หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอภัยมณี/10

    ตอนที่ ๒๐ สินสมุทรบกับอุศเรน

                พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณ เห็นกำปั่นโอบอ้อมเข้าล้อมหลังทั้งซ้ายขวาเป็นจำนวนมาก จึงตรัสสั่งสินสมุทให้คิดอ่าน การสงครามเอาเอง และให้ปรึกษากับผู้ที่เคยศึก แล้วบอกว่าให้ไว้ชีวิตลูกเจ้าลังกา อย่าฆ่าให้ตาย แล้วหารือกับอังกุหร่า ว่าจะคิดอ่านการรบทำนองไร

      อังกุหร่าว่าเรือเรากว้างขวาง รบให้ห่างอย่าให้ถึงจึงจะได้
    ฉวยรบรับสัประยุทธ์มันจุดไฟ  จะแก้ไขขัดสนจนปัญญา
    ขอพระองค์จงออกรับเป็นทัพหลวง  ข้าทั้งปวงจะได้รับทัพซ้ายขวา
    ข้างหลังไว้ให้ทหารพระเจ้าอา  รายรักษาแซงกันให้ทันการ
    ฯลฯ
    แต่คนน้อยคอยรบประจบรับ แทรกสลับเปลี่ยนซ้ายย้ายไปขวา
    ใส่ธงเทียวเขียวแดงดาษดา เป็นเรือห้าร้อยถ้วนกระบวนรบ
    ฯลฯ
    ปืนจังกาหน้าท้ายทั้งรายข้าง  เกณฑ์ลูกจ้างจีนไทยพวกไหหลำ
    ให้ทำค่ายรายตั้งล้วนถังน้ำ ตลอดลำสำหรับไว้ดับเพลิง
    แล้วรีบร้อนถอนสมอกำปั่นใหญ่ แต่พอให้เคลื่อนคล้อยออกลอบเหลิง
    ทหารโห่โกลาดูร่าเริง ล้วนรู้เชิงชิงชัยทั้งไพร่นาย ฯ
                สินสมุทมาหาแม่เลี้ยงแล้วเล่าความทั้งหมดให้ฟัง นางสุวรรณมาลีได้ฟังแล้วก็ให้แค้นพระอภัย แล้วบอกว่าแม้นตนเป็นหญิง แต่ก็รู้กลศึกจะไปช่วยลูกออกรบ สินสมุทได้ฟังก็ดีใจ แล้วนางก็แต่งตัวเป็นชาย
    แล้วโฉมยงทรงเครื่องพิชัยยุทธ์ อย่างบุรุษรัดกระสันให้ถันหาย
    ใส่เสื้อกลีบจีบเอวสำอางกาย สังวาลสายสร้อยสลับประดับเพชร
    คาดเข็มขัดรัดแน่นเหน็บกระบี่ โกร่งมณีเนาวรัตน์ดูตรัสเตร็จ
    เสียบพระแสงกริชสันกัลเม็ด ใส่เกราะเพชรโพกผ้าเหมือนมลายู
    พระลูกน้อยพลอยชมสมทหาร แล้วว่านานไปพระแม่จะเกลียดหมู
    นางสั่งลูกว่าอย่าให้ผู้ใดรู้ ถึงแลดูก็จะแปลกกว่าแขกจริง
    ฯลฯ
    กระบวนตั้งดังพระยาเหราแดง จะวัดแว้งไพรีไม่หนีกัน
    แล้วแลดูโยธาลงกาตั้ง เป็นกำลังนาคราชจะผาดผัน
    มีหัวหางวางเขี้ยวดูเกี่ยวกัน คอยรัดพันไพรินดังจินดา
    ด้วยโฉมตรูรู้พิชัยสงครามครบ กระบวนรบเห็นจะแพ้โอรสา
    ด้วยนาคีมีแต่กายฝ่ายเหรา มีบาทาราวีคงมีชัย
    ฯลฯ
    นางเมินเมียงเคียงกระซิบพระโอรส เห็นเมฆตกลมตั้งกำบังบน
    ยกออกรับทัพลังกาอย่าให้ชิด ฉวยเพลิงติดลมพัดจะขัดสน
    ให้รบสู้ดูกำลังลำพังตน ต่ออับจนเจ้าจงโจมออกโรมรัน
    ฯลฯ
      สินสมุทผุดลุกขึ้นไล่จับ ทหารรับป้องกันพันผุยผง
    แผลงศักดากล้าหาญชาญณรงค์  รวบได้องค์ลูกท้าวเจ้าลังกา
    ฯลฯ
      อุศเรนเผ่นโผนโจนจะม้วย ทหารฉวยฉุดกายทั้งซ้ายขวา
    ถึงเรือใหญ่ให้พยุงจูงขึ้นมา ตรงไปหาชนนีด้วยด้วยดีใจ
    ค่อย ๆ ว่าฆ่าเสียเถิดหรือคะ นางว่าพระบิดาจะว่าได้
    แล้วโฉมยงสงสารรำคาญใจ จะดูไม่เต็มเนตรเวทนา ฯ
    ฝ่ายพระอภัยมณีกับศรีสุวรรณ  วิ่งมาทันขอโทษโอรสา
    เข้าสวมสอดกอดลูกเจ้าลังกา ชลนาไหลหลั่งลงพรั่งพราย
    แล้วแก้มัดตรัสเรียกขึ้นร่วมอาสน์ พจนาถมิให้ช้ำระส่ำระสาย
    ฯลฯ
    เราขอไว้ไม่เอาทั้งข้าวของ คืนสนองคุณให้ท่านไปหมด
    แล้วเหลียวหลังมาอ้อนวอนโอรส ขอแทนทดคุณท่านโดยสารมา ฯ
      สินสมุทนบนอบตอบสนอง ลูกจำต้องตีทัพรับอาสา
    ซึ่งชิงชัยได้ชนะพระเจ้าอา พระมารดาดอกสันทัดท่านจัดการ
    แล้วให้ยิงปืนใหญ่ออกไปช่วย จึงได้ด้วยพระปัญญาปรีชาหาญ
    แล้วหันหน้ามาประณตบทมาลย์ ยกให้ท่านเถิดนะพระมารดา ฯ
                อุศเรนกลับไปกองทัพแล้ว พบว่ากำปั่นหกร้อยเสียหายย่อยยับไปเกือบกึ่ง ก็ให้โกรธแค้นยิ่งนัก จึงคิดเตรียมการรบต่อไป
                ฝ่ายพระอภัยได้เห็นหน้านางสุวรรณมาลี แล้วก็ให้คิดถึงนาง คิดจะพานางไปเมืองรัตนา เพื่อที่จะได้เสกเป็นอัครชายา แล้วก็ชื่นชมสินสมุทที่แกล้วกล้าในการรบจนมีชัย และได้พระเจ้าอามาพบแล้วก็จะพาไปเมืองของย่าปู่ สินสมุทจึงทูลถามว่า จะพาตนไปไหน ถ้าสงสารมารดาที่กล่าวไว้ว่า ถ้าไม่พบพระบิดาก็จะพาตนไปเมืองผลึก ด้วยคิดถึงพระแม่และวงศา แล้วจะมอบขอบขัณฑสีมาให้ตนขึ้นครองเมือง เมื่อพระบิดาว่าจะไปกรุงรัตนาก่อน ตนก็จะอ้อนวอนพระมารดา ไปเมืองของย่าปู่ก่อน เมื่อเห็นว่าอยู่ดีแล้ว ตนก็จะลามากับนาง
                สินสมุทลาสองกษัตริย์มาหานางสุวรรณมาลี แล้วเล่าความที่พระบิดาต้องการ นางจึงบอกว่า ชาวลังกาที่ถอยไปนั้น จะกลับมารบพุ่งกับกรุงไกรด้วยความโกรธ สงสารพระมารดาจะเดือดร้อนใจ ด้วยไม่มีญาติ ถ้าสินสมุทักตนก็ขอให้ยกทัพไปดับร้อนที่เมืองผลึก แล้วขึ้นครองเมืองเสร็จแล้ว จึงให้สินสมุทพาพระบิดาไปเมืองของพระบิดา
                สินสมุทได้ฟังก็เห็นด้วยกับพระมารดา แล้วเอาความมาทูลพระอภัย พระอภัยจำต้องผ่อนตาม แล้วให้สินสมุทไปบอกนางว่า ตนกับอาจะไปเมืองผลึกด้วย เพื่อช่วยงานศึกที่จะมีมาจากเจ้าลังกา


    ตอนที่ ๒๑ พระอภัยมณีเกี้ยวนางสุวรรณมาลี

                พระอภัยคิดถึงนางสุวรรณมาลี ออกเดินตามหานางไปในเรือ แต่ไม่ได้พบนาง
                กล่าวถึง อุศเรนเตรียมยกทัพไปทำศึกได้เสร็จสรรพแล้วตรัสสั่ง สารวัดหัศเกนว่า

    รบคราวนี้ตีทัพเหมือนจับเสือ ถึงเสียเกลือแต่ให้ได้พิมเสน
    ทหารเราเล่าก็หัดไว้จัดเจน หัศเกนเห็นใครถอยมึงคอยแทง ฯ
                จากนั้นได้ให้ เรือใช้ไปสืบข่าวข้าศึก ได้รับแจ้งว่าเรือใหญ่แล่นไปทางทิศพายัพ อุศเรนก็รู้ว่าพระอภัยยังไม่ไปเมืองรัตนา แต่เห็นจะไปเมืองผลึก จึงคิดตามไปแก้แค้น โดยจะตามไปให้อยู่เหนือลม เพื่อจะได้เผากำปั่นของข้าศึก แล้วออกเรือตามไป ตั้งแต่ตอนพลบค่ำ เรือได้ลมอุตราก็แล่นไปทันกำปั่นนางสุวรรณมาลี เมื่อตอนเที่ยงคืนเกิดรบกัน
                อุศเรนเร่งโยธาเข้าตีจนถึงเรือใหญ่ จึงเอาไฟโยนเข้าใส่เรือ เกิดรบกันอุศเรนต้องอาวุธและแตกทัพ
    บ้างทิ้งผ้าน้ำมันยางบ้างขว้างคบ บ้างตลบปีนป่ายตะกายโหน
    จนเพลิงพลุ่งรุ่งโรจน์ขึ้นโชติโชน ทหารโจรรบรับบ้างดับไฟ
    บ้างอุดช่องสองข้างเอาวางถัง ให้น้ำขังดาดฟ้าชลาไหล
    ถึงจะทิ้งเพลิงเผาสักเท่าไร ก็ไม่ไหม้สำเภาเสากระโดง
    ฯลฯ
    ให้พลขึ้นยืนเยื้องยิงประดัง ถูกพลลังกาตายเสียหลายพัน
    ทั้งพระชงฆ์องค์อุศเรนหัก เลือดทะลักลมถลาแทบอาสัญ
    พอเกิดคลื่นลมกล้าสลาตัน ตีกำปั่นพรัดพรายกระจายไป
    ฯลฯ
    ฝ่ายโยธีศรีสุวรรณสินสมุท ต้องอาวุธเจ็บป่วยม้วยตักษัย
    ที่ยังเหลือเรือรบสำหรับใช้ ให้นับได้ห้าร้อยมาลอยเรียง
    ฯลฯ
    ไปตามเข็มเล็มเลี้ยวแหลมสุหรัด แล้วแล่นลัดปากน้ำสำปั้นหนา
    ล้อมถนนพ้นกำแพงลังกามา หมายพาราผลึกแล่นตามแผน ฯ
                อุศเรนแตกทัพแล้ว จึงหารือกับบรรดาฝรั่งนายทหาร ก็ได้รับคำแนะนำให้กลับไปรักษาองค์ที่กรุงลังกาก่อน แล้วค่ออยคิดอ่านยกทัพกลับมาทำศึกใหม่ อุศเรนก็เห็นด้วย จึงให้เลิกทัพกลับไปลังกา
                กล่าวถึงกำปั่นสินสมุท ขณะเดินทางไปเมืองผลึก พระอภัยก็ทุกข์ร้อนรำพึงถึงนางสุวรรณมาลี จึงเขียนสารถึงนาง แล้วให้สินสมุทถือไปให้นาง ได้มีการโต้ตอบสารกันโดยมีสินสมุทเป็นผู้นำสาร ในสารนั้น พระอภัยได้อ้อนวอนงอนง้อ ส่วนนางสุวรรณมาลีก็ตัดพ้อต่อว่า
      กระดาษแทนแผ่นทองประคองเขียน ด้วยพากเพียรพยายามตามสมร
    จนเรือแตกแยกย้ายกระจายจร แต่อาวรณ์หวังสวาทไม่ขาดวัน
    ฯลฯ
    นึกจะใคร่ไปเยือนเหมือนหญิงญาติ เห็นกริ้วกราดเกรงใจจึงไต่ถาม
    ถ้าโทษนี้พี่ผิดอย่าปิดความ จงตอบตามใจจริงทุกสิ่งเอย ฯ
      ขอบังคมสมเด็จพระเชษฐา  ซึ่งเมตตาทำนองต้องประสงค์
    ไม่กลับกลอกตะคอกขู่รู้ซื่อตรง จะช่วยส่งปลูกฝังไปลังกา
    ฯลฯ
    เป็นอันขาดชาตินี้ไม่มีผัว แม้นทำชั่วเชิญพระองค์ลงโทษา
    จงออกโอษฐ์โปรดตรัสสัตย์สัญญา ที่พูดจาไว้แต่หลังอย่าหวังคิด
    ฯลฯ
    น้องตั้งสัตย์ตัดขาดแล้วชาตินี้ อันสามีขี้ขลาดไม่ปรารถนา
    จะขออยู่ผู้เดียวด้วยลูกยา เป็นสัจจาใจจริงทุกสิ่งเอย ฯ
                พระอภัยออกอุบายให้สินสมุทไปเฝ้าพระเจ้าอา ศรีสุวรรณรู้ความนัยจึงหน่วงเหนี่ยวสินสมุทไว้จนค่ำ นางสุวรรณมาลีเห็นพลบค่ำ แล้วสินสมุทยังไม่กลับมา ก็รู้ทันพระอภัย จึงคิดอ่านเป็นการลับกับสาวใช้ที่ร่วมใจเจ็ดคนพวกดนตรีให้ปลอมตนเป็นผู้ชาย แล้วนางแต่งแปลงตนเป็นชายแขกเทศ แล้วเอาหมอนข้างวางบนเตียง คลี่สไบคลุมไว้ทำทีเป็นตนนอนอยู่ แล้วบอกว่าถ้าใครมาหาให้บอกว่าตนหลับอยู่ แล้วคอยดูอยู่ห่าง ๆ   เมื่อเห็นเข้าไปในแท่นสุวรรณก็ให้ขับดุริยางค์ขึ้นพร้อมกัน แล้วนางก็ทรงกระบี่ออกมานั่งหลังตึกใต้ต้นจันทน์ชมดวงจันทร์เล่นตามสบาย


    • Update : 1/6/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch