หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน
















ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  เครื่องราง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง พระอาจารย์ป้อม
  พระเครื่อง หลวงพ่อสวัสดิ์
  พระเครื่อง หลวงปู่พิมพ์มาลัย
  พระเครื่อง หลวงพ่อสง่า
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    วิชาไสยศาสตร์
    วิชาไสยศาสตร์

            วิชาไสยศาสตร์ อยู่คู่กับแผ่นดินไทยมาช้านานเป็นวิชาที่ใช้ปกป้อง คุ้มครองประเทศไทยเรามาช้านาน โดยอาศัยคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นกระแสหลัก คุณบิดามารดาเป็นกระแสที่สอง คุณครูบาอาจารย์ เป็นกระแสที่สาม ทั้งหมดนี้เรียกรวมว่าคุณพระ วิชาไสยศาสตร์ก็คือการทำจิตให้เข้าถึงคุณพระนั่นเอง

             เนื่องจากบุญบารมีและพลังจิตของเรายังไม่มากพอ ไม่สามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆ ให้เป็นไปตามความปราถนาของเราได้ จึงต้องมีการขอพึ่งบุญบารมี ของคุณพระผู้ประเสริฐ ผู้บริสุทธิ์ ผู้ทรงคุณ เพื่อช่วยทำให้ความปราถนาของเราเกิดผลสำเร็จ

             จึงเกิดมีวิชาไสยศาสตร์ คาถาอาคมขึ้น แต่วิชาไสยศาสตร์นั้น ไม่ใช่ว่าใครนึกจะเรียนก็เรียนได้ ต้องมีครูมีอาจารย์เป็นผู้ถ่ายทอด เป็นผู้ฝึกสอน อีกทั้งเคล็ดวิชาต่างๆที่ซ่อนความนัย หรือที่ปกปิดเอาไว้ก็ต้องเรียนรู้จากผู้เป็นอาจารย์ ทั้งยังต้องมีการฝึกสมาธิ ฝึกเพ่งกสิณ ต้องมีการตั้งกสิณจากอาจารย์ผู้ทรงคุณ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะบ้าเอา เพราะวิชากสิณมีความแรงมาก บางคนอาจคิดว่าฝึกกสิณเองไม่มีคนตั้งกสิณให้ทำไมไม่เห็นเป็นอะไรเลย คำตอบคือยังฝึกไม่ถึงขั้นไม่สำเร็จดวงกสิณ จึงยังไม่ได้รับผลกระทบ

    ผู้ที่จะเรียนวิชาไสยศาสตร์ได้นั้น มีอยู่ 2 ประเภท จากบุคคล 3 ประเภท

             ประเภทที่ 1 เรียกว่าพวกโง่ที่สุด คือมีการศึกษาน้อย มีศรัทธาสูง อาจารย์สั่งอะไรก็เชื่อตามนั้น ไม่ลังเลสงสัย สามารถเสกคาถาอาคมให้เกิดผลสำเร็จตามปราถนาได้ แสดงฤทธิ์ได้

             ประเภทที่ 2 เรียกว่าพวก เชื่อครึ่งๆกลางๆ มีความลังเลสงสัยมาก กล่าวคือมีการศึกษามาก ทำให้ลังเลสงสัยในเรื่องจิต ในวิชาไสยศาสตร์ กังวลว่าเสกแบบนี้แล้วจะเป็นไปตามคำสั่งอาจารย์จริงหรือเปล่า พวกนี้เรียนให้ตายก็ไม่สำเร็จ นอกจากจะพัฒนามาเป็นประเภทที่ 3

             ประเภทที่ 3 เรียกว่าพวกฉลาดที่สุด พวกนี้มีความเข้าใจเรื่องจิต เรื่องคุณพระ รักพระพุทธเจ้า รักครูบาอาจารย์จริงๆ เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้ที่มาของอักขระตัวคาถา ว่ามาจากไหน เหตุใดตัวคาถาไม่กี่ตัว จึงมีอิทธิปาฏิหาริย์มากนัก เข้าถึงควมมหัศจรรย์แห่งจิต สามารถสัมผัสพลังคุณพระได้ จิตจึงไม่มีความลังเลสงสัย เพราะได้ทำการค้นคว้าหาเหตุผลอยู่ตลอดเวลาจนเข้าใจ และเข้าถึงคุณพระ สามารถเสกคาถาอาคมให้เกิดผลสำเร็จตามปราถนาได้ แสดงฤทธิ์ได้เหนือล้ำกว่าพวกโง่ที่สุด และมีความพิศดารมากกว่าหลายเท่า

             การใช้คาถาแต่ไม่ได้ยกครู-ครอบครูเป็นศิษย์ตามระเบียบนั้น จะเป็นอันตรายกับตัวเองเนื่องจากครูบาอาจารย์เจ้าของคาถาที่เป็นเทวดาท่านจะลงโทษเอา แรกๆอาจจะพอทำได้บ้างต่อมาก็เสื่อม แต่เท่าที่เห็นมาคือใช้ไม่ได้ผลเลย เพราะตัวบทคาถาเหล่านี้มีครู มีอาจารย์ มีแรงครูสูง ตามแต่ตัวบทคาถา-วิชา จะทำเป็นเล่นไม่ได้ ถึงขั้นฉิบหายวายวอด จนถึงขั้นตายมาก็มากแล้ว อย่าทำผิดคำสั่งครูบาอาจารย์ เพราะวิชาไสยศาสตร์ถือว่าคำสั่งครูบาอาจารย์เป็นที่สุด สั่งให้ทำอะไรต้องทำตามนั้น ห้ามลังเลสงสัยเป็นอันขาด มิเช่นนั้น จะเรียน วิชาไสยศาสตร์ ไม่สำเร็จ


    • Update : 16/5/2554
    © Copyright 2011 www.watnongmuang.com All rights reserved 999arch