|
|
สมุนไพรไทยรักษาโรคได้จริงหรือ/7
กลุ่มยาถ่าย
|
ผักกาดขาว
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brassica chinensis (L.) Jusl.
|
ชื่อสามัญ : Chinese White Cabbage
|
วงศ์ : Brassicaceae
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชอายุปีเดียว มีระบบรากตื้น ใบมีลักษณะห่อปลียาวหรืออาจห่อหลวมๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ใบมีสีขาวถึงสีเขียวอ่อน เป็นพืชวันยาวดอกมีสีเหลืองยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ผักกาดขาวส่วนใหญ่มีการผสมข้ามโดยแมลงและผึ้ง
ส่วนที่ใช้ : ราก ต้น
|
สรรพคุณ : แก้หวัด แก้ท้องผูก แก้ผิวหนังอักเสบจากการแพ้
วิธีใช้และปริมาณการใช้ :
|
กลุ่มยาถ่าย
|
มะขามแขก
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Senna alexandrina P. Miller
|
ชื่อสามัญ : Alexandria senna, Alexandrian senna Indian senna
|
วงศ์ : Fabaceae (Leguminosae-Caesalpinioideae)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ใบแห้ง และฝักแห้ง ช่วงอายุ 1 เดือนครึ่ง (หรือก่อนออกดอก)ไม้พุ่ม สูง 0.5 – 1.5 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูปวงรีหรือรูปใบหอก กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 2.5-3.5 ซม. ดอกช่อ ออกที่ซอกใบตอนปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลือง ผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนาน
ส่วนที่ใช้ :
|
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
ใบมะขามแขกหนัก 2 กรัม หรือ 2 หยิบมือ หรือใช้ฝัก 10-15 ฝัก ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว 5 นาที ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อกลบรสเฝื่อน รับประทานครั้งเดียว หรือ ใช้วิธีบดใบแห้ง เป็นผงชงน้ำดื่ม บางคนดื่มแล้วเกิดอาการไซ้ท้อง แก้ไขโดย ต้มรวมกับยาขับลมจำนวนเล็กน้อย (เช่น กระวาน กานพลู อบเชย) เพื่อแต่งรสและบรรเทาอาการไซ้ท้อง
มะขามแขก เหมาะกับคนสูงอายุ ที่ท้องผูกเป็นประจำแต่ควรใช้เป็นครั้งคราว
ข้อห้าม : ผู้หญิงมีครรภ์ หรือ มีประจำเดือน ห้ามรับประทาน
สารเคมี : ใบและฝักพบสารประกอบพวก anthraquinones เช่น sennoside A.B.C.D. aloe emodin , emodin , rhein , physcion , และสาร anthrones dianthrones
|
กลุ่มยาถ่าย
|
แมงลัก
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum basilicum L.f. var. citratum Back.
|
ชื่อสามัญ : Hairy Basil
|
วงศ์ : Apiaceae ( Labiatae )
|
ชื่ออื่น : ก้อมก้อขาว มังลัก
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตรง โคนต้นแข็ง สูงประมาณ 40-65 ซ.ม. แตกกิ่งก้าน ทุกส่วนมีกลิ่นหอม ใบ เดี่ยว สีใบสีนวล ใบมีขนอ่อน ๆ ใบเรียงตรงข้ามเป็นคู่ ๆ ดอก ช่อ ออกที่ปลายยอด ช่ออาจเป็นช่อเดี่ยว หรือแตกออกเป็นช่อย่อย ๆ ดอกบานจากข้างล่างขึ้นข้างบน กลีบรองดอกจะคงทนและขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเป็นผล กลีบดอกสีขาวแบ่งเป็น 2 ปาก ร่วงง่าย เกสรตัวผู้จะยื่นยาวกว่ากลีบดอก ดอกย่อยออกโดยรอบก้านช่อเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นมีดอกย่อย 6 ดอก แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 3 ดอก ดอกตรงกลางจะบานก่อน และช่อดอกย่อยที่อยู่ชั้นล่างสุดของก้านช่อดอกจะบานก่อนเช่นกัน ผล 1 ดอกมีผล 4 ผล ขนาดเล็ก คือเมล็ดแมงลัก รูปร่างรูปรีไข่ สีดำ
ส่วนที่ใช้ : เมล็ด และใบ
|
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชา แช่น้ำให้พอง แล้วดื่มก่อนนอน จะช่วยทำให้ระบาย เป็นยาถ่าย
สารเคมี :
เมือกจากเมล็ด พบ D-xylos, D-glucose, D-galactose, D-mannose, L-arabinose, L-rhamnose, uronic acid , oil, polysaccharide และ mucilage
ส่วนใบ พบน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย borneol L-B-cadinene, 1-8-cineol, B-caryophyllene, eugenol
|
กลุ่มยาถ่าย
|
ว่านหางช้าง (ว่านแม่ยับ)
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Belamcanda chinensis (L.) DC.
|
ชื่อสามัญ : Black Berry Lily, Leopard Flower
|
วงศ์ : IRIDACEAE
|
ชื่ออื่น : ว่านมีดยับ
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 0.6 - 1.2 เมตร มีเหง้าเลื้อยตามแนวขนานกับพื้นดิน ใบเดี่ยว แทงออกจากเหง้า เรียงซ้อนสลับ กว้าง 2 - 3 ซม. ยาว 30 - 45 ซม. เนื้อใบค่อนข้างหนา ดอกช่อ ออกที่ปลายยอด กลีบดอกสีส้มมีจุดประสีแดงกระจาย ผลแห้ง เมื่อแก่จะแตกอ้า และกระดกกลับไปด้านหลัง
ส่วนที่ใช้ : ราก เหง้าสด ใบ เนื้อในลำต้น
|
สรรพคุณ :
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
ความรู้เพิ่มเติม - เกี่ยวกับทางด้านความเชื่อ
มีความเชื่อกันว่าเป็นว่านมหาคุณ ปลูกไว้หน้าบ้านกันภัยอันตรายต่างๆ เพราะสามารถนำว่านนี้มาใช้ประโยชน์ทางไสยคุณได้ เช่น
-
ดอก - ใช้แก้ไสยคุณที่เกิดจากการกระทำจากผม
-
ใบ - ใช้แก้ไสยคุณที่เกิดจากการกระทำจาก เนื้อ
-
ต้น - ใช้แก้ไสยคุณที่เกิดจากการกระทำจาก กระดูก
ในภาคอีสาน นิยมปลูกเป็นว่านศิริมงคล แม่บ้านกำลังจะคลอดลูก ใช้ว่านหางช้างนี้พัดโบกที่ท้องเพื่อให้คลอดลูกง่ายขึ้น
|
กลุ่มยาถ่าย
|
ส้มเช้า
|
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Euphorbia neriifolia L. (E. ligularia Roxb.)
|
ชื่อสามัญ : -
|
วงศ์ : Euphorbiaceae
|
ชื่ออื่น : -
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ใบ ยาง ไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 3-5 เมตร กิ่งก้านเป็นเหลี่ยม มีหนามแข็งตามมุม เรียงเป็นแถวตามยาว มีน้ำยางขาว ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปวงรีหรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 4-6 ซม. ยาว 10-15 ซม. ดอกช่อ รูปถ้วย ออกตามกิ่งก้าน ใบประดับสีเหลือง ดูคล้ายกลีบดอก ดอกย่อยแยกเพศ อยู่ในช่อเดียวกัน ไม่มีกลีบดอก ผลแห้ง
ส่วนที่ใช้ :
|
สรรพคุณ :
|
กลุ่มยาถ่าย
|
สมอไทย
|
|
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Terminalia chebula Retz. var. chebula
|
ชื่อสามัญ : Myrabolan Wood
|
วงศ์ : COMBRETACEAE
|
ชื่ออื่น : มาแน่ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) สมออัพยา (ภาคกลาง) หมากแน่ะ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน)
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ผลอ่อน ผลแก่ ผล ใบไม้ต้น สูง 20-35 เมตร เปลือกต้นขรุขระ ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้ามหรืเกือบตรงข้าม รูปวงรี กว้าง 6-10 ซม. ยาว 8-15 ซม. ดอก ช่อ ออกที่ซอกใบหรือปลายยอด เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบสีเหลือง ผลเป็นผลสด รูปวงรี มีสัน 5 สัน
ส่วนที่ใช้ :
|
สรรพคุณ :
-
ผลอ่อน - มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ถ่ายเสมหะ ลดไข้ ขับลมในลำไส้
-
ผลแก่ - มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเดิน
-
ผล - ใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง มี Tannin มาก ใช้ทำหมึก
-
ใบ - เป็นยาสมานแผล เป็นยาบำรุงถุงน้ำดี
วิธีและปริมาณที่ใช้ : ใช้ผลอ่อน 5-6 ผล หรือ 30 กรัม ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว ใส่เกลือเล็กน้อย รับประทานครั้งเดียว จะถ่ายหลังให้ยาประมาณ 2 ชั่วโมง
|
|
Update : 23/5/2554
|
|