หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/23
    ฝ่ายผู้เฒ่าเจ้าเมืองเคืองตะคอก อย่าเพิ่งบอกเฟื่องฟุ้งถึงกรุงศรี
    เราเป็นชายฝ่ายเจ้าเป็นสตรี ชีวีมีมิให้องค์ออกสงคราม
    อายุเราเล่าก็จวนหกสิบห้า ถึงแม้ว่าวายวางลงกลางสนาม
    สู้บรรลัยไว้ชื่อให้ลือนาม จะสงครามปล่อยแก่พอแก้อาย
    ฯลฯ
    อนึ่งเล่าเขามาล้อมอยู่พร้อมพรั่ง เปรียบเหมือนดังโรคตัดอัติสาร
    จะวางยาแม้มิหายคงวายปราณ แม้นเสียด่านก็เหมือนดังเสียลังกา
    ฯลฯ
                แล้วบอกว่าข้าศึกมีชัยคงจะประมาท จึงให้จัดกำลังเป็นหกทัพยกออกไปโจมตีตอนสามยาม ให้มุรหุ่มคุมทหารเข้าด้านซ้าย บังอลูเข้าด้านขวา หัศเกนสมทบกับมลิปาสารวัด ยันตังอังกฤษให้อยู่กับเจ้าเมือง แล้วสั่งบุตรให้อยู่ตรวจตราการข้างใน สั่งว่าถ้าตนตายให้ไปเฝ้าองค์วัณฬา ถวายตัวสามิภักดิ์จะได้ปรากฏเกียรติต่อไป
                ฝ่ายศรีสุวรรณปรึกษาการกลศึกกับแล้วเห็นว่าอย่าประมาทพวกฝรั่งคงจะคิดอ่านมาสู้รบอีก จึงวางกลศึกไว้ว่าถ้ามีศึกมาเข้าตีตอนดึก ให้ทำเป็นแตกตื่นหนีไป ให้ข้าศึกตามตีออกไปนอกภูเขา ให้โมรากับสานนคุมกำลังย้อนมาทางขวาและทางซ้าย พวกทมิฬของสินสมุทให้โอบหลังล้อมไว้ แล้วตีกลับเข้ามาตัดหัวตัวนาย แล้วทำลายประตูเมืองเข้าไปในเมือง จากนั้นก็แกล้งหยุดตีฆ้องกลอง และราไฟเสีย
                ฝ่ายอิเรนเตรียมทัพไว้พร้อมแล้ว คอยสดับตรับฟังข้าศึก  เมื่อเสียงเกราะเคาะขานหายไป ทั้งแสงไฟก็โทรมลง นึกว่าพวกกองทัพข้าศึกหลับ จึงให้กองทัพของตนถือชุดอาวุธสั้นเข้าปะปนกันไป จะได้สังเกตเห็นเป็นสำคัญ ยกกำลังออกไปนอกกำแพง พวกโยธาฝ่ายศรีสุวรรณก็ทำทีแตกหนีไป พวกชาวด่านเห็นข้าศึกหนีก็เข้าโจมตีติดพัน
                ฝ่ายสินสมุทหยุดยกเข้าวกหลัง สกัดกั้นไว้ที่ประตูป่า วิเชียรขับทัพหลังตั้งประจัญไว้ โมราพาทหารเข้าด้านซ้าย สานนอ้อมไปทางด้านขวา ขับโยธาเข้าแทงฟันประจัญบาน
                ฝ่ายบังอลูมูรหุ่มที่คุมทัพอยู่ก็ถูกฝ่ายศรีสุวรรณตีแตกมาจนถึงป่าตาลก็ถูกล้อม  อิเรนเห็นผิดท่าที พอจวบรุ่งเช้าก็เรียกไพร่พลกลับ  สินสมุทก็เข้ามาโจมตีกระทบกับโมรากับสานน
                การรบเข้าขั้นตะลุมบอน ฝ่ายเมืองผลึกฮึกหาญเข้าสังหารฝ่ายฝรั่งตายกลาดเกลื่อน อิเรนถูกลูกธนูจนเลือดอาบทั่วตัว เห็นว่าจะถูกจับเป็น จึงเรียกศิษย์อังกฤษให้ตัดหัวตน เพื่อไม่ให้ศีรษะกับตัวไม่มีผู้ใดได้พบเห็น ยันตังจำต้องทำด้วยความจำใจแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าผูกคอไว้แล้วขับม้าหนีไปยังเมืองลังกา
                ทัพเมืองผลึกจับไพร่พลข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก สานนฆ่ามาตา โมราฆ่าบังอลู วิเชียรฆ่ามูรหุ่ม แล้วสามพราหมณ์ก็ตามมาถึงหน้าด่านแล้วให้ประจานศพฝรั่งทั้งหลาย เอาศพตัวนายเสียบเรียงไว้เคียงกัน แล้วร้องบอกชาวด่านว่าใครไม่สู้ ก็จะยกโทษให้ใครสู้จะฆ่าเสีย และให้เปิดประตูด่านให้กองทัพเข้าไป


    ตอนที่ ๓๓ ย่องตอดสะกดทัพ

                ฝ่ายลูกสาวเจ้าเมืองเตรียมการป้องกันอย่างเต็มที่ เห็นฝ่ายเมืองผลึกเอาศพนายทัพมาเสียบไว้ก็ตกใจ แต่ยังไม่เห็นบิดาของตน ทั้งยันตังที่สั่งไว้ก็ยังไม่กลับ จึงเที่ยวเดินตรวจพลอยู่

      ฝ่ายสามพราหมณ์สามทัพไม่ยับยั้ง หมายจะพังป้อมประตูเข้าสู้ไล่
    ให้เอาโซ่ทำคั่นเป็นบันได ขึ้นชิงชัยชาวพลบนกำแพง
    พวกฝรั่งทั้งสิ้นเอาหินทิ้ง บ้างยืนยิงปืนสั้นเกาทัณฑ์แผลง
    แต่หักหาญราญรอนจนอ่อนแรง ฝรั่งแทงล้มตายลงหลายคน ฯ
                สินสมุทเห็นทัพหน้าถอยก็ลงจากสิงห์ ปีนป้อมกำแพงเข้าปล้นค่าย  สามพราหมณ์ก็ตามเข้ามารุกรบ
                ฝ่ายลูกสาวเจ้าเมืองเห็นนายทัพข้าศึกก็ยิงด้วยธนูถูกกรอกปากสินสมุทพลัดตกลงมาจากกำแพงแทบสิ้นชีวิต แต่สินสมุทได้ชักลูกดอกออกแล้วภาวนาคาถา แผลนั้นก็หาย แล้วคิดแค้นแหงนดูเห็นเป็นผู้หญิง จึงลุกขึ้นขับทัพไปชั้นบน พอเข้าไปใกล้กลไกที่มีตารางคลุมอยู่ก็ถูกตารางครอบกำลังพลทมิฬเอาไว้ ไพร่พลของชาวด่าน ก็ยกเอาหินมาทุ่มทิ้งลงไป แล้วเปิดประตูจั่นหับออกจับกุมพลทมิฬเหล่านั้น
                ศรีสุวรรณยกทัพตามมาทันจึงช่วยแก้กันออกไปได้ทั้งไพร่นาย พอตกค่ำก็ถอยทัพมาตั้งค่าย แล้วปรึกษากันว่ากลไกของฝรั่งนั้นมีอยู่หลายอย่างมาก ถ้าโหมหักเข้าตีเมืองก็จะเปลืองกำลังทหาร จะคิดอ่านกันอย่างไร
                โมราเสนอว่าจะผูกเรือยนต์รบบรรจุกำลังพลทั้งนายไพร่แล่นไปตามข้ามภูเขาเข้าไปข้างใน ทุกคนก็เห็นด้วย
                ฝ่ายลูกสาวเจ้าเมืองเห็นข้าศึกกลับออกไปแต่ยังไม่ถอยหนีไปไหน จึงต้อนชาวเมืองขึ้นทำหน้าที่พร้อมกับทหาร แล้วปรึกษาเสนา
    บอกหนังสือชื่อนางอยู่ต่างพ่อ ให้ส่งต่อเป็นระยะไปถวาย
    คนเร็วรับขับม้าจนตาลาย  ถึงบ้านรายรับกันเป็นหลั่นไป
    อันเยี่ยงอย่างข้างฝรั่งนั้นอย่างนั้น ทางสามวันวันหนึ่งเดินถึงได้
    แต่ลังกามาด่านปราการไพร ประมาณได้สามวันดังพรรณนา ฯ
                ฝ่ายยันตังรีบเดินทางมาถึงเมืองลังกาก็เอาหัวครูถวายแก่นางวัณฬาแล้วทูลแถลงแจ้งกิจจาให้ทราบ
      นางละเวงเพ่งพิศคิดสังเวช น้ำพระเนตรหลั่งลงน่าสงสาร
    เพราะสัตย์ซื่อถือนายสู้วายปราณ โปรดประทานศพไว้ให้ยันตัง
    เลื่อนศีรษะเป็นพระอุปราช บรรจุไว้ในปราสาทบาทหลวงฝัง
                พอผู้ถือหนังสือของนางรำภาส่าหรีมาเฝ้าในใบบอกว่านางได้รักษาด่านได้ฆ่าข้าศึกล้มตายไปหลายพัน ข้าศึกยังถอยไปตั้งมั่นอยู่ บิดาของนางหายไปยังไม่กลับมา ถ้าแม้นไม่ไปช่วยให้ทัพในวันรุ่งก็เหลือกำลังที่จะรักษาด่านไว้ได้
      นางทรงฟังสรรเสริญว่าเกินหญิง ขยันยิ่งเสียกว่าชายนายทหาร
    ให้ตั้งนางต่างบิดาบัญชาการ เป็นผู้ผ่านพารารักษาเมือง
    ทั้งเครื่องยศกลดกระบี่มีสำหรับ หมวกประดับขนนกการเวกเหลือง
    เสื้อสุหร่ายลายทองดูรองเรือง ทั้งเกราะเครื่องแต่งรบมีครบครัน
                แล้วตั้งยังตังเป็นปลัดด่านคุมทหารหมื่นหนึ่ง แต่งตั้งให้วิรุญกับกุนตันเป็นขุนนาง ให้ยกพลคนละหมื่นไปรักษาด่านไว้ทั้งสามคนรีบคุมกำลังเดินทางไปทั้งกลางวัน และกลางคืน เป็นเวลาสองวันครึ่งก็ถึงค่ายดงตาลราย แล้วแจ้งความตามรับสั่งให้นางรำภาทราบ พอนางอ่านดูรู้ว่าบิดาตายก็เสียใจล้มสลบไป

    • Update : 7/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch