็มแรง

    ตรงกันข้าม "เมื่อท่านทั้งสองไปถึง เรากับบิดาของเราก็ได้ปฏิบัติท่านด้วยความเคารพและเลื่อมใสเป็นอย่างดียิ่ง เพราะเป็นปฏิปทาของท่านผิดแผกจากพระกัมมัฏฐานคณะอื่น โดยเฉพาะท่านสอนเราในข้อวัตรต่างๆ

    "เช่น สอนให้รู้จักของที่ควรประเคนและไม่ควรประเคน

    "ท่านสอนภาวนา บริกรรมพุทโธ เป็นอารมณ์ จิตของเรารวมได้เป็นสมาธิจนไม่อยากพูดกับคนเลย เราได้รับรสชาติแห่งความสงบในกัมมัฏฐานภาวนาเริ่มแรกจากโน่นมาไม่ลืมเลย"

    จึงเป็น 2 เดือนเศษอันทรงความหมาย

    เป็น 2 เดือนอันพลิกเปลี่ยน ด.ช.เทสก์ เรี่ยวแรง ให้เป็น สามเณร เทสก์ ในที่สุด

    การศึกษาชีวิต พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี จึงต้องเริ่มต้นจากจุดเมื่อ พ.ศ.2459

    เพราะจากจุดเมื่อ พ.ศ.2459 ที่ได้พบ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ไม่เพียงแต่นำไปสู่การบรรพชาและอุปสมบทเป็น พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี เมื่อพ.ศ.2466

    หากใน พ.ศ.2466 นั้นเองก็ได้เข้ากราบนมัสการ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต



    • Update : 13/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch