หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/31
    ทูลว่าจะไปกับท่านยายด้วยเป็นผู้ที่รู้วิชามารยาหญิง เพื่อจะได้ดูกำลังลบเล่ห์เสน่ห์ใน แล้วสังเกตดูเห็นพระธิดา มีไฝแฝงโอษฐจะเป็นผู้ที่โมโหร้าย ปีหน้าชะตาตก จึงทูลความว่ามีเคราะห์ร้ายทั้งสองพี่น้อง จึงเผอิญให้ต้องจากเมือง เมื่อปลายมือจะรุ่งเรืองได้ครอบครองสุริย์วงศ์สืบพงศ์พันธุ์
                ขบวนเรือเดินทางมาถึงฝั่งเมืองลังกา ไปบรรจบกับขบวนเรือของเมืองรมจักร เสาวคนธ์เข้าไปอัญชลีกษัตริย์ทั้งสี่องค์ ท้าวเจ้าเมืองรมจักรไต่ถามนามวงศ์ของนาง ครั้นทราบแล้วก็สงสารนางอย่างนัดดา เกษราเห็นว่านางอ่อนกว่าอรุณรัศมีจึงขอให้เป็น พี่น้องกันด้วยความรักนางเหมือนเป็นธิดา อรุณรัศมีก็รักนางเหมือนน้องเป็นที่ชื่นชอบซึ่งกันและกัน แล้วทั้งหมดก็เดินทางไปยังเมืองลังกา

    ตอนที่ ๔๒ หัสไชยแก้เสน่ห์

                กล่าวถึงเรื่องในวัง วัณฬาได้ครองคู่กับพระอภัยมณีตั้งแต่เดือนยี่ถึงเดือนกลางเดือนห้า องค์วัณฬาก็ตั้งครรภ์แล้วฝันว่า กลืนดาวจรเข้ในท้องฟ้า แล้วมีเทวดาเหาะมาถือสายฟ้าฟาดนาง แล้วควักจักษุนางออกทั้งสองข้างมองอะไรไม่เห็น เมื่อตื่นขึ้นจึงทูลพระอภัยถึงความฝัน พระอภัยบอกว่านางมีท้องแล้ว แล้วตรัสอวดว่า

    เห็นแล้วหรือมือเก่านะเจ้าพี่ ไม่ถึงปีก็ได้เชื้อเหลือขยัน
    ไม่นับถือหรือว่าจะเล่นพนัน คนละปีมิให้คั่นจนวันตาย ฯ
                ฝ่ายองค์ละเวงวัณฬาคิดถึงความฝัน ก็รู้ว่าร้ายจึงให้หานางรำภาสะหรีกับสองธิดา ให้ช่วยกันทำนายฝัน นางยุพาผกาจับยามดูรู้แล้ว จึงทูลว่าที่ได้กลืนดาวจรเข้นั้น จะทรงครรภ์ได้ปรากฎยศยงพงศ์ประยูร ส่วนที่อารักษ์ควักเนตรนั้น จะทำให้ห่างเหเสน่หา และจะมีไพรีมาภายในสิบห้าวัน นางได้ฟังคำก็ใจหาย จึงตรัสถามว่าจะแก้ไขอย่างไร นางยุพาผกาก็ทูลให้แต่งบัตรพลี ตามคัมภีร์ไสยให้ทรงศีลเจ็ดวัน
    นางยุพาผกาทูลแถลง จะต้องแต่งบัตรพลีคัมภีร์ไสย
    ประตูทั้งแปดทิศให้ปิดไว้ อย่าให้ใครเข้าออกบอกกิจจา
    ในเจ็ดวันนั้นพระองค์จงทรงศีล ตัดให้สิ้นพยาบาทปรารถนา
    สังเวยไหว้ไทเทวโลกา ให้รักษาสะเดาะพระเคราะห์นาม
    ฯลฯ
                นางรำภาก็บอกว่าตนฝันประหลาดว่า ฟ้าฟาดจนวังเวียงไหว แต่ขวานฟ้าวาบเข้าไปในปากแล้วกลืนเข้าไป นางยุพาก็บอกว่าตนฝันเห็นเมฆเป็นเกลียวกลีบ มีครีบหงอนเหมือนสายรุ้งพุ่งลงที่อุทร นางสุลาลีก็บอกว่าตนฝันว่า อ้าปากกลืนแผ่นดินเข้าไปได้ แล้วต้องว่ายน้ำจนสำลัก
                องค์วัณฬาได้ฟังความฝันของนางทั้งสาม จึงทำนายตามตำราว่านางทั้งสามจะมีครรภ์ จากนั้นก็ให้นางทั้งสามไปจัดตั้งบัตรพลี นางทั้งสามจึงสั่งให้สนมกรมวังไปดำเนินการ พอตกค่ำองค์วัณฬาก็ให้นางทั้งสามกลับไปหลับนอน แล้วทั้งหมดก็กลับไปหาคู่ครองของตน
    เมื่อคราวมัวผัวเหมือนหนึ่งขี้ผึ้งเคล้น จะปั้นเป็นรูปอะไรก็ไม่ขัด
    ปูว่าหอยพลอยว่าด้วยสารพัด เพราะรู้กลปรนนิบัติช่างดัดแปลง ฯ
                ฝ่ายองค์ละเวงวัณฬาทูลพระอภัยว่า นางฝันร้ายจะทำการสะเดาะห์เคราะห์ จึงอย่าให้พระองค์เข้ามาใกล้นางเป็นเวลาเจ็ดวัน แต่พระอภัยจะไปด้วย
                กล่าวถึงบาทหลวงเฒ่า เมื่อเสียเขาเจ้าประจัญแล้วก็แปลงเป็นไพร่พลคนแก่ ลูกศิษย์พาไปอยู่ที่บ้านสะพานยนต์ มีความอายและตรอมใจจนคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายหน คิดว่าข้าศึกทำซ้อนกลแต่ฝ่ายหญิงทำกลลวงตนไม่ล่วงรู้ เมื่อใช้ให้คนไปฟังข่าวได้ทราบเรื่องราวแล้ว ก็ให้คิดอดสูที่พระอภัยไม่ตาย แต่กลายเป็นชู้เข้าไปอยู่กับลูกสาวเจ้าลังกา
    แขกฝรั่งทั้งหลายพวกนายไพร่ ก็พร้อมใจกันให้ขาดพระศาสนา
    ยิ่งแค้นขัดอัดอั้นตันอุรา ดังเลือดตาแกจะตกตีอกตึง
    ฯลฯ
                บาทหลวงอยู่ป่ามาได้ห้าเดือน คิดลูกสาวเจ้าลังกายิ่งนัก ในเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วบอกพวกชาวบ้าน และทหารที่เป็นศิษย์ว่า จะไปในวังเพื่อด่าว่าองค์ละเวงให้สาแก่ใจ แล้วออกเดินทางไปเมืองลังกาเป็นเวลาสามคืน ผ่านไปทางไหนก็มีคนนับถือคอยต้อนรับ เมื่อมาถึงเมืองทราบว่าองค์วัณฬาจะสะเดาะห์เคราะห์
    บาทหลวงดูรู้การว่าศาลนี้ ชื่อพลีโลกาบูชาขยัน
    นางวัณฬาน่าที่จะมีครรภ์ คงพบกันแล้วสินะกูจะคอย
    ฯลฯ
                    เช้าวันรุ่งขึ้นลูกสาวเจ้าลังกา พร้อมสามนางกษัตริย์ผู้เป็นภัสดา แล้วเชิญองค์กษัตริย์ออกไปยังเชิงเทิน ตรวจดูไพร่พลในกองทัพ มาถึงประตูตะวันออกตรงหน้าศาลสมมติว่า เป็นเทพก็หยุดทำการเซ่นถวาย
    ครั้นสรรพเสร็จเสด็จมาบูชาศาล  ทุกทวารถวายของที่สองสาม
    อร่ามเรืองเครื่องบูชาสง่างาม แล้วเลียบตามเชิงเทินดำเนินมา ฯ
                ฝ่ายสังฆราชพระบาทหลวง เห็นลูกสาวเจ้าลังกาอยู่เคียงสามี เลียบเชิงเทินเดินมาเป็นคู่ทั้งสี่คู่ ล้วนมีท้องทุกคน
    พลอยขายหน้าฝรั่งทั้งประเทศ เสียประเภทพวกหญิงชาวสิงหล
    ยิ่งฉุนคิดแม้ว่ากายถวายชนม์ จะให้คนเลื่องชื่อออกอืออึง ฯ
                แล้วเดินมาที่หน้าประตูแล้ว ร้องด่าฝ่ายหญิงทั้งสี่คน
    ยังลวงหลอกกลอกกลับไปรับชู้ มาเป็นคู่หลู่ขาดพระศาสนา
    มึงผ่าเหล่าเผ่าพันธุ์อีวัณฬา คบขี่ข้ามาเขาเลี้ยงไว้เคียงตัว
    ฯลฯ
    มึงลวงกูรู้ทันทำผันผ่อน เหมือนหนึ่งหนอนบ่อนไส้กินไตตับ
    จนด่านแตกแยกย้ายล้มตายยับ เพราะมึงกลับกลายแกล้งไปแปลงความ
    จนฝรั่งลังกาเป็นข้าเขา เพราะมึงเข้าเพศภาษาสยาม
    เป็นเมียน้อยช้อยชดช่างงดงาม เมียหลวงตามเข้ามาหึงถึงประตู
    กูรักใคร่ให้วิชาสารพัด ไม่ซื่อสัตย์ซ้ำปดให้อดสู
    แกล้งคิดอ่านพาลโกรธยกโทษกู เมื่อจืดแล้วจึงรู้จักคุณเกลือ
    ฯลฯ
                องค์วัณฬาได้ฟังสังฆราชบาทหลวงด่าว่า ก็ไม่โกรธ และขอสมาบาป บอกถึงความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนี้เพื่อรักษาไพร่พล
    ไม่ให้ต้องพลอยตายในศึกครั้งนี้
    ประทานโทษโปรดเกล้าเถิดเจ้าคะ  ไม่ทิ้งพระศาสนาหามิได้
    เจ้าคุณมาธานีฉันดีใจ นิมนต์ไปวัดวาให้ถาวร ฯ
                ทั้งสามนางได้ต่อปากคำกับบาทหลวงในเรื่องการรบที่เขาเจ้าประจัญ องค์ละเวงเกรงจะเป็นบาปจึงพาสามนางออกไปให้ห่างบาทหลวง เข้าวังไป
                กล่าวถึงท้าวทศวงศ์เดินทัพมาถึงเมืองลังกาตอนกลางคืนแล้วเข้าไปที่ค่ายศรีสุวรรณพร้อมกันหมด องค์สุวรรณมาลีก็พาบุตรีกับหัสไชยไปเฝ้าท้าวทศวงศ์ พระองค์จึงตรัสถามถึงเรื่องเมืองลังกา องค์สุวรรณมาลีก็ตรัสเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทรงทราบ ท้าวทศวงศ์ได้ฟังแล้วก็ทรงรำพึงว่า เวทมนต์ของฝ่ายลังกานั้นขลังอย่างไร ทำให้ทั้งหนุ่มทั้งแก่หลงเสน่ห์ไปหมดเหมือนติดตัง แล้วตรัสว่า เสาวคนธ์มาตามพี่ ได้พราหมณ์โลกเชษฐ์มาแก้คลั่งให้หาย  แล้วตรัสถามว่า พราหมณ์ครูจะพบกษัตริย์ทั้งสี่องค์ได้ที่ไหน
      นางทูลว่าอาการนั้นพานเคลิ้ม แต่ความเดิมจำได้ไม่ใหลหลง
    แม้ทราบว่าฝ่าพระบาทญาติวงศ์ มาถึงคงจะออกมาเฝ้าฝ่าธุลี
    ฯลฯ
                แล้วทูลว่าหัสไชยเคยไปเฝ้า แต่ตอนนี้ได้ปิดประตูห้ามคนเข้าออกเป็นเวลาเจ็ดวัน
      ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์เห็นกลศึก นางนิ่งนึกตรึกตราแล้วว่าขาน
    ถ้าละไว้ให้เสร็จสำเร็จการ  จะเชี่ยวชาญเชิงมนต์กลวิชา
    ฯลฯ
                จึงคิดให้เข้าไปทำลายพิธี หัสไชยเห็นด้วยจึงทูลเชิญพี่นางกับสองพราหมณ์พฤฒาไปตรวจดูค่ายบนพลับพลาเพื่อจะได้ตริตรองหาลู่ทาง ท้าวทศวงศ์ได้ฟังก็ชมว่าฉลาดเกินวัย แล้วให้สององค์พาท่านอาจารย์ไปช่วยกันคิดอ่าน
                ฝ่ายเสาวคนธ์ชวนหัสไชยไปหาปาโมกข์โลกเชษฐ์แล้วเล่าเหตุการณ์แต่หนหลังให้ฟัง บอกว่าองค์วัณฬาสะเดาะเคราะห์ทำอุบายล่อลวง พฤฒาเฒ่าจึงบอกว่านางทรงครรภ์แล้วฝันร้ายกลัววายปราณจึงบนบานบวงสรวง ไม่ได้ลวงใคร  เสาวคนธ์จึงขอให้พระอาจารย์ช่วยแก้มนต์เวทวิเศษ
      พราหมณ์พฤฒาว่ากระนั้นวันพรุ่งนี้ จะแก้ผีภูติพรายให้หายหลง
    แล้วพราหมณ์เอาทองคำทำเป็นธง มาเขียนลงอักขระพระศุลี
    แล้วลงยันต์พระพิเนกเสกสะกด ดังจักรกรดพระนารายณ์ทำลายผี
    ให้น้องนางพลางสอนซ่อนให้ดี ไปให้พี่เผ่าพงศ์องค์ละคัน
    ฯลฯ
    แล้วลงเลขเสกข้าวตอกเป็นดอกฟ้า ล้ำบุปผาในแผ่นดินสิ้นทั้งหลาย
    ยื่นดอกไม้ให้กุมารเหมือนหลานชาย สอนอุบายที่จะให้เข้าในวัง ฯ
                วันรุ่งขึ้น หน่อกษัตริย์หัสไชยแต่งองค์ทรงเครื่อง เอาธงทองซ่อนไปในกายทั้งซ้ายขวา แล้วเอาพานทองใส่ดอกไม้เสก เสร็จแล้วออกมาหน้าสนาม จัดขบวนเดินทางไปยังประตูเมืองลังกา แล้วบอกนายประตูว่าตนเอาดอกฟ้าที่นางหนึ่งฝากมาให้ลูกสาวเจ้าลังกาที่กำลังเคราะห์ร้าย จะได้หายจากเคราะห์ร้ายนั้น แต่นายประตูตอบว่ามีรับสั่งไม่ให้ใครเข้าออก หน่อกษัตริย์จึงตรัสว่านายประตูโง่เขลาที่มาห้ามปรามความแผ่นดิน มีโทษถึงตัดศีรษะ
    แม้ปิดบังของหลวงให้ร่วงหล่น ตัวจะพ้นความตายฉิบหายหรือ
    เป็นขุนนางช่างโง่เหมือนโคกระบือ ดีแต่ดื้อไม่รู้จักที่หนักเบา
                นายประตูนำความไปบอกท้าวนาง พวกในวังฟังว่าเป็นดอกฟ้าก็ใคร่จะได้เห็น จึงนำความไปทูลลูกสาวเจ้าลังกา
      ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงไม่เกรงกริ่ง คิดว่าจริงจะใคร่ดูดอกบุหงา
    หลงอุบายหมายจิตว่าเทวา เอาดอกฟ้ามาให้คุ้มภัยพาล
    ฯลฯ
                นางจึงให้เปิดประตูออกกไปรับ พระกุมารเข้าไปในวัง ถึงตึกเย็นเห็นนางอยู่ข้างนอกจึงถวายดอกไม้ นางพิศดูดอกไม้ แต่อ่านอักขระไม่ออกจึงให้หานางยุพาสุลาลี ทั้งสองนางก็รีบมาหา
                หน่อกษัตริย์หัสไชย เห็นได้ช่องจึงลามายังห้องพระพี่ แล้วมอบธงให้องค์ละคัน สุดสาครได้คิดแล้วก็เสียดายยศ หยิบธงทองแล้วพากันไปห้องสินสมุทยื่นธงให้ สินสมุทรู้สึกตัวแล้วรีบพาน้องไปยังห้องพระบิดา ยื่นธงถวายให้ พระอภัยก็คลายคลั่ง
    นางวัณฬาแอบมองตามช่องฉาก พอเห็นหลากจิตพรั่นประหวั่นไหว
    เข้าชิงธงที่องค์พระอภัย มาหักให้ย่อยยับสำทับความ
                พอธงหักพระอภัยก็กลับหลงองค์ละเวงอีก ฝ่ายหัสไชยก็ไปฉุดสินสมุทกับสุดสาคร วิ่งหนีออกมาข้างนอก แล้วขับขี่พาหนะสิงห์กับม้ามังกรกลับไปกองทัพไปเฝ้าองค์สุวรรณมาลี นางดีใจวิ่งออกมารับสินสมุทกับสุดสาครก็เป็นลมสลบไป เมื่อแก้ไขฟื้นขึ้นมาแล้วก็ได้พบท้าวทศวงศ์ องค์อรุณรัสมี ทั้งองค์แล้วเกษราแล้วทำความรู้จักกัน
      ฝ่ายอรุณรัศมีเป็นพี่น้อง บังคมสองพี่ชายสายสมร
    จอมกษัตริย์ตรัสว่าสุดสาคร อายุอ่อนแต่เป็นที่พระพี่ยา
    ฯลฯ
                ทั้งหมดได้ปรึกษากัน ที่จะแก้ไขสองกษัตริย์ต่อไป นางเกษรารำพันถึงศรีสุวรรณว่า
    แม้ไม่เลี้ยงเคียงองค์พระทรงศักดิ์ จะสมัครอยู่เป็นข้าเหมือนทาสี
    วิบากกรรมถึงรำภาจะด่าตี ก็ตามทีเกิดสู้ทนไปจนตาย
    สนองคุณมลิกาฝ่าพระบาท จนสิ้นชาติชาตินี้ไม่หนีหาย
    ถึงชาติอื่นหมื่นชาติไม่คลาดคลาย พลางฟูมฟายชลนาด้วยอาลัย
    ฯลฯ
                ท้าวทศวงศ์ทรงให้ทุกคนพากันไปอ้อนวอนให้พราหมณ์พฤฒาช่วย เมื่อไปพบแล้วก็เล่าความทั้งหมดให้ฟัง พราหมณ์พฤฒาทูลว่า พระอภัยอยู่ในวังจึงยากที่ตนจะเข้าไปชิดใกล้ เพื่อแก้ไขให้หาย จึงคิดให้ท่านยายคิดอุบายแก้ไขเข้าในวัง
     
    ซึ่งพี่น้องสองออกมานอกได้ มันจะใช้ผีทับให้กลับหลัง
    ภาวนาอย่าประมาทให้พลาดพลั้ง ด้วยเคราะห์ยังอีกสิบห้าทิวาวัน
    ฯลฯ
                ฝ่ายนงเยาว์เสาวคนธ์แค้นใจสุดสาคร จึงออกปากต่อว่าสุดสาครก็ยอมรับผิด
    มิห่วงน้องสองชนกที่ปกเกล้า พี่จะเผาตัวตายเพราะขายหน้า
    ถึงอยู่ไปก็ไม่พ้นคนนินทา จนม้วยฟ้าสูญดินไม่สิ้นอาย
    ฯลฯ
                ท้าวทศวงศ์ตรัสห้ามสองพี่น้อง อธิบายเหตุผลให้ฟัง องค์เสาวคนธ์จึงขอโทษสุดสาคร ฝ่ายสินสมุทกลับกล่าวว่าตนไม่อายใคร มีเมียแขก ฝรั่ง ทั้งมอญไทยยิ่งดีใจ
                สุดสาครร้อนใจถึงพระบิดา จึงบอกแก่พราหมณ์พฤฒาว่า หยูกยาของฝ่ายลังกานั้นขลัง แก้ไขได้ไม่ถนัดจึงจะลาไปเกาะแก้พิสดาร นิมนต์ท่านโยคีมาแก้ไข ท่านครูเฒ่าก็เห็นด้วย

    • Update : 12/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch