หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/17

    ตอนที่ ๒๙ ศึกเก้าทัพตีเมืองผลึก

                ฝ่ายฝรั่งลังกาพวกข้าศึกพากันยกทัพมาเมืองผลึกอย่างเนืองแน่น ด้วยมีหลายเมืองด้วยกัน กองตระเวนเมืองผลึก เห็นข้าศึกยกมาเป็นจำนวนมาก ก็ใช้วิธีสู้พลางถอยพลาง แล้วไปปิดปากน้ำไว้ สุดสาครกับสองอนุชาคุมกำลังออกต้านทาน
                ทัพท้าวเจ้าประเทศทุกเขตแคว้น ก็หลีกแล่นเรือเข้าถึงฝั่ง เห็นทัพเจ้าเมืองยกออกมาต้านทาน ก็พากันชิงกันรบ

    ด้วยจะใคร่ได้ผู้หญิงชิงกันรบ ไม่สมทบถ้อยทีประสีประสา
    เสียงทหารขานโห่เป็นโกลา เดินโยธาข้ามทุ่งเข้ากรุงไกร ฯ
                ไพร่พลเมืองผลึกบนเชิงเทินเนินหอรบ ก็ทำการสู้รบต้านทานข้าศึกเอาไว้เป็นสามารถ
      ฝ่ายพวกพลบนเชิงเนินหอรบ  ล้วนเจนจบจ้องปืนยืนไสว
    เห็นกองทัพคับคั่งคอยชั่งใจ พอจวนใกล้ปล่อยปืนเสียงครื้นครึก
    ถูกสายโซ่โยธกาลงดาดาษ ลูกกลิ้งกลาดกลางทุ่งกรุงผลึก
    ปืนป้อมเปรี้ยงเสียงสนั่นลั่นพิลึก ถูกข้าศึกล้มตายลงหลายพัน
    ทีเหลือตายนายต้อนให้ถอนขวาก บ้างแล่นลากปืนยิงวิ่งถลัน
    ฯลฯ
    ถูกปืนตับยับย่อยผ็อยผ็อยล้ม ยิงระดมดาษดื่นเป็นหมื่นแสน
    เสียงข้าศึกฮีกโห่ป้องโล่แพน ถือหลาวแหลนรบพุ่งชาวกรุงไกร
                องค์สุวรรณมาลีเข้าไปทูลการศึกแก่พระอภัย แต่พระอภัยไม่ใส่พระทัย พระนางจึงแปลงองค์เป็นชาย ทรงเครื่องรบพร้อมทั้งสาวใช้ใหญ่น้อย ห้าร้อยเศษแปลงเพศเป็นชาย โพกศีรษะเหมือนทหารออกตรวจพลรอบกำแพงเมือง
    ขุนนางแห่แลสล้างกลางนคร อัศดรเดินรอบขอบกำแพง
    เที่ยวตรวจพลบนเชิงเทินเนินหอรบ จนจวบพลบทินกรก็อ่อนแสง
    ฯลฯ
    แล้วแลดูผู้คนพลข้าศึก ล้วนเหี้ยมฮึกหาญรบไม่หลบหนี
    บ้างถอนขวากลากล้อเข้าต่อตี แต่ล้วนมีโซ่สำหรับสับกำแพง
    บ้างปีนป่ายบันไดไม้ไผ่พาด ชาวเมืองฟาดฟันผันกันด้วยแผง
    ทั้งแหลมหลาวง้าวทวนเข้าสวนแทง ต่างต่อแย้งยิงกันประจัญบาน
    นางดูศึกฮึกฮักเห็นหนักแน่น ไม่ทดแทนถึงขนาดจะอาจหาญ
    ดำริพลางนางกษัตริย์มาจัดการ จะต้านทานทัพหลวงทะลวงฟัน
    ทั้งพลโล่โตมรศรกำซาบ ทหารดาบสองเล่มล้วนเข้มข้น
    กับทวนทองกองหน้าทั้งห้าพัน ช้างน้ำมันกล้างานั้นห้าร้อย
    เปิดประตูพรูพรั่งออกคั่งคับ เข้าตีทัพเมืองลยาไม่ล่าถอย
    ฯลฯ
                องค์สุวรรณมาลีรบอยู่จนค่ำและตกอยู่ในที่ล้อม จะกลับเข้าเมืองก็ไม่พ้น ได้ทำการสู้รบอยู่จนดึกดื่น ฆ่าฟันข้าศึกล้มตายไปเป็นอันมาก
                ฝ่ายทัพเรือของสุดสาครออกรบยึดได้กำปั่น และปืนผาเป็นจำนวนมาก จึงได้มอบให้กับชาวด่านเป็นการหลวง พอพลบค่ำน้ำขึ้นก็ให้แล่นเรือเข้าเมือง ถึงปากน้ำได้ยินเสียงรบกันอยู่เป็นโกลาหล จึงจัดแจงแบ่งไพร่พล ให้น้องน้อยคอยรับรบด้านทัพเรือช่วยสมทบกองตระเวน แล้วพลขึ้นบกไปหมื่นห้าพันคน เข้ารบกับพวกที่ล้อมเมืองอยู่
                ฝ่ายทัพพระมเหสีพ้นออกมาจากที่ล้อมแล้วก็รีบยกอ้อมมาถึงเนินเชิงเทิน เห็นไพร่พลล้นหลามมาตามทาง จึงถามขุนนางว่าเป็นของผู้ใด เมื่อทราบว่าเป็นของสุดสาคร ก็มีความยินดียิ่งนัก แล้วสั่งเสนาในให้ไปแจ้งเรื่องให้ทราบ
                สุดสาครรู้ว่าเป็นพระมเหสี ก็หยุดยั้งรั้งรอไพร่พลไว้ แล้วลงจากหลังม้ามังกรไปเฝ้าพระมเหสี  นางกษัตริย์เห็นสุดสาครเดินเข้ามามีรูปลักษณะไม่ผิดกับพระบิดา ก็ลงจากรถเดินมาจูงหัตถ์สุดสาคร  หน่อกษัตริย์ทรุดคำนับพระมเหสี แล้วพระมเหสีก็ประคองมาขึ้นรถให้นั่งบัลลังก์บอกว่าอย่าได้น้อยใจที่ให้รั้งรออยู่ที่ด่าน
                สุดสาครทูลตอบว่าที่ข้าศึกมาล้อมเมืองนั้น จะขอรับคับเข็ญเป็นธุระไม่ให้เสียเมือง แต่เป็นห่วงพระบิดาที่ประชวรอยู่ยังไม่ได้เข้าเฝ้า นางกษัตริย์ก็ชี้แจงว่าเมื่อวานซืนนี้ไม่แน่ใจ แต่เดี๋ยวนี้แน่ใจแล้ว คงจะได้ไปรักษาพยาบาลพระบิดา ขอให้การรบพอสงบลง ให้กองทัพข้าศึกถอยออกไปก่อน  ตอนนี้ข้าศึกล้อมเมืองอยู่ จะคิดการฉันใดดี
                สุดสาครทูลว่าตนจะออกรบเอง ขอให้พระมเหสีกลับวังไปก่อน  แล้วมาตรวจดูไพร่พล เห็นยังอยู่ครบครันก็นำกำลังเข้าต่อตีข้าศึกที่ล้อมเมืองอยู่เป็นตะลุมบอน  พระมเหสีอยู่ที่ป้อมเห็นข้าศึกรุมล้อมลูกรักอยู่เป็นจำนวนมากจึงอำมาตย์ฆาตฆ้องกลองสัญญา ยกกำลังออกไปช่วยสมทบทัพสุดสาคร
                ฝ่ายสองพี่น้องสองกุมารอยู่ด่านสมุทคอยท่าสุดสาครอยู่จนรุ่งเช้า ยังไม่เห็นกลับมา จึงจัดพลแล้วยกมายังตัวเมือง เห็นยังรบกันอยู่ และสุดสาครอยู่ท่ามกลางกองทัพ ก็สั่งให้ทหารเข้ารบสมทบกัน
                สุดสาครตีตลบออกข้างนอกได้ก็พาพระมารดาเลี่ยงเข้าเมือง พอเห็นพี่น้องสองกุมารก็กวักหัตถ์เรียกให้เข้ามาหา สองกุมารก็เล่าผลการรบของตนให้ทราบ
                ฝ่ายพระมเหสีถูกเกาทัณฑ์ข้าศึกโลหิตอาบพระอังสา จึงบอกแก่สามกุมารว่าตนถูกลูกธนูจะไปใส่ยาสมานแผลแล้วจะรีบกลับมา ให้ทั้งสามกุมารช่วยกันรักษาเมืองไว้ แล้วพากันคุมพลออกรบรับกับข้าศึกที่ยกมาทังเจ็ดทัพจนพลบค่ำจึงให้หยุดทัพ
    แล้วหยุดทัพยับยั้งอยู่ปลายทุ่ง คอยรบพุ่งปิดทางไว้กลางหน
    อันข้าวน้ำลำเลียงเสบียงพล วิเสทขนเอาไปเลี้ยงแต่เวียงชัย ฯ
                กล่าวถึงศรีสุวรรณอยู่ที่กรุงรัตนา เมื่อได้รับแจ้งการจากเรือใช้แล้ว ก็พาสินสมุทรรีบเดินทางมาเมืองผลึก ได้แวะส่งองค์อรุณรัศมีที่เมืองรมจักร และได้พบพระวงศาแล้วก็รับพราหมณ์สามคนมาด้วย ระหว่างทางลมสลาตันพัดกำปั่นไปยังเกาะกลางสมุทพบฝูงสิงห์โตบนเกาะ สินสมุทจึงจับมาเป็นพาหนะ เดินทางมาได้เจ็ดเดือนก็เข้าเขตเมืองผลึก เห็นข้าศึกติดเมืองอยู่ทางทิศใต้จึงพากันเข้าเมืองไปเฝ้าพระมเหสี พระมเหสีก็เล่าความให้ฟังทั้งหมด จากนั้นจึงพากันไปเฝ้าพระอภัย พระอภัยเห็นแล้วจำไม่ได้ สั่งให้สาวใช้ไล่ออกไป
                ศรีสุวรรณเห็นพี่วิปริตก็ทุกข์ใจ สินสมุทจะเอารูปนางละเวงไปเผาพระอภัยก็ไม่ยอม ทั้งสามกษัตริย์จึงหารือกัน พระมเหสีนึกขึ้นได้จึงบอกว่า โหรได้ดูพระอภัยแล้วบอกว่าจะไม่ถึงชีวิต จะรอดด้วยเผ่าพงศ์พระวงศา สุดสาครที่เดินทางมาบอกว่าเป็นโอรสได้ช่วยรบสู้กู้เมือง เห็นว่าจะเป็นหน่อเชื้อไข แต่ไม่แจ้งใจในวงศ์วานของมารดาจึงให้รั้งรออยู่
                ศรีสุวรรณคิดถึงความหลังแล้วก็ยังไม่แจ้งใจ ส่วนสินสมุทนึกได้ว่า เมื่อตอนอยู่ที่เกาะแก้วพิศดาร พระบิดาได้รักใคร่อยู่กับนางเงือกที่พาพระบิดาหนีมาได้กว่าปี จนนางมีครรภ์แล้วจึงจากมา จึงจะไปถามความดู
    จะไปถามความดูให้รู้แน่ แม้ลูกแม่แน่ชัดนางมัจฉา
    จะมีธำมรงค์ครุฑบุษรา กับจุฑามณีที่ประทาน ฯ
                สองกษัตริย์เห็นชอบด้วยกับสินสมุท สินสมุทจึงออกไปพบสุดสาคร สุดสาครเห็นสินสมุทมีรูปร่างลักษณะเหมือนคำของปู่ก็รู้ว่าเป็นพี่ของตน
    สมสังเกตเนตรแดงดังแสงครั่ง มีเขี้ยวปลั่งเปล่งจำรัสประภัสสร
    เหมือนคำปู่ดูแลเห็นแน่นอน สุดสาครเชิญพระพี่ให้ลีลา ฯ
                สินสมุทเห็นสุดสาครมีพระพักตร์ผ่องผิวอย่างนางมัจฉา และเห็นแหวนก็รู้ว่าเป็นน้อง
      หน่อนรินทร์สินสมุทเห็นนุชน้อง  พระพักตร์ผ่องผิวอย่างนางมัจฉา
    ฯลฯ
    ทั้งเห็นแหวนแม่นยำเป็นสำคัญ ยิ่งแม่นมั่นมิได้หมางระคางแคลง
    ฯลฯ
    แล้วปราศรัยไต่ถามกันตามซื่อ พ่อแล้วหรือลูกแม่สุวรรณมัจฉา
    น้องคำนับรับรสพจนา พระเชษฐาถามซ้ำเนื้อความไป
    ฯลฯ
                สุดสาครถามอาการของพระบิดา สินสมุทตอบว่ามีผู้หญิงสิงพระบิดาอยู่ ทำให้ฟั่นเฟือนถึงนารี ได้รูปในกระดาษมาจูบกอด เพลินจิตด้วยฤทธิ์ผี จะฉีกขยี้อย่างไรก็ไม่ฉีกขาด
                สุดสาครบอกว่าไม่ต้องหวั่น ถ้ามีปีศาจสิงอยู่จริงก็จะแก้ไข
      อนุชาว่ากระนั้นอย่าหวั่นหวาด แม้ปีศาจสิงแท้จะแก้ไข
    ด้วยไม้เท้าเจ้าตาให้มาไว้ สำหรับไล่ผีสางปะรางคลาน
    แต่ผีดิบสิบโกฎิยังโลดวิ่ง ผีผู้หญิงหรือจะอยู่สู้หม่อมฉาน
    แต่คอยฟังรั้งราอยู่ช้านาน ไม่แจ้งการเลยว่าเป็นถึงเช่นนี้ ฯ
                สินสมุทพาสุดสาครกับสองอนุชา ไปเฝ้าพระมเหสีกับพระอนุชา เมื่อได้ไต่ถามแนะนำเผ่าพงศ์เป็นที่เข้าใจกันดีแล้ว สินสมุทก็ไปลักเอารูปวาดนางละเวงมาให้สุดสาคร ทำพิธีไล่ปีศาจร้าย
    แล้วคลี่กลางปรางค์ปราสาทประหลาดใจ พระหน่อไทภาวนามหามนต์
    เสกไม้เท้าดาบสจดกระดาษ  เสียงรูปวาดกรีดร้องสยองขน
    แล้วตีซ้ำผีร้ายก็วายชนม์ กระดาษป่นเป็นประกายวูบหายไป
                ฝ่ายองค์พระอภัย เมื่อปีศาจสร่างจากใจแล้ว ก็ฟื้นตื่นบรรทมเห็นลูกรัก อัศเรศ และอนุชา มาเฝ้ากันพร้อมหน้า แล้วมองเห็นสุดสาครเห็นผุดผาดผิวอย่างนางมัจฉา ก็หวนระลึกถึงความหลัง แล้วจึงถามพระมเหสีว่า สามกุมารนี้เป็นลูกผู้ใดบ้าง พระมเหสีจึงทูลความให้ทรงทราบ พระอภัยได้ทราบเรื่องแล้ว ก็มีความยินดียิ่งนัก ได้ถามถึงนางสุวรรณมัจฉา สุดสาครก็เล่าความให้ฟัง
      สุดสาครร้อนจิตคิดถึงแม่ มาเห็นแต่บิตุรงค์น่าสงสาร
    ทรงกันแสงแจ้งเรื่องเคืองรำคาญ อันพระมารดาจนพ้นปัญญา
    ฯลฯ
    แต่ส้มสูกลูกน้อยที่สอยได้ ก็แบ่งให้แม่มัจฉาตาฤาษ๊
    จนลูกยาอายุได้สามปี พระชนนีแนะความให้ตามมา
    แล้วเล่าเรื่องเมืองน้องสองกษัตริย์ พูนสวัสดิ์หวังพระองค์เหมือนวงศา
    ฯลฯ
    ลูกจากมาน่าที่จะวิตก ด้วยเปลี่ยวอกเปล่าใจอาลัยถึง
    จะง่วงเหงาเศร้าจิตคิดคะนึง แสนรำพึงถึงลูกผูกอาลัย
    แล้วสั่งมาว่าแม้นพบพระภูวนาถ ให้กราบบาททูลแจ้งแถลงไข
    ว่าชาตินี้มิได้มาเป็นข้าไท แต่มีใจคิดถึงองค์พระทรงธรรม์
    อันปิ่นทองของประทานของผ่านเกล้า พระแม่เจ้ามอบให้หม่อมฉัน
    โอ้สงสารนานแล้วแต่แคล้วกัน จะนับวันเวลาตั้งตาคอย ฯ
                พระอภัยได้ฟังก็สังเวช อาลัยในเงือกน้อย ทุกคนต่างก็พลอยโศกเศร้าไปด้วย จากนั้นก็ได้แนะนำให้บรรดาลูกหลานได้รู้จักกัน แล้วตรัสถามเรื่องการศึก พระมเหสีก็ทูลว่าฝรั่งยังตั้งค่ายอยู่ตามท้องน้ำ และมีการยกกำลังมาเพิ่มเติม ครั้งนี้ถ้าไม่ได้สุดสาครมาช่วย ก็คงจะเสียเมืองไปแล้ว
                หลังจากนั้น พระอภัยก็ได้เสด็จออกขุนนางปรึกษาข้าเฝ้า เหล่าทหารถึงการศึก
    พระปรึกษาข้าเฝ้าเหล่าทหาร ศึกมาต้านต่อแย้งด้วยแข็งขัน
    จงเร่งรัดจัดทัพสลับกัน ให้เป็นปัญจเสนาสง่างาม
    พรุ่งนี้เราจะยกออกยงยุทธ  ให้สิ้นสุดศึกเตียนที่เสี้ยนหนาม
    ศรีสุวรรณนั้นเกณฑ์เป็นกองหน้า ล้วนโยธารมจักรคึกคักคั่ง
    พลทมิฬสินสมุทมาหยุดยั้ง อยู่พร้อมพรั่งปีกขวาสง่างาม
    พวกโยธาการะเวกเป็นปีกซ้าย ทั้งไพร่นายล้วนชำนาญการสนาม
    เจ้าวิเชียรโมราสานนพราหมณ์ เป็นกองหลังตั้งตามพยุหทัพ
    พวกพหลพลผลึกเป็นกองหลวง เวลาล่วงตีสิบเอ็ดพอเสร็จสรรพ
    ฯลฯ
    ทั้งซ้ายขวาหน้าหลังยับยั้งหยุด ตั้งเป็นครุฑกระบวนนามตามตำรับ
    เห็นโยธาพวกฝรั่งออกคั่งคับ เป็นแปดทัพทั้งเดิมและเติมมา
    ล้วนมีธงลงหนังสือชื่อประเทศ เมืองละเมดมลิกันสำปันหนา
    กรุงกวินจีนตั๋งอังคุลา ที่ยกมาทางบกอีกหกทัพ
    ฯลฯ
                ฝ่ายองค์พระอภัย เห็นศึกหนักนับแสน จะเป่าปี่ก็เห็นว่าจะไม่แสดงความเก่งกล้า ให้เป็นที่เลื่องลือเห็นว่าฝ่ายเรามาอยู่กันพร้อมหน้า ล้วนมีวิชาปรากฎ จะได้เห็นฝีมือของสองพี่น้อง จะได้มีเกียรติยศไว้ในไตรภพ จึงให้ทูตไปเจรจานัดอย่างกษัตริย์ สงครามตามขนบ  ถ้าใช้ไพร่พลเข้ารบก็จะล้มตายกันมากมาย
    ซึ่งจะชนะจะแพ้เพราะแม่ทัพ  ออกต่อรับรบสู้เป็นคู่ขัน
    ใครพลาญเราเจ้าบุรินทร์สิ้นชีวัน คือคนนั้นได้ลูกสาวเจ้าลังกา ฯ
      ทั้งเก้าทัพรับกันเป็นธรรมยุทธ์ รำอาวุธเรียงรายทั้งซ้ายขวา
    แต่ม้าทรงองค์ท้าวเจ้าคุลา ออกยืนหน้านายทหารถือขวานคลี
    บั้นเอวผูกลูกขลุบแล้วคลุมเสื้อ ดูดังเสือโคร่งคร่ำดำมิดหมี
    แล้วร้องท้าว่าใคร่ผู้ใดดี มาต่อตีตามพนันเหมือนสัญญา
    ฯลฯ
                สินสมุทเข้ารบด้วย ถูกลูกขลุบ ของเจ้าคุลาล้มสลบไป สุดสาครเข้ามารบรับก็ถูกลูกขลุบจนจุก ศรีสุวรรณเข้ามารับมือควงกระบองรับลูกขลุบได้ทั้งหมด แล้วใช้กระบองตีถูกเจ้าคุลาตาย สองพี่น้องสินสมุทสุดสาครกลับฟื้นคืนขึ้น เหมือนหลับแล้วตื่น
                เจ้ากวินเห็นเพื่อนตายไป จึงกระหวัดสายกวินเข้าต่อสู้ คล้องกระบองศรีสุวรรณหลุดมือไป แล้วรัดพระชงฆ์จนองค์ทรุด สินสมุทเข้ามาช่วยไว้ทัน เจ้ากวินทิ้งมาอีก สายกวินโอบรัดกายสินสมุทไว้ แต่สินสมุทสะบัดสายขาด แล้วเอาขวานฟันเจ้ากวินตาย
                ท้าวเจ้าละเมด ถืออาวุธกายสิทธิ์ชื่อ ภุขัน ที่ฟันใครแล้วเหมือนไฟฟ้า คนโดนฟันจะตายด้วยอาการที่เนื้อเผือด เลือดไม่มี ครั้นเห็นเจ้ากวินตายก็เข้ามาต่อสู้ สินสมุทพลาดท่าถูกอาวุธสลบไป ศรีสุวรรณเข้ามารับมือ กระบองเหล็กของศรีสุวรรณถูกภุขันก็หักสะบั้นไป สุดสาครถือไม้เท้าเข้าสู้ ใช้ไม้เท้าตีท้าวละเมดที่ศีรษะ จนศีรษะขาดถึงแก่ชีวิต แล้วเก็บเอาเหล็กภุขันมาไว้ สินสมุทก็กลับฟื้นคืนมา
                ฝ่ายท้าวจีนตั๋งนั้น ฝังเพชรคงกระพันถือทุรัน น้ำมันไฟทั้งสองมือ เมื่อฟาดไปยังผู้ใดแล้ว ก็จะมีไฟพิษติดเต็มร่างกาย ได้ควบม้าออกมาต่อสู้ สินสมุทตรงเข้ารับมือ จีนตั๋งฟาดประกายไฟถูกสินสมุทสลบไป สุดสาครเข้ามารับมือก็ถูกจีนตั๋งฟาดไฟร่างกายไหม้จนสลบไป ศรีสุวรรณเข้าต่อสู้เอากระบองตีจีนตั๋งพลัดตกม้าแล้วลุกมาต่อสู้ใหม่ ฟาดไฟไปใส่ศรีสุวรรณเอากระบองบังไว้ได้ แล้วเอากระบองกระทุ้งแทงแต่จีนตั๋งมีเพชรเม็ดใหญ่ป้องกันตัวจึงไม่ได้เป็นอะไรแล้วฟาดไฟมาอีกถูกนิ้วมือของศรีสุวรรณที่ถือกระบองจนพองจนต้องถอยหลบออกมา
                พี่น้องสองกษัตริย์เข้าไปสกัดกั้น เอาเกาทัฑณ์ยิงไปถูกจีนตั๋งแต่ทำอันตรายจีนตั๋งไม่ได้ แล้วจีนตั๋งกลับฟาดไฟไปยังสองกุมารา แต่ทำอันตรายไม่ได้ เนื่องจากฤทธิ์ของแก้วแววตาป้องกันเอาไว้ จึงถูกแต่ม้าทำให้กุมารผู้น้องพลัดตกจากหลังม้า กุมารีผู้พี่แคล่วคล่องกว่าเอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกลูกตาข้างขวาของจีนตั๋งจนตกม้า แล้วหนีกลับไปรักษาตัวในกองทัพของตน
                ฝ่ายพระอภัย เห็นโอรสทั้งสองยังไม่ฟื้น หาหมอทั้งหมดมาแก้ไขก็ไม่ได้ผล
                ฝ่ายฝรั่งเมื่อรู้ว่าจีนตั๋งมีชัยแก่นายทัพเมืองผลึกไปสามคนก็อิจฉาเกรงว่าจะได้นางละเวงไป จึงลอบใช้ให้บ่าวไปบอกชาวทัพเมืองผลึกว่าการดับพิษไฟต้องใช้ฝน เมื่อพระอภัยทราบความก็นึกได้ว่าสานนนั้นมีวิชาเรียกฝนได้ จึงให้สานนทำพิธีเรียกฝน เมื่อสององค์ต้องน้ำฝนก็ฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ
                ฝ่ายสานนได้อาสาเรียกฝนปนลมเพื่อให้ข้าศึกหนาว แล้วฝ่ายพระอภัยก็จะยกกำลังเข้าโจมตี พระอภัยเห็นด้วยจึงให้ดำเนินการก็ได้ชัยชนะ
      พระอภัยได้ชนะเพราะพระเวท แสนวิเศษสานนคนขยัน
    ฝรั่งแขกแตกตายเสียหลายพัน  ที่เหลือนั้นจับได้ทั้งไพร่นาย
    ฯลฯ

    • Update : 5/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch