|
|
พระพุทธนิมิตวิชิตมาร วัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา
'วัดหน้าพระเมรุราชิการาม' หมู่ที่ 5 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนคร ศรีอยุธยา หรือที่รู้จักกันว่า 'วัดหน้าพระเมรุ' เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตามประวัติกล่าวว่า พระองค์อินทร์ ในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงสร้างเมื่อพ.ศ.2046 (อยุธยาตอนต้น) ประทานนามว่า วัดพระเมรุราชิการาม มีอายุกาล ถึง 485 ปี
วัดหน้าพระเมรุ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งพระมหาจักรพรรดิได้ใช้สถานที่แห่งนี้เจรจาสงบศึก เมื่อปี พ.ศ.2106
ในอีกตอนหนึ่งคือ เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าอลองพญามาตีกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2303 พม่าได้ยกเอาปืนใหญ่มาตั้งที่วัดพระเมรุราชิการามกับวัดหัสดาวาส (วัดช้าง) พระเจ้าอลองพญาทรงบัญชาการและทรงจุดปืนใหญ่เอง
แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ เมื่อพระองค์จุดดินระเบิด เกิดระเบิดขึ้น จนทำให้ปากกระบอกปืนแตก สะเก็ดระเบิดลุกเป็นไฟ ต้องพระวรกายบาดเจ็บสาหัสประชวรหนักในวันนั้น พอรุ่งขึ้นพม่าเลิกทัพกลับไปทางเหนือแต่ยังไม่ทันพ้น เมืองตาก พระเจ้าอลองพญา ก็สิ้นพระชนม์ระหว่างทาง
ด้วยบุญญาธิการอันศักดิ์สิทธิ์แห่งพระประธานในพระอุโบสถ จึงทำให้กรุงศรีอยุธยารอดพ้น จากข้าศึกมาตลอด
วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดเพียงแห่งเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีฯ ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุ เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสำริด ภายนอกฉาบด้วยปูน ลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยทรงเครื่องพระมหากษัตริย์
พระพุทธรูปองค์นี้มีหน้าตักกว้าง 9 ศอกเศษ สูง 6 เมตรเศษ พระนามว่า เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ที่สุด
ในรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดหน้าพระเมรุ ซึ่งขณะนั้นมีสภาพเป็นวัดร้างครั้งใหญ่ เมื่อแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระพุทธรูปพระประธานว่า 'พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ'
พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระ พุทธรูปทรงเครื่องต้นอย่างพระมหากษัตริย์ทรงเทริด (มงกุฎ ทรงเตี้ย) ไม่ทราบประวัติการสร้างที่แน่นอน แต่เป็นพระพุทธรูปประธานที่มีอยู่แต่เดิมในวัด
รัชกาลที่ 4 โปรดให้ลงรัก ปิดทองประดับกระจกพระพุทธรูปองค์นี้
พระพุทธรูปทรงเครื่ององค์นี้ มีพุทธลักษณะสวยงามมาก พระนามบ่งชัดถึงพระลักษณะ อันพิเศษ มีพระอภินิหารเป็น สรณะ ที่พึ่งที่เคารพอย่างยิ่งแก่โลกทั้ง 3 เป็น
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และคุ้มครองบ้านเมือง ทำให้ข้าศึกเกิดความเกรงกลัวไม่ทำลายวัดนี้
เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
|
Update : 2/4/2554
|
|