หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    รามเกียรติ์ 21
    พระรามปูนบำเหน็จ
      พระรามได้ให้รางวัลทุกคนที่ออกรบครั้งนี้ โดยให้หนุมานไปครองกรุงมลิวัน นิลพัทเป็นพระยาอภัยพัทธพงศา อสุรผัดเป็นพระยามารนุราชอุปราชลงกา ยามลิวันเป็นพระยาวันยุพักตร์ ครองกรุงกุรุราช กันยุเวกเป็นพระยากันนุชิต ครองเมืองจักรวาล เปาวนาสูรให้กลับมาเป็นอำมาตย์ใหญ่ของพิเภกและอื่น ๆ แก่พลลิง และพลมาร
      ฝ่ายไวยวิกและนางพิรากวน ที่ได้ครองเมืองบาดาลแทนไมยราพ ก็นึกถึงบุญคุณของหนุมานตลอดมา จึงคิดมาเยี่ยมและมาเฝ้าพระรามด้วย ไวยวิกได้ชวนมัจฉานุซึ่งเป็นอุปราชยกทัพมา พลวานรเห็นกองทัพมา ท้าวชมพูที่กำลังยกทัพกลับมา ก็เข้าใจผิดคิดว่าไวยวิกเป็นกบถ ได้นำทัพเข้าต่อสู้ พระรามได้ยินเสียงดังกึกก้อง ก็ให้หนุมานไปดู เห็นไวยวิกกับมัจฉานุก็จำได้ จึงเข้าขวางทัพ ไวยวิกและมัจฉานุเล่าให้ฟัง    จากนั้นก็พากันเข้าเมืองไปเฝ้าพระราม    พระรามได้ใช้พระขรรค์โมลีตัดหางที่เป็นปลาของมัจฉานุให้ แล้วบอกว่าหากการให้หนุมานไปครองเมืองมลิวันก็จะอยู่ไกล จึงให้มัจฉานุไปครองแทน และให้นางรัตนมาลีเป็นมเหสี ส่วนไวยวิกนั้นให้ไปครองเมืองบาดาลตามเดิม

      ปีศาจนางอาดูล
      วันหนึ่งพระรามเกิดอยากเที่ยวป่า ได้ชวนพระลักษมณ์ไปด้วย ส่วนนางสีดาตั้งครรภ์จึงอยู่ที่ตำหนัก นางสีดารู้สึกเร่าร้อนได้ชวนนางกำนัลไปอาบน้ำที่ท่าหลวง
      ฝ่ายยักษ์ตนหนึ่งชื่อนางอาดูล เป็นญาติของทศกรรฐ์ อยู่ใต้ดิน รู้ว่าที่เหล่ายักษ์พากันล้มตายก็เพราะนางสีดาเป็นต้นเหตุ ก็คิดแค้นนางสีดาเรื่อยมา และหาวิธีกลั่นแกล้งให้นางสีดาต้องพลัดพรากพระราม ได้ขึ้นมาจากใต้ดิน แปลงกายเป็นนางกำนัล มีรูปร่างงามมาหานางสีดา ถึงเวลาที่จะถึงคราววิบัติของนางสีดา ทำให้ไม่สงสัย แล้วนางอาดูลก็ตามนางสีดาขึ้นพระตำหนัก และถามนางสีดาถึงหน้าตาของทศกรรฐ์
      นางสีดาเล่าให้ฟัง    นางอาดูลบอกว่านึกไม่ออกควรจะวาดรูปให้ดู นางสีดาได้วาดรูปทศกรรฐ์ให้นางอาดูลดู และนางกำนัลอื่น ๆ ก็มาดูกัน เป็นเวลาที่พระรามพระลักษมณ์กลับจากป่า นางอาดูลรีบหายตัวเข้าไปสิงรูป    นางสีดารู้ว่าพระรามกลับมาก็รีบลบรูปแต่ลบไม่ออก จึงนำไปซ่อนไว้ใต้ที่นอนของพระราม เมื่อพระรามจะนอนก็ให้ร้อนรุ่มและโมโหเอากับนางสนมกำนัล

      พระรามให้ฆ่านางสีดา
      นางสีดาได้ให้นางข้าหลวงไปบอกพระลักษมณ์ พระรามเล่าความรู้สึกให้ฟัง พระลักษมณ์ค้นห้องดูพบรูปทศกรรฐ์ แล้วนำไปให้พระรามดู นางสีดาคิดว่าถ้าอยู่เฉยนางกำนัลทั้งหลายจะเดือดร้อน จึงทูลความจริงแก่พระราม พระรามโกรธหาว่านางสีดาแพศยา ให้นำไปฆ่า พระลักษมณ์ได้ลอบพานางออกไปจากเมืองในตอนค่ำ และพระลักษมณ์กลัวพระรามรู้ก็ใช้พระขรรค์ฆ่านาง แต่นางสีดาไม่ตาย พระลักษมณ์จึงให้พระนางหนีไป ส่วนตนจะกลับเข้าเมืองก่อนเวลาเช้า
      ฝ่ายพระอินทร์เห็นเรื่องราวทั้งหมด จึงคิดช่วยทั้งนางสีดาและพระลักษมณ์ ได้บันดาลให้มีเนื้อทราย นอนตายอยู่ระหว่างทางที่พระลักษมณ์จะผ่านกลับเมือง พระลักษมณ์ได้ควักดวงใจเนื้อทรายไปถวายพระราม

      กำเนิดพระมงกุฎ พระลบ
      ส่วนนางสีดาได้เดินทางมาพบกับพระอินทร์ที่แปลงเป็นควายมาคอยนางสีดา เห็นนางสีดาเดินร้องไห้มา จึงถามเหตุ นางสีดาเล่าให้ฟังแล้วขอให้ ควายแปลงพาไปหาฤาษีเพื่อขอพึ่ง ควายแปลงได้พานางไปพบกับฤาษีชื่อวัชมฤค ฤาษีได้รับเลี้ยงนางไว้ โดยเนรมิตกุฏีให้หลังหนึ่ง จนนางสีดาคลอดโอรสทิ้งไว้ในเปล แล้วไปฝากฤาษีให่ช่วยดูแล แล้วตนจะไปอาบน้ำ แต่ไปเห็นลิงแม่ลูก จึงได้คิดถึงโอรสกลับไปเอามาไม่บอกฤาษี ฤาษีลืมตาไม่เห็นโอรสก็จะทำพิธีไฟชุบโอรสให้ใหม่ โดยวาดรูปกุมารในกระดานเพื่อทำพิธี เมื่อเห็นนางสีดาพาโอรสกลับมา ก็จะลบรูปกุมารในกระดาน นางสีดาขอให้ชุบขึ้น เพื่อเป็นเพื่อนเล่นของโอรส เมื่อชุบได้แล้ว ฤาษีได้ตั้งชื่อพระโอรสว่า มงกุฎ ส่วนโอรสที่ชุบขึ้นให้ชื่อว่า ลบ ทั้งสองเรียนวิชากับฤาษีจนจบ และฤาษีได้เอาไม้ไผ่อ่อนมาเหลาเป็นคันศรและลูกศร องค์ละสามเล่ม แล้วให้ฝึกหัดยิงจนเกิดความชำนาญ ต่อมาฤาษีคิดจะตั้งพิธีชุบศรให้
      เสี่ยงม้าอุปการ
      วันหนึ่งพระมงกุฎกับพระลบ ลาฤาษีและพระมารดา ไปเที่ยวป่า แล้วชวนกันประลองศรเกิดเสียงสนั่นไปทั่ว พระรามได้ยิน รู้ว่าคงจะมีผู้มีบุญมาทดลองฤทธิ์ และโหรประจำราชสำนักได้ทูลให้ปล่อยม้าอุปการไปเสี่ยงทาย พร้อมกับให้หนุมานตามสะกดรอยไป หากใครจับไปขี่ย่อมแปลว่าคิดขบถให้จับตัวมาถวาย    พระรามเห็นด้วยจึงให้ไปเชิญพระพรตและพระสัตรุตมา แล้วให้ตามม้าอุปการไปด้วย
      ฝ่ายนางสีดาตั้งแต่พระมงกุฎและพระลบ ขอไปเที่ยวป่า แล้วไปประลองศรก็ร้อนรุ่มใจ คิดว่าอาจมีกษัตริย์ผู้มีฤทธิ์เกิดความริษยามาจับตัวไปได้ ก็ห้ามไม่ให้ทั้งสองไปเที่ยวป่าอีก แต่โอรสทั้งสองไม่เชื่อ ลาไปป่าอีก ขณะที่กำลังเที่ยวป่าอยู่ พระมงกุฎเห็นม้าอุปการหน้าดำตัวขาวตลอดหาง เท้ามีสีแดง ก็บอกพระลบว่าเป็นม้าประหลาด ให้ช่วยกันจับ จับได้แล้วก็พบสาสน์แขวนคอม้า เมื่ออ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นสาสน์ของพระรามที่ปล่อยม้ามา หากใครพบให้มาบูชาม้าอุปการ แต่หากใครนำไปขี่จะถูกฆ่าตาย ก็โมโหมาก ก็จับม้าอุปการขี่ หนุมานซึ่งสะกดรอยตามมาเห็นคิดว่า สองกุมารน่าจะเป็นลูกกษัตริย์เมืองใดเมืองหนึ่ง จะฆ่าเสียก็ได้ แต่กลับแผลงฤทธิ์เข้าจับ ถูกพระมงกุฎตีด้วยศรสิ้นสติ แล้วสองกุมารก็ขี่ม้าเล่นต่อไป
      เมื่อหนุมานฟื้นก็คิดอุบายโดยแปลงเป็นลิงป่าเข้าไปตีสนิท พอได้โอกาสจะเข้าจับถูกตีด้วยศรล้มลง แล้วทั้งสองโอรสเอาเถาวัลย์มัดหนุมานและสักหน้าด้วยยางไม้เขียนเป็นคำสาป หนุมานแก้ไม่หลุดเดินกลับไปหาทัพพระพรตและพระสัตรุต เล่าเรื่องให้ฟัง พระพรตเอาพระขรรค์ตัดเถาวัลย์ก็ไม่ขาด เมื่อเห็นคำสาปบนหน้าผาก ก็รู้ว่าแก้ไม่ได้ จึงพากันกลับไปเฝ้าพระราม พระรามแก้มัดให้เถาวัลย์จึงหลุดออก หนุมานเล่าให้ฟัง พระรามโกรธมาก    ให้หนุมานไปทูลพระพรตและพระสัตรุต ให้ไปจับตัวทั้งสองมาลงโทษให้ได้

    • Update : 17/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch