หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ขุนช้าง ขุนแผน ในพงศาวดาร 15
    ทัพไทยกับทัพเชียงใหม่รบกัน
     
    เมื่อสองทัพเข้าประจันหน้ากัน  แสนตรีเพชรกล้าเข้าต่อสู้กับพลายงาม ต่างฝ่ายต่างใช้คาถาอาคมเข้าต่อสู้กัน  ไม่อาจแพ้ ไม่อาจชนะ  จนทหารของลาวอ่อนกำลังลง  ท้าวกรุงกาฬจึงยกพลเข้าช่วย   ส่วนแสนตรีเพชรกล้านั้นเมื่อเพลี่ยงพล้ำแต่ก็ฆ่าไม่ตาย  ขุนแผนก็บอกให้เอาหลาวมาสวนทวารจนตาย
          "ขุนแผนร้องว่าอย่ามี่ฉาว เฮ้ยพวกเราเอาหลาวทะลวงก้น
          ถึงมาตรแม้นอยู่ยงมันคงทน      แยงให้จนถึงคอคงมรณา"
    พระเจ้าเชียงใหม่ให้รักษาเมือง
    ฝ่ายพระเจ้าเชียงใหม่  เมื่อรู้ข่าวว่าทัพของตนพ่ายแพ้ก็สลดใจ แต่ด้วยมานะกษัตริย์ ก็สั่งให้เสนารักษาเมือง โดยให้ตั้งค่ายให้มั่นคง
    "....ให้เร่งรัดจัดรักษาซึ่งเวียงชัย   ให้ตั้งค่ายรายไปรอบพารา
    ปิดทวารทั้งนั้นให้มั่นคง   ลงเขื่อนไม้แก่นให้แน่นหนา
    ปืนหามแล่นเอาจุกทุกเสมา   คาบศิลาใส่ตับลำดับไว้
    ที่ขอบค่ายนั้นให้รายปืนจ่ารง   ที่ช่องตรงประตูกลางวางปืนใหญ่
    เอาประขาวกวาดวัดทั้งฉัตรชัย   จุกใส่ให้ทุกช่องทวารา
    บนกำแพงทวารข้างด้านใต้   จงเอาซุงแขวนไว้ให้หนักหนา
    แม้นข้าศึกฮึกโหมโจมเข้ามา   เอามีดพร้าตัดทับให้ยับไป
    ในกำแพงถากถางหนทางเดิน   แถวถนนบนเชิงเทินให้กว้างใหญ่
    ที่ตรงหว่างวางปืนกองฟืนไฟ   คั่วกรวดทรายไว้ให้ทุกกอง
    ให้กรมเมืองร้องป่าวชาวประชา   ผู้ดีไพร่ให้เข้ามาทุกบ้านช่อง
    นั่งยามตามไฟเที่ยวสอดมอง   ตีฆ้องตรวจตระเวนกะเกณฑ์กัน...
    .....สระบ่อท่อธารบ้านของใคร   ขุดไขน้ำเข้าให้เต็มที่
    ข้าวปลานาไร่ของใครมี   ให้ขนมาไว้ที่นี่สิ้นทั้งนั้น......
    .....ถ้าข้าศึกเข้าด้านใครอย่าไว้มัน                  เอาไปฟันเสียบเสียสาใจ .....
    ขุนแผนพลายงามจับพระเจ้าเชียงใหม่
    ขุนแผนพลายงามคิดเข้าตีเมืองเชียงใหม่
     
    ฝ่ายขุนแผนเมื่อตีทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไปแล้ว  ก็ปรึกษากับพลายงามว่า  ควรจะเข้าประชิดเมืองเชียงใหม่ แล้วเข้าโจมตีไม่ให้ตั้งตัวได้  เพราะหากช้าไปจะขาดเสบียงอาหาร  และควรจะตีให้ได้ภายในสองวัน  คืนนั้นขุนแผนกับพลายงาม ก็ทำพิธีเซ่นไหว้ภูตพรายและเหล่าเทพารักษ์  แล้วบอกว่าขอให้ไปช่วยรบกับผีเมืองและขับไล่ไป   เพราะพระเจ้าเชียงใหม่ เป็นคนไม่มีศีลธรรม
    แล้วได้ตรัสสั่งอีกว่า  หากข้าศึกบุกเข้าถึงตัวเมือง ก็อย่าเพิ่งออกรบให้ตั้งมั่นไว้  นอกเมืองก็ให้เผายุ้งฉางให้หมด  ทัพไทยก็จะอดอยากเมื่อนั้นก็จะได้ไปฆ่าให้หมด
    พระเจ้าเชียงใหม่ถึงกาลที่ชะตาจะขาด  ฝันเห็นผีเมืองไม่อาจสู้ผีป่าได้ ทั้งพระเสื้อเมืองทรงเมือง หอเครื่องเจตคุกก็หนีไปหมด  และทุกคนก็ฝันเช่นเดียวกันหมดทั่วทุกครัวเรือน  แต่ด้วยมานะกษัตริย์พระเจ้าเชียงใหม่ก็ไม่ยอมแพ้
    "อันชาติเสือถึงจะตายลายก็อยู่   ให้ใครดูรู้ชาติว่าอาจหาญ
    ชาติกษัตริย์ถึงจะป่นจนวายปราณ   มิให้พานชื่อชั่วว่ากลัวใคร"
    นางอัปสรมเหสีห้ามพระเจ้าเชียงใหม่
    นางอัปสรสุมาลี มเหสีพระเจ้าเชียงใหม่  เห็นบ้านเมืองวิปริตก็คิดว่า  จะเสียเมืองกันในคราวนี้จึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเชียงใหม่แล้วทูลว่า  ตนไม่ได้คิดหึงหวงนางสร้อยทอง  แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเพราะเอานางสร้อยทองมาไว้ ควรจะส่งตัวคืนไปบ้านเมืองจะได้สงบสุข  แต่พระเจ้าเชียงใหม่ไม่ยอม  จะขอสู้ทัพไทย
    ".....พวกลาวระวังตัวทั่วธานี   เข้าประจำหน้าที่ทั้งสิ้นนั้น
    บ้างเคี่ยวชันหลอมตะกั่วคั่วทราย   ตั้งเตารายบนกำแพงไว้แข็งขัน
    กองไฟรอบเมืองเนืองเนือง กัน   ส่งแสงแดดฉันทั้งเวียงไชย
    องค์พระเจ้าเชียงอินทร์ปิ่นนัครา   ออกมาสั่งเสนาผู้น้อยใหญ่...."
    ขุนแผนพลายงามเข้าวังพระเจ้าเชียงใหม่
     
    เมื่อถึงยามสาม ขุนแผนกับพลายงามก็ร่ายเวทย์สะกดทหาร นอกกำแพงเมืองจนหลับไปหมด แล้วทั้งสองก็ขี่คอภูตพรายข้ามกำแพงเมืองไป  สะกดทหารในเมืองแล้วสะเดาะกลอนเข้าไปในวัง   ขุนแผนสั่งให้กุมารทองเข้าไปสะกดพระเจ้าเชียงใหม่  มเหสีและลูกสาว ขุนแผนและพลายงามเดินตรวจตราไปทุกห้องในวัง   จนถึงห้องบรรทมของมเหสี และนางสร้อยฟ้าธิดา
    "กระหมวดมุ่นเกศาก็น่าชม   ปักปิ่นทองถมราชาวดี
    กุณฑลสองข้างพร่างแสงเพชร   สังวาลประดับสลับเม็ดพลอยต่างสี
    กำไลกรทองร่อนรูปนาคี   ธำรงค์เรือนมณีสีพร่างพราย
    ผ้านุ่งถึงยกกนกกรอง   ห่มแพรริ้วทองจำรัสฉาย"
    ฝ่ายขุนแผนและพลายงาม  เมื่อมาถึงห้องบรรทมของพระเจ้าเชียงใหม่ก็เข้าไปเอาดาบและอาวุธข้างตัวมา แล้วสั่งให้ กุมารทองเลิกสะกด  พระเจ้าเชียงใหม่ก็ตื่นขึ้นแล้วควานหาอาวุธแต่ไม่พบ  ก็คิดว่าคราวนี้คงจะตายแน่  ขุนแผนจึงว่า พระพันวษาเห็นพระเจ้าเชียงใหม่ส่งราชสาส์นแสดงถึงความโอหัง  ก็ให้เราซึ่งเป็นทหารมาฆ่าเสีย ฉะนั้นจะยอมให้ฆ่าหรือจะกลับตัวกลับใจเสีย
    พระเจ้าเชียงใหม่ยอมแพ้
    พระเจ้าเชียงใหม่กลัวตายจึงขอชีวิตแล้วบอกว่า จะขอเป็นข้ารับใช้พระพันวษา ส่วนนางสร้อยทองนั้น ยังไม่ได้ไปเกี่ยวข้องจะถวายคืนให้  ขุนแผนก็ทูลว่า หากที่ตรัสไว้นี่เป็นสัตย์ก็จะกลับไปทูลขอโทษต่อพระพันวษาให้ และถวายดาบคืนแก่พระเจ้าเชียงใหม่  เมื่อขอขมาแล้วก็ทูลลากลับ  แต่ให้โหงพรายและกุมารทองเฝ้าดูไว้
    รุ่งขึ้น พระเจ้าเชียงใหม่เสด็จไปหามเหสี  แล้วว่าเมื่อคืนศัตรูเข้ามาถึงที่ห้องบรรทม  เมื่อตื่นมาไม่พบอาวุธจึงยอมแพ้  แล้วได้ถวายเมืองเชียงใหม่ ผู้คนและนางสร้อยฟ้าให้กับพระพันวษา  มเหสีฟังก็ตกใจ

    • Update : 18/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch