หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ธรรมะทีวี ถนนเส้นนี้ สู่ความดับทุกข์

    ธรรมะทีวี ถนนเส้นนี้ สู่ความดับทุกข์

    ชีวิตนี้คืออะไร, ชีวิตนี้ควรเป็นอย่างไร และชีวิตนี้สัมพันธ์กับโลกอย่างไร

      คำถามพื้นฐานของชีวิต หากแต่ว่า มีคนไม่มากนักที่จะตระหนักถึงสิ่งนี้อย่างจริงจัง นั่นทำให้โลกกำลังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกายภาพคือ ธรรมชาติวิปริตแปรปรวน และทางด้านจิตใจของมนุษย์ ที่นับวันจะผิดเพี้ยนไปจากความเป็นมนุษย์มากขึ้น หากไม่กลับมาแสวงหาคำตอบด้านใน รวมทั้งหายุทธศาสตร์ในการดำเนินชีวิตด้วยสติและปัญญากันแล้ว เราจะพากันล่มสลายกันไปทั้งโลก และจะไม่มีพื้นที่อันสงบเย็นสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปด้วย

     มูลนิธิรวมใจเผยแผ่ธรรมะ เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาวิกฤติโลกเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การเมือง สังคม ครอบครัว โดยอาศัยธรรมะเป็นหลักในการดำเนินชีวิต จึงได้รวมตัวกันปรึกษากับพระผู้ใหญ่และญาติธรรมที่เป็นนักธุรกิจที่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน และได้ก่อตั้ง "สถานีธรรมะทีวี" ขึ้น โดยเผยแพร่ทางสื่อทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ อินเทอร์เน็ตมาประมาณ ๕-๖ ปี แล้ว กระทั่งเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ กรุงเทพฯ

     ในงานเปิดตัวสถานีธรรมะทีวี ช่องความดี ๒๔ ชั่วโมง ได้รับความเมตตาจากพระธรรมสุธี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร แสดงสัมโมทนียกถา ในนามคณะสงฆ์มหานิกาย ตอนหนึ่งว่า การเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้าไปไกลทั่วโลก เป็นการจรรโลงไว้ซึ่งศาสนา ซึ่งก็คือ ธรรมะ ไว้ช่วยเหลือชาวโลกนี่เอง

     "พุทธศาสนาก็เหมือนกับต้นไม้ที่มีอายุมานาน ถ้าไม่มีการใส่ปุ๋ยรดน้ำพรวนดินก็จะเฉา การนำพระพุทธศาสนามาประยุกต์ด้วยวิธีการต่างๆ ถือเป็นการสืบทอดมรดกธรรมที่สำคัญสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปไว้แก้ปัญหาชีวิตในทุกๆ ด้าน"

     ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน ) และผู้ก่อตั้งสถานีธรรมะทีวี (ช่องความดี ๒๔ ชั่วโมง) ประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวถึงที่มาและนโยบายสถานีว่า เดิมทีเราใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านทางมูลนิธิศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งออกอากาศที่หัวหิน วังไกลกังวล เฉพาะช่วงเวลาเด็กประถมเลิกเรียนในตอนเย็น แล้วทางเคเบิลทีวีของต่างจังหวัดทั่วประเทศ ได้ช่วยกันนำไปเผยแผ่

     "ต่อมา เคเบิลทีวีทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ช่อง เขาอยากจะได้การถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องทั้งวัน วันละ ๒๔ ชั่วโมง ในเมื่อตอนนี้ ดาวเทียมทีวี เปิดเสรีแล้ว เอกชน องค์กร หรือนิติบุคคลต่างๆ มีสิทธิ์ที่จะไปเช่าสัญญาณดาวเทียม แล้วมาผลิตรายการเอง เราก็เห็นช่องทางอันนี้ที่จะเปิดเวลาได้มากกว่า จึงได้ตัดสินใจมาเช่าสัญญาณดาวเทียมเป็นของเราเองที่เคยูแบนด์ และได้ทดลองออกอากาศมาเป็นเวลาประมาณ ๓ เดือน และยังได้ปรับปรุงเรื่องห้องส่ง เครื่องไม้เครื่องมือ จนคิดว่าเข้าสู่มาตรฐาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันเราก็ได้พยายามหาบุคลากรที่ทำงานในสายนี้ที่มีความสามารถ มีจิตที่เห็นความสำคัญของการเผยแผ่ธรรมะมาร่วมงานด้วย จึงสามารถผลิตรายการที่มีคุณภาพได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน"

     ปัจจุบัน สถานีธรรมะทีวี อยู่ได้โดยเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา ไม่แสวงหากำไรทางโภคทรัพย์ ออกอากาศผ่านจานดาวเทียมสีส้ม ไอเอ็มพี ช่อง ๑๐๑ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือชมผ่านทางดาวเทียมเอ็นเอสเอส๖ ระบบเคยูแบนด์ ความถี่ ๑๑๖๓๕ เมกะเฮิรตซ์ โดยเปิดรายการตั้งแต่ตีห้าถึงตีห้าครึ่ง เป็นช่วงเวลา "ทำวัตรเช้า" ที่ยกวัดมาไว้ถึงห้องนอนเลยทีเดียว เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาารเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแต่เช้า เพื่อปลุกให้สติตื่นขึ้นต้อนรับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความไม่ประมาท ตามมาด้วยรายการ "ธรรมสวัสดี", รายการ "ระฆังข่าว" โดยแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต และทีมงานจากเสถียรธรรมสถาน จากนั้นก็มีการคั่นรายการต่างๆ ด้วยเพลงธรรมะเป็นช่วงๆ แล้วตอนหนึ่งทุ่มถึงทุ่มครึ่งก็เป็นช่วงเวลาทำวัตรเย็น ยิ่งดึกก็จะมีบทสวดมนต์สำคัญ อาทิ บทสวดธัมจักกัปปวัตนสูตร ว่าด้วยเรื่องทางสายกลาง, บทสวดพระคาถาชินบัญชร เป็นต้น

     สำหรับเนื้อหารายการทั้งหมดครอบคลุมคนทุกวัย รายการสำหรับเด็ก วัยรุ่นวัยเรียน หนุ่มสาว คนทำงาน ไปจนถึงผู้สูงวัย คนเจ็บคนป่วย รวมไปถึงการเตรียมตัวตายอย่างมีสติ อาทิ อ่านนิทานธรรมะ, ธรรมะกับนักบริหาร, เข้าถึงธรรมเชิงวิทย์, ธรรมะวาไรตี้, นี่แหละชีวิต, แสงธรรมสว่างใจ, ธรรมในใจ, แสงธรรมแห่งศรัทธา และรายการอีกมากมายที่ดูแล้วสามารถนำธรรมะที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหาอย่างมีกุศโลบายไปใช้ในชีวิตจริงได้เลย  

     ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ในนามของประธานมูลนิธิรวมใจเผยแผ่ธรรมะ สถานีธรรมะทีวี กล่าวเสริมว่า สำหรับบทสวดมนต์ทำวัตร เช้า -เย็น ทำขึ้นใหม่ โดยนิมนต์สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร สวดใหม่หมด ให้ถูกต้องตามธรรมวิธี ธรรมบท ในสมัยโบราณ แล้วถ่ายทำใหม่หมด ซึ่งสมเด็จพระวันรัตนำสวดเอง น

     "เราไม่ได้มุ่งเน้นว่ารายการ ๑๐๐% ต้องเป็นธรรมะ มีพระมาสอนธรรมะ นั่งสมาธิ แต่เราผสมผสานให้พอเหมาะ คือมีพระคุณเจ้ามาสอนครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นฆราวาส ที่เป็นนักธุรกิจ บุคคลที่สังคมรู้จักดี ดารา ประชาชนทั่วไป ไม่ต้องมาบรรยายธรรมะ แต่เป็นคนดี มีประสบการณ์ชีวิต มาออกรายการ แต่ถ้าเขารู้ธรรมะปฏิบัติธรรมด้วยก็ยิ่งดี "

     เพราะการก้าวไปข้างหน้าด้วยธรรมนำทาง จะต้องไปด้วยกันของคนในสังคมทุกหน่วย ในวันเปิดตัวธรรมะทีวี ได้มีการจัดเสวนาเรื่อง "สื่อกู้วิกฤติ...ธรรมะสร้างสรรค์สังคม" เพื่อร่วมกันธรรมวิจัยว่า สื่อชนิดใด และสื่ออย่างไรที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมในเชิงโครงสร้างและสามารถปฏิบัติได้จริง 

     พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันมีสื่ออยู่สามแบบคือ ๑.สื่อสาระแน เป็นสื่อที่ไปชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ทำให้คนสอดรู้สอดเห็น ๒.สื่อสารเลว คือสื่อลามก รวมไปถึงสื่อที่ทำให้คนแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่ายด้วย และ ๓.สื่อสาระธรรม

     "สื่อสาระธรรมนี้ ที่เราจะต้องช่วยกันขยายบทบาทให้มากขึ้น ปัญหาคือ คนทำสื่อ ทำอย่างไรจึงจะเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าให้ถูกต้องด้วย ธรรมะทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แท้จริงคือ คู่มือการใช้ชีวิต และต้องรู้ว่า คู่มือแต่ละข้อ เป็นคู่มืออะไร เช่น ๑.สอนเรื่องชีวิต ๒.สอนให้รู้จักหน้าที่การงาน ๓.สอนเรื่องบริหารจิต ๔.เตรียมชีวิตไว้โลกหน้า และ ๕.หนทางไปสู่พระนิพพาน นี่คือหน้าที่ของชีวิต รายการแต่ละรายการจึงจำเป็นมากที่จะต้องคิดว่า จะให้คู่มือ วิธีการ อะไรแก่ผู้ชมไปใช้ในชีวิตจริง

      "ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เราถ่ายทอดไปร้อยกว่าประเทศ ทำอย่างไรจึงจะสามารถถ่ายทอดธรรมะเป็นภาษาอังกฤษด้วย เรามีสื่อแต่ไม่มีพระเก่งภาษาอังกฤษ หรือไม่ก็ต้องหาคนแปลขึ้นทีวี แล้วธรรมะจะได้เผยแผ่กว้างขวางขึ้น"

     แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้อำนวยการเสถียรธรรมสถาน มองว่า ในฐานะคนทำสื่อ สื่อสามารถทำให้คนงมงายก็ได้ ทำให้คนตื่นก็ได้ เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราสามารถนำศาสนธรรมมาผ่านสื่อได้ตั้งแต่เกิดจนตายก็จะเป็นประโยชน์มาก

     "จากประสบการณ์การทำงานเรื่องจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์มาสามสิบปี เราพบว่า ในศตวรรษที่ ๒๖ หรือพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านั้น เราสามารถทำให้สื่อเกิดปาฏิหาริย์ในเชิงรุก ไม่วิ่งตามกระแสข่าว ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราทำงานกับเด็กที่เคยพบกับความรุนแรงมาแล้ว เรามีวิธีการที่จะช่วยกันเยียวยารักษาแผล เราไม่ขุดแผล ไม่ทำให้มีหนามแหลมตำในใจเขาให้มากขึ้น แต่เราจะช่วยกันถอนหนามแหลมออก โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้าเราทำให้ผู้หญิงไม่เป็นเหยื่อกระแสโลก อย่าเรยา ในละคร เราจะพบว่า ผู้หญิงจะสามารถช่วยโลกได้มากทีเดียว
     
     ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไดเร็ค มีเดีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า มีความจำเป็นมากที่น่าจะมีสถานีธรรมะทีวีเยอะๆ เพราะกิเลสมันไปตามวัตถุนิยม แต่ธรรมะนี้จะทำให้เราเข้มแข็งมากๆ เท่าทันกับกิเลสที่มันจะหลอกเรา

     "เพราะปัจจุบัน แทบทุกอย่างมาในรูปของกิเลสมาร์เก็ตติ้ง เราต้องเปิดพื้นที่ความดีให้มากขึ้น เป็นโอกาสที่ทำให้เรามีสติ สมาธิ ปัญญามากขึ้นในการที่จะเท่าทันวัตถุนิยมที่แปลงกายมาในหลายรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง ผมมีความเชื่อว่า ถ้าเราลงทุนด้วยความดี ไม่มีขาดทุน ยิ่งทำธรรมะดีๆ ๒๔ ชั่วโมง ไม่มีขาดทุนแน่นอน"

     อาจารย์อนินทิตา โปษะกฤษณะ ผู้บริหารโรงเรียน สยามสามไตร ทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่า สื่อดีๆ จะช่วยสร้างเด็กได้อย่างไร

     "เมื่อเด็กดูเวลาไหนเขาก็ได้รับหยดน้ำแห่งคุณธรรมไปทีละเล็กทีละน้อย เราต้องมีสื่อดีๆ ให้มากขึ้น ให้เด็กได้เห็น รับไปวันละนิดวันละหน่อย ใน ๒๔ ชั่วโมง ถ้ามีสายใยที่จะนำธรรมะทั้งหมดมาหาตัวเรา เป็นสิ่งที่ดีที่จะเป็นการสร้างคน เพราะเด็กจะเป็นอย่างไรก็มาจากการเลี้ยงดู"

     เพราะปัจจุบันหลายครอบครัว ฝากลูกไว้ที่หน้าจอทีวี โดยไม่ได้คิดว่า สื่อจะหล่อหลอมนิสัยให้กับเด็ก ถ้าไม่เฝ้าระวังให้เขาเลือกรับสื่อ หรือไม่อยู่กับเขาหน้าจอ มีโอกาสมากมายที่เด็กจะซึมซับการแสดงจากตัวละครมาใช้ในชีวิตจริงได้

      ธนาชัย กล่าวเสริมในประเด็นนี้และที่มาของการทำสถานีธรรมะทีวีว่า อยู่ในวงการสื่อมา ๔๐ ปี แต่เป็นสื่อทางโลก เป็นธุรกิจ จนมาเมื่อ ๖-๗ ปีก่อน ด้วยความห่วงใยของพระศาสนาของสมเด็จพระญาณวโรดม อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ตอนที่ท่านอายุแปดสิบกว่า สุขภาพไม่ค่อยดี (มรณภาพแล้วเมื่อปี ๒๕๕๒)

     "ตอนอายุ ๖๐ ปี ผมบวชอยู่วัดท่าน แทบทุกวัน ท่านส่งสัญญาณให้ผมว่า ฝากพระศาสนาด้วยนะ วันที่ลาสิกขา ท่านยังบอกอีก อย่าลืมนะ ดูแลศาสนาด้วย ผมก็เลยปวารณากับท่าน แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร พอสึกออกมาก็ถูกกลืนไปกับโลก เผลอแป๊บเดียวผ่านไปหลายปี พอนึกขึ้นได้ว่าเคยปวารณาไว้กับท่านสมเด็จพระญาณวโรดม ก็ได้คำตอบว่า จะทำสื่อธรรมะนี่แหละ ก็เลยคิดตัดถนนเส้นนี้ให้คนมีทางเดิน

     "เพราะสื่อมีอิทธิพลมหาศาล มีทั้งคุณและโทษ ต่อเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ถ้าใช้เป็นก็เป็นประโยชน์ ถ้าใช้ไม่เป็นก็เป็นโทษมหันต์ ขณะนี้สื่อพัฒนาอย่างรวดเร็ว สื่อดาวเทียมที่กำลังเปิดเสรี แป๊บเดียวมีเป็นร้อยๆ ช่อง แต่สื่อที่มาทางธรรมะมีน้อย"

      และในที่สุดถนนสายนี้ก็ได้ถูกถางทางขึ้นแล้ว ด้วยจิตอันเป็นกุศลของคนกลุ่มหนึ่งที่มีเจตนาค้ำจุนและเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามทางสายกลาง โดยไม่เป็นพุทธพาณิชย์ ด้วยเป็นห่วงลูกหลานเหลนโหลนในภายภาคหน้า

     ประธานมูลนิธิรวมใจเผยแผ่ธรรมะ ฝากทิ้งท้ายในวงเสวนาว่า ...ใครคิดจะทำกำไรจากการทำธรรมะทีวี แล้วหวังจะได้โภคทรัพย์ เป็นการคิดผิด แต่ถ้าหวังจะได้อริยทรัพย์ คิดถูก...

     และอริยทรัพย์ที่ได้เลยขณะลงมือทำก็คือ ปีติ ความสุข เห็นได้จากวันนั้น แม้อากาศร้อนมาก แต่ทุกคนที่มาร่วมงานเสวนาที่ไม่ติดแอร์ก็รู้สึก เย็น ... "เย็นใจ"

    เรื่อง... "มนสิกุล โอวาทเภสัชช์"
    ภาพ... "ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์"

     


    • Update : 10/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch