หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    รามเกียรติ์ 22
    พระมงกุฎถูกจับ
      เมื่อทัพของพระพรตและพระสัตรุต พร้อมด้วยหนุมานไปพบกับพระมงกุฎและพระลบ ทั้งสองจึงว่าม้านี้ไม่มีใครเลี้ยงดู อยู่ในป่าจับได้ก็ขี่ แล้วก็ไม่ได้เป็นลูกน้องพระราม หากจะจับก็ต้องรบกัน เมื่อรบกันพระมงกุฎต้องศรพระพรตสลบ ส่วนพระลบหนีไปได้
      เมื่อพระรามเห็นพระมงกุฎแล้วรู้เรื่องราวทั้งหมดก็โกรธ ให้มัดตัวพระมงกุฎพาไปประจานทั่วเมือง แล้วเอาขึ้นขาหยั่งไว้สามวันให้ประหาร
      ฝ่ายพระลบหนีไปบอกพระฤาษีกับนางสีดา พระลบจึงขออาสาไปชิงตัวพระมงกุฎกลับ นางสีดาห้าม แต่พระลบไม่ยอม นางสีดาจึงถอดแหวนให้ โดยหาโอกาสให้แหวนนี้แก่พระมงกุฎ
      เมื่อพระลบตามมาถึงศรีอยุธยา ได้พักอยู่ใต้ต้นไทรใกล้ประตูเมือง แล้วไหว้เทวดาและเสื้อเมืองทรงเมืองให้ช่วยบังไม่ให้ใครเห็น และขอให้พบพี่โดยเร็ว พระอินทร์ได้ให้เทวดาแปลงกายเป็นนางงามกระเดียดหม้อมา เข้ามาถามพระลบ พระลบเล่าให้ฟังว่าจะมาดูกุมารที่ถูกจับ แต่ประตูปิดจึงไม่ได้เห็น นางจึงบอกว่าพระลบมีหน้าเหมือนคนที่ถูกจับ หากใครเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้ แล้วก็บอกว่าตนจะไปตักน้ำให้นักโทษ พระลบอาสาตักน้ำแล้วแอบใส่ แหวนไว้ในหม้อ พร้อมกับอธิษฐานว่า ขอให้แหวนไปสวมที่นิ้วพระมงกุฎ แล้วให้พ้นโทษกลับมาหาพระลบ นางแปลงนำหม้อน้ำไปถึงที่พระมงกุฎถูกจองจำ อ้อนวอนแก่เพชฌฆาตว่าจะนำน้ำมาให้นักโทษ เมื่อได้รับอนุญาตก็นำน้ำไปให้ แล้วแหวนก็สวมที่นิ้งนางขวา ความเจ็บปวดก็หายไป และหลุดจากถูกมัด จากนั้นพระมงกุฎก็หนีไปตามทางที่นางบอกจนไปพบกับพระลบ

      พระรามพบโอรส
      ฝ่ายพระรามรู้ว่านักโทษหนีไป ก็โกรธให้จับเพชฌฆาตทั้งสี่ขัง แล้วยกทัพไปตามจับสองกุมาร พบว่ามีหน้าตาเหมือนกัน เมื่อขณะรบกันศรทั้งสองไม่ทำลายซึ่งกันและกัน พระรามจึงอธิษฐานว่าหากกุมารนั้นเป็นเชื้อกษัตริย์ อย่าให้ศรนี้ฆ่าได้ และให้กลายเป็นอาหาร เมื่อแผลงไปก็กลายเป็นอาหาร พระรามสงสัยจึงถามสองกุมาร
      พระมงกุฎได้บอกว่าเป็นลูกนางสีดา แต่ไม่รู้ว่าบิดาเป็นใคร    ได้อาศัยอยู่กับฤาษีวัชมฤค พระรามสงสัยเรื่องฆ่านางสีดา    พระลักษมณ์ทูลความจริง พระรามสำนึกผิด เข้ามาหาพระมงกุฎกับพระลบ ขอให้ยกโทษให้ พระมงกุฎและพระลบขอโทษที่ต่อสู้ด้วย แล้วจูงมือวิ่งหนีไป
      พระราม พระลักษมณ์ พระพรตและพระสัตรุต ได้พากันตามสองกุมารไป
      พระมงกฎได้กลับไปเล่าเรื่องให้นางสีดาฟัง และบอกว่าทั้งหมดได้ตามมาถึงหน้าอาศรมนี้แล้ว นางสีดาไม่ยอมออกไป แต่นิมนต์ฤาษีไปเจรจากับพระราม    เมื่อรู้เรื่องราวฤาษีคิดสงสารพระราม กลับมาไกล่เกลี่ย นางสีดาใจอ่อน ให้พระฤาษีพาพระรามมาพบ อย่างไรก็ตามนางสีดาก็ไม่ยอมกลับศรีอยุธยา พระรามจึงขอพระมงกุฎและพระลบไปอยู่อยุธยา เพื่อนางสีดาคิดถึงลูกจะได้ตามไป    นางสีดายอมให้เอาโอรสไป แล้วพาพระมงกุฎและพระลบมาไหว้พระราม ฤาษีเห็นว่านางสีดายอมให้โอรสไป แต่ตัวไม่ยอมไปในเมืองด้วยก็รับปากว่าจะดูแลให้
      ฝ่ายพระรามเมื่อเข้าไปอยู่ในศรีอยุธยาพร้อมกับโอรส    ก็มีความคิดถึงนางสีดามาก ได้ให้พระมงกุฎและพระลบไปอ้อนวอนนางสีดาให้กลับคืนศรีอยุธยา เมื่อพบกันนางสีดาไม่ยอมกลับพร้อมกับบอกโอรสว่า ตนนั้นถูกพระรามผู้เป็นพ่อตราหน้าว่าเป็นคนชั่ว ประชาชนรู้ทั่วเมือง

      พระรามแกล้งสวรรคต
      พระรามได้คิดอุบายลวงนางสีดาให้กลับมา โดยให้หนุมานเนรมิตพระเมรุพร้อมโกศแก้วบรรจุศพ แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเป็นพระศพใคร แล้วให้หนุมานไปทูลนางสีดา นางสีดาหลงเชื่อว่าพระรามสิ้นพระชนม์ก็เสียใจ ไปลาฤาษีเข้าศรีอยุธยา หนุมานเชิญเสด็จประทับบนฝ่ามือเหาะเข้าเมือง นางสีดาตรงไปกราบโกศแก้วแล้วร้องไห้จนสลบ พระรามแอบดูอยู่เข้าไปอุ้มนางไว้
      เมื่อนางสีดาฟื้นก็รู้ว่าถูกหลอก จึงตั้งสัตย์อธิษฐานขอให้แม่พระธรณีเปิดช่องให้หนีทุกข์ไปยังเมืองพญานาค เมื่อแผ่นดินแยกออกนางจึงกระโจนลงไป แผ่นดินก็ปิดตามเดิม

      พระรามเดินดงครั้งที่สอง
      พระรามเสียใจมาก ให้หนุมานไปตามแล้วกลับมาบอกว่านางสีดาไปอยู่เมืองบาดาล แคว้นท้าววิรุณนาคราช อย่างสมพระเกียรติ    พระรามไม่รู้จะทำอย่างไร จึงแผลงศรไปหาพิเภก พิเภกเหาะมาเฝ้าแล้วทูลว่า พระรามกำลังมีเคราะห์ ควรไปเดินป่าหนี่งปีก็จะสิ้นเคราะห์ และนางสีดาก็จะกลับมา
      พระรามได้ฝากราชกิจแก่พระพรตและพระสัตรุต แล้วออกเดินป่าพร้อมพระลักษมณ์และหนุมาน
      ฝ่ายยักษ์ชื่อกุเวรเป็นเจ้าเมืองกาลวุธ มีมเหสีชื่อเกศินี มีโอรสชื่อตรีปักกัน ซึ่งมีนิสัยหยาบช้า ชอบรุกรานให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่ว วันหนึ่งได้ออกไปเที่ยวป่า พบกับพระรามพระลักษมณ์และหนุมาน ได้ให้บริวารเข้าล้อมจับจนเกิดต่อสู้กัน และตรีปักกันต้องศรพระลักษมณ์ตาย ท้าวกุเวรรู้ข่าวก็โกรธมากยกทัพออกไปรบ แต่ต้องศรพระรามตาย

      ศึกกุมภัณฑ์นุราช
      ฝ่ายยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อกุมภัณฑ์นุราช ที่ต้องคำสาปพระอิศวรให้มาอยู่ถ้ำสุรกานต์ ออกมาจากถ้ำพบพระรามพระลักษมณ์และหนุมาน ก็คิดจะจับกิน    หนุมานเข้าต่อสู้ กุมภัณฑ์นุราชถามว่าสองคนนั้นเป็นใคร เมื่อรู้ว่าเป็นพระรามก็ตกใจมาก ขอโทษหนุมาน    หนุมานพาไปพบพระราม พระรามประทานอภัยให้พ้นคำสาป
      ฝ่ายสุครีพรู้เรื่องราวของพระรามกับนางสีดา และรู้ว่าพระรามออกเดินป่าจึงพาองคตตามไปพบพระรามที่ในป่า นิลพัทและมัจฉานุ ขอติดตามไปด้วย

    • Update : 17/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch